bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เงินเดือนเข้า เราขอออกเที่ยว รับคำท้า..ขับรถลงใต้ เที่ยวภูเก็ต 4 วัน 3 คืน มันก็จะชิลๆหน่อย

calendar_month 14 มิ.ย. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 61,955 / ทริปตัวอย่าง

เงินเดือนเข้า เราออกเที่ยว รับคำท้า..ขับรถลงใต้
เที่ยวภูเก็ตหน้าฝน 4 วัน 3 คืน มันก็จะชิลๆหน่อย

เก็บฤดูหนาวไว้ไปเที่ยวภาคเหนือ และเมื่อฝนตกก็ยังไม่หายร้อน จะมีอะไรดีไปกว่า “ทะเล” ตะลุยทั่วเกาะภูเก็ตกับเจ้าถิ่น ฟินยกแก๊งค์ สนุกครบรส

หน้าฝนทีไร..ทะเลน้อยใจทุกที ทะเลอาจจะไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ของใครหลายคนในการมาเที่ยว แต่เมื่อเพื่อนชาวภูเก็ตการันตีมาว่า ภูเก็ตหน้าฝนเนี่ยชิลกว่าหน้าร้อนอีก คนน้อยกว่า ไม่วุ่นวาย เรียกได้ว่าเที่ยวได้สบายๆ สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่แทบจะเป็นของเรา ไหนๆ คุณเพื่อนก็คอนเฟิร์มมาขนาดนี้ พอเงินเดือนเข้า เราก็ออกเที่ยว รีบตบปากรับคำสิจ๊ะ จะรออะไร..ลุยกันเลยค่า

ทริปนี้เราได้รถใหม่มาลองค่ะ นี่คือ New Honda Mobilio ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียม ผู้ชายขับก็เท่ ผู้หญิงขับก็เก๋ อุ่นใจเหมือนมีเพื่อนสุดแกร่งพร้อมไปกับเราทุกที่ เอาใจคนเมืองที่ชอบเดินทาง ไม่ว่าระยะทางจะใกล้หรือไกลก็ขับลุยไปได้ตลอดทริปการเดินทาง



ภายในกว้างขวาง สะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนเมือง

 

เราเริ่มออกเดินทางจากรุงเทพฯ กันตั้งแต่ตี 4 ตามแผนคือจะแวะทานอาหารระหว่างทาง 2 มื้อ คือมื้อเช้าแถวตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ และมื้อเที่ยงแถวตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนจะขับรถลงใต้มาทาง จ.กระบี่ จ.พังงา มุ่งหน้าสู่จังหวัดภูเก็ต



เปิดเพลย์ลิสต์เพลงโปรดฟังไปเพลินๆ ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อโทรศัพท์เข้ากับช่อง USB ในรถ

ขับรถกันมาอย่างยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ในที่สุดเราก็มาถึงภูเก็ตตอน 4 โมงเย็น คืนนี้เราจะเข้าพักที่ เดอะ เมมโมรี แอท ออน ออน โฮเต็ล ตามแผนคือเราจะเข้าไปเช็คอินที่พักกันก่อนเลย แต่ทว่า... 

อีกแค่ไม่กี่เมตรก็จะเข้าเส้นชัยแล้ว แต่พอเราขับผ่านร้านอาหาร ตู้กับข้าว เท่านั้นแหละ! สมาชิกในทริปทุกคนเห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวว่า "หิวข้าวมาก" เราเลยจอดรถกินข้าวกันก่อนเลยจ้า 

ตัวเมืองภูเก็ตถนนค่อนข้างเล็กค่ะ แต่โชคดีที่ New Honda Mobilio มีกล้องมองหลัง เวลาถอยรถเข้าจอดก็สะดวกสบาย ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลย 

 

ตู้กับข้าว
ถนนพังงา เมืองภูเก็ต

จอดรถเรียบร้อย ก็ไปที่ร้านตู้กับข้าวกันเลย สำหรับร้านตู้กับข้าวเป็นร้านอาหารพื้นเมืองภูเก็ตน้องใหม่ที่กำลังมาแรงสุดๆ ใครตั้งใจมาทานอาหารฉบับคนภูเก็ต มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวังเลยค่ะ ร้านตั้งอยู่ในอาคารเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีสบนถนนพังงา ได้บรรยากาศไปอีก

ด้วยความหิวโซ..พวกเราสั่งเมนูเด็ดมาซะละลานตา ไม่ว่าจะเป็นปลากระพงทอดขมิ้น, น้ำพริกกะปิกุ้งเสียบ, หมูฮ้อง, ต้มส้มภูเก็ตปลาย่าง, หมูเหลี่ยมต้อผัดกะปิสับปะรดสะตอ 

เมนูนี้สุดฟิน "ต้มส้มภูเก็ตปลาย่าง" รสชาติจี๊ดจ๊าด อร่อยลงตัว ด้วยวัตถุดิบที่มาจากของดีขึ้นชื่อเมืองภูเก็ตอย่างสัปปะรด กะปิ สะตอ นำมาแกงต้มส้มใส่ปลาย่าง รสชาติออกเปรี้ยวนำ เค็มตาม ฟินสุดๆ

ต่างคนต่างหิว ณ จุดๆ นี้พวกเราลงมือทานกันแบบไม่มีใรรอใครแล้ว

ปิดท้ายด้วยเมนูของหวานที่ขอบอกว่าอร่อยมากกก (ก.ไก่ล้านตัว) ทั้งพานาคอสต้า ขนมหวานสัญชาติอิตาลี เนื้อละมุน ทำจากครีมผสมน้ำตาล ตามมาด้วยพุดดิ้งอินทผาลัม เค้กอินทผาลัมรสชาติเข้มข้นทานกับซอสนมร้อนๆ ปิดท้ายด้วยไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง เผลอแป๊ปเดียว..หมดเกลี้ยง!

อิ่มท้องกันแล้ว ก็รีบไปเช็คอินเข้าที่พักกันเลย
 

เดอะ เมมโมรี แอท ออน ออน โฮเต็ล
ถนนพังงา เมืองภูเก็ต

โรงแรมนี้..เพื่อนเจ้าถิ่นคนภูเก็ตแนะนำว่าพวกเราต้องมาลองพักสักคืน เพราะที่นี่คือ "โรงแรมแห่งแรกของเมืองภูเก็ต" เชียวนะ ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สไตล์ชิโนโปรตุกีสที่ได้รับการบูรณะอย่างดี คงเสน่ห์ความเป็นภูเก็ตเมืองเก่าไว้ได้อย่างลงตัวเลยค่ะ

เรานอนที่นี่กัน 1 คืน เพื่อที่จะได้ซึมซับบรรยากาศเมืองเก่ากันสักหน่อย จอดรถเรียบร้อย ก็ขนสัมภาระไปเช็คอินกันเลยยย

พอเข้ามาที่ล็อบบี้ ก็จะมีมุมของเก่าของสะสมให้เราถ่ายรูปเพียบ ใครสายแช๊ะรับรองเมมเต็มแน่

ห้องพักที่เป็นไฮไลท์เด็ดก็คือห้อง The Beach ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Beach ห้องที่ลีโอนาโด ดิคาปริโอ เคยมาพักนอนครั้งเมื่อถ่ายหนัง วันนี้เราแต้มบุญถึงโชคดีสุดๆ จองได้ห้องนี้พอดี กรี๊ดเลยค่า

เก็บสัมภาระกันเรียบร้อย ก่อนตะวันจะลับฟ้า..เรามีเวลาอีกนิด เจ้าถิ่นก็พาชาวกรุงฯอย่างเราไปเดินเล่นชม Street Art และตึกเก่าย่านชิโนโปรตุกีส 

 

ภูเก็ต สตรีท อาร์ท 
ย่านภูเก็ตโอลด์ทาวน์

มาภูเก็ตมีหรือจะพลาด ไม่งั้นเรียกว่ามาไม่ถึงนะ กับ ย่านภูเก็ตโอลด์ทาวน์ ย่านนี้เรียกว่าป๊อปปูล่าสุดๆ เพราะมีทั้งคาเฟ่น่านั่ง สตรีทอาร์ต และตึกสไตล์ชิโนโปรตุกีส ให้เดินชิล ถ่ายรูปเล่น ชมย่านเมืองเก่า

หลังจากเดินเล่นถ่ายรูปจนหมดแสง ก็ได้เวลาของมื้อเย็นแล้ว มาเมืองทะเลทั้งที งานนี้ต้องมีซีฟู้ด
 

มุขมณีซีฟู้ด
หาดราไวย์

เราขับรถไปไม่ไกลจากตัวเมืองมาก ไปหาซีฟู้ดทานกันที่หาดราไวย์กับ “ร้านมุขมณี” ซึ่งอยู่ในโซนที่เรียกได้ว่าเป็นถนนสายซีฟู้ดเลยค่ะ 

ถึงร้านปุ๊ปสั่งเมนูปั๊บ จานนี้เพื่อนสาวเราขอรีเควสกับปูผัดพริกไทยดำ ปูตัวใหญ่เนื้อแน่นผัดกับพริกไทยดำ หอม อร่อย เนื้อปูสดและหวานมากๆ

ส่วนเราชอบทานปลา เลยขอสั่งเมนูรสจัดจ้านกับ ปลาเก๋าราดพริกสด ทานกับข้าวสวยร้อนๆ ฟินสุดๆ ไปเลย

นอกจากนี้ยังมีหอยเชลล์อบชีสและหมึกชุบแป้งทอดตามมาติดๆ นี่หิวกันมาจากไหนเนี่ย!

หนังท้องตึงหนังตาก็หย่อน ได้เวลากลับที่พักของเราแล้ว นอนหลับสบายตามรอยดาราดัง พรุ่งนี้หนทางเรายังอีกยาวไกล นอนเอาแรงไว้เยอะๆ ดีกว่า
 

เช้าตื่นมาทานเบรคฟาสต์เติมพลังพร้อมออกเดินทางไปยังจุดหมายต่อไป วันนี้เราตั้งใจจะไป แหลมพรหมเทพ ค่ะ ป่ะ..ขึ้นรถ สำหรับ New Honda Mobilio นี้ก็สามารถพับตลบเบาะนั่งแถวสองได้ในจังหวะเดียว สะดวกสบายสุดๆ

แต่ขับรถออกมาไม่นาน พวกเราก็หิวซะแล้ว ถามเพื่อนเจ้าถิ่นว่าแถวตัวเมืองเก่ามีอะไรน่าแวะชิมบ้าง นางบอกว่าไปแถวสะพานหินมั้ย? มีร้านเด็ดจะพาไปชิม
 

ขนมจีนสะพานหิน

เราคนกรุงฯ ก็ต้องเชื่อเจ้าถิ่นสิ มาถึงแล้วกับร้านขนมจีนสะพานหิน มีหลากหลายน้ำยา น้ำพริก และแกง อร่อยเด็ดให้เลือกทาน ยิ่งขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารภูเก็ตแล้วล่ะก็ รสชาติไม่ต้องพูดถึง อร่อยจัดจ้านทุกเมนูเลยค่ะ 

งานนี้เบิ้ลกันไปคนละ 2 จาน รสชาติได้ใจ แถมมีผักเคียงให้เลือกเยอะมาก อร่อยจริง คอนเฟิร์มเลย

ออกจากสะพานหินก็มุ่งหน้าลงไปทางโซนใต้เกาะ เจ้าถิ่นก็บอกว่าที่แหลมพันวามีคาเฟ่เก๋ๆ ที่พวกเราน่าจะชอบ แวะสิคะ..รอไร


Cafe Kantary
แหลมพันวา

เราแวะไปนั่งชิลจิบกาแฟ ทานขนมอร่อยกับร้านน่ารักริมทะเลที่ Cafe Kantary มาถึงแล้วขอแช๊ะรูปเล่นกับเดอะแก๊งค์ริมทะเลกันสักหน่อย

ภายในร้านตกแต่งได้น่ารักมาก เน้นโทนสีขาว-ฟ้าสบายตา ให้บรรยากาศชิลๆ นั่งอยู่ริมทะเล มองไปด้านหน้าจะเห็นเกาะเฮอยู่ไกลๆ

มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง ใครอยากนั่งรับลมทะเลก็มีโซนเอาท์ดอร์ไว้รองรับ หรือใครอยากตากแอร์เย็นๆ ก็ต้องโซนห้องแอร์เลยค่ะ ส่วนแก๊งค์เราอยากซึมซับบรรยากาศริมทะเล เลยเลือกนั่งโซนด้านนอก ร่มรื่นไปกับเงาต้นไม้น้อยใหญ่รอบๆ ร้าน ชิลเว่อร์

เพื่อนสาวคอกาแฟเช้านี้นางยังไม่มีคาเฟอีนเข้ากระแสเลือด เลยขอสั่งกับเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านกับ Hot Coffee Kantary และ Caramel Macchiato Float ทานคู่กับ Homemade Pancake Strawberry Crumble และ Banana in Black Crepe อร่อยฟินทุกเมนูก็ได้เวลาเดินทางต่อ

เติมพลังกันเรียบร้อย สถานีต่อไปคือ "แหลมพรหมเทพ" จุดชมวิวที่ใครมาภูเก็ตต้องแวะมาชมความงามสักครั้ง

ถนนจากแหลมพันวาไปแหลมพรหมเทพนี่คดเคี้ยวจนเราเผลอคิดไปว่านี่ภูเก็ตหรือแม่ฮ่องสอน?

แต่พวกเราก็มั่นใจ เพราะ New Honda Mobilio มีระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA (Vehicle Stability Assist) เพิ่มการยึดเกาะถนน มั่นใจทุกการขับเคลื่อนเลยค่ะ

 

แหลมพรหมเทพ

ขับรถมาไม่กี่อึดใจก็ถึงแล้ว "แหลมพรหมเทพ" จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกแห่งในเมืองไทย อยู่ใต้สุดของเกาะภูเก็ตห่างจากตัวเมืองประมาณ 19 กม. หากทริปนี้ไม่ได้แวะมาที่นี่ ก็ถือว่าทริปของเราไม่สมบูรณ์ งานนี้คุณเพื่อนเจ้าถิ่นเลยขอท้าว่ากล้าเดินลงไปตรงจุดชมวิวด้านล่างมั๊ย? แถมคุยโวว่าวิวสวยกว่าด้านบนเป็นร้อยเท่า มา..กล้าท้าเราก็กล้าไป

ทางเดินไปปลายแหลมค่อนข้างยากลำบากสักนิดนึง เพราะเป็นธรรมชาติเพียวๆ ไม่มีทางเดินที่ถูกสร้างขึ้น 

ระยะทางเหมือนจะชิล แต่เหนื่อยเอาการเลยค่ะ แต่พอเห็นวิวตรงหน้าแล้ว หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลย

ขาลงมาไม่เท่าไหร่ ขากลับนี่สิ...

กลับขึ้นมาถึงรถนี่เสื้อเปียกเหงื่อกันถ้วนหน้า เปิดแอร์เบอร์แรงเลยจ้า! ดีนะที่ New Honda Mobilio เค้ามีระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังแยกต่างหาก

พลังยังเหลือ ไหนๆมาเที่ยวจังหวัดทะเลสวยอันดับต้นๆของไทยแล้ว เราก็ขอไปสัมผัสบรรยากาศชิลๆ ริมทะเลกันที่ "หาดกะตะ" สักหน่อย

 

หาดกะตะ

หาดนี้นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นเซิร์ฟกัน ส่วนแก๊งค์เรานะหรอ ขอเดินชิลๆ เตะทรายเล่น ถ่ายรูปกันริมหาดก็พอแล้ว

 

The Slate

เสร็จสิ้นภารกิจแบบลุยๆ ก็ได้เวลาเช็คอินเข้าที่พักสำหรับคืนที่ 2 ของเราแล้วกับ “The Slate” โรงแรมที่มีดีไซน์โดดเด่น มากับคอนเซ็ปต์สุดเท่เป็นเหมืองแร่สมัยก่อน สวยตั้งแต่ทางเข้ายันเตียงนอนเลยค่ะ

เก็บของเสร็จแล้วเราขอไปเดินชมบรรยากาศรอบๆที่พักกันสักหน่อย 

เรานอนพักห้อง Pool Villa ค่ะ เพราะชาวแก๊งค์อยากได้ความเป็นส่วนตัว สำหรับพูลวิลล่าที่นี่เหมือนบ้านหลังเล็กๆ แบ่งออกเป็น 1 ห้องนอน และอีก 1 ห้องนั่งเล่น มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดเลย

ในห้องนอนมีอ่างจากุชชี่ให้แช่ตัวผ่อนคลายด้วย

สำหรับมื้อเย็นนี้เราเลือกไปฝากท้องกับร้านดังใกล้ๆที่พักกันที่ Boss Bar  


Boss Bar
หาดในยาง

เห็นชื่อไฮโซโก้เก๋แบบนี้ แต่ที่นี่เป็นอาหารเมนูพื้นเมืองนะจ๊ะ ว่าแล้วไม่รอช้า...รีบคว้าเมนูมาสั่งอาหารกันเลย

ไฮไลท์เด็ดอยู่ที่จานนี้ เมนูยอดฮิตของทางร้านกับ "ต้มซุปปลากระพง" รสชาติจัดจ้าน เปรี้ยวจี๊ดถึงใจ ตามมาด้วยเมนูปูย่างและปลาหมึกย่าง ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด แซ่บมาก


อิ่มแล้วก็กลับที่พักไปพักผ่อน เก็บแรงไว้ลุยต่อวันต่อไป
  


เช้าตื่นมาสูดอากาศดีๆ พร้อมไปเติมพลังทานเบรคฟาสต์กัน อาหารเช้าที่นี่มีให้เลือกเยอะมาก ทั้งของคาว ของหวาน เมนูอาหารพื้นเมือง ผลสุดท้ายอาหารก็ถูกวางเต็มโต๊ะแบบที่เห็นนี่แหละค่ะ

เช็คเอ้าท์ออกจากที่พักพร้อมเก็บสัมภาระทุกอย่างให้เข้าที่ เตรียมมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไปของเรากันเลย 


กีมาลา ภูเก็ต
หาดกมลา

มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้กับที่พักสุดอลังการดาวหมดจักรวาลคืนสุดท้ายของเรากับ “Keemala” ที่พักสุดหรูดีไซน์สุดล้ำเหมือนหลุดเข้ามาอยู่ในโลกแฟนตาซี บอกเลยว่าอลังการมากกก

แค่ทางเข้าก็ไม่ธรรมดาแล้ว เราต้องขับรถผ่านลำธารเล็กๆ ที่ไหลผ่านถนนก่อนเข้ารีสอร์ท ด้วยท้องรถที่สูงจากพื้นถึง 189 มิลลิเมตร ทำให้ลุยน้ำเข้าไปได้สบายๆ แถมแอดเวนเจอร์สุดๆ 

กีมาลา รีสอร์ท เป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทในฝันของใครหลายๆคน บรรยากาศภายในร่มรื่นมากๆ ดูรวมๆ แล้วเหมือนอยู่บาหลีเลยล่ะค่ะ แถมห้องพักจะเป็นพูลวิลล่าทุกหลัง มีความเป็นส่วนตัวสุดๆ แค่เห็นวิวจากมุมนี้แก๊งค์เราก็ตื่นเต้นกันสุดๆแล้ว

ถึงแล้วก็รีบขนของเตรียมตัวไปเช็คอินเข้าห้องพัก เพราะอดใจรอที่จะเห็นห้องนอนของเราไม่ไหวแล้ว สำหรับห้องที่เรานอนคืนนี้คือห้อง Bird's Nest Pool Villa เป็นวิลล่าที่ได้รับความนิยมสูงสุด แถมสวยสุดๆ เลยค่ะ 

ภายในห้องพักเรียกได้ว่าหรูหรามากๆ ด้วยการตกแต่งให้เข้ากับชื่อห้องพักบ้านรังนก เตียงนอนถูกดีไซน์ให้เหมือนกับกรงนกสีขาว น่านอน เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ให้ความรู้สึกเหมือนรังนกที่อยู่บนต้นไม้ สวยงามอลังกการมากๆ ค่ะ เปิดประตูออกไปด้านหน้าก็สามารถเดินลงสระว่ายน้ำได้เลย

มาถึงเหนื่อยๆ ก่อนอื่นขอไปพักผ่อนว่ายน้ำเล่นคลายร้อนกันสักหน่อย เพราะสระว่ายน้ำที่นี่ดีงามสุดๆ

เล่นน้ำกันจนหนำใจ ก็ได้เวลามื้อเย็นแล้ว สำหรับมื้อเย็นเราดินเนอร์กันที่ห้องอาหารของโรงแรมกีมาลา บรรยากาศหรูหราอลังการ รวมไปถึงเมนูอาหารแต่ละเมนูเรียกได้ว่าพรีเมียมสุดๆ จานเด็ดคือเมนูซีฟู้ดย่างเกลือหิมาลายัน เสิร์ฟมาบนก้อนเกลือยักษ์แบบนี้เลย อลังการมาก

อิ่มแปล้กันแล้วก็ได้เวลานอน แค่ทิ้งตัวลงไปบนที่นอนก็ฟินแล้ว 

 

หลับสบายจนแทบไม่อยากตื่น ก็ได้เวลาไปทานมื้อเช้าแล้ว ขอบอกว่าอาหารเช้าที่นี่อลังการไม่แพ้ดินเนอร์เลย 

สำหรับจานนี้ Smoothie Bowl ยกให้เป็นเดอะเบสท์เลยค่ะ ดีงามมาก สายเฮลตี้ต้องยกนิ้วให้กับความอร่อย

ก่อนเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ขอออกไปเดินเล่นชมบรรยากาศรอบๆ ที่พักบ้าง มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียวสบายตา อ๊ะ..แวะถ่ายรูปกันบนสะพานแขวนสักหน่อย มุมยอดฮิตที่มาแล้วห้ามพลาดเลย

 

ส่งท้ายทริปวันสุดท้าย ก่อนอำลาภูเก็ต เราขอไปจัดหนักทานอาหารอร่อยกันที่ “ร้านวันจันทร์”
 


วันจันทร์
ถนนเทพกระษัตรี

 

ร้านสไตล์วินเทจที่ดูเข้ากับความเป็นภูเก็ตในย่านเมืองเก่า ร้านนี้มีหลากหลายเมนูเด็ดพื้นเมืองให้เลือกอร่อย เป็นอีกหนึ่งร้านแนะนำที่มาภูเก็ตไม่ควรพลาด
 


 
มื้อนี้คนกรุงฯ ขอสั่งเองเลย ไม่ว่าจะเป็นเมนูคอหมูย่างพริกเกลือ ผัดผักเหนียงผัดไข่กุ้งเสียบน้ำพริกกุ้งเสียบ และเมนูหากไม่สั่งมาทานถือว่ามาไม่ถึงภูเก็ตกับ ห่อหมกปู หมูฮ้องและแกงปูใบชะพลู ถึงจะเป็นเมนูยอดฮิตของหลายๆ ร้าน แต่แต่ละร้านก็มีความอร่อยเฉพาะตัว ลองมาทานกันดูค่ะ ฟินมาก
 

อิ่มท้องแล้วก็พร้อมเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขอเช็ครูปกันสักหน่อย ทริปนี้เรียกได้ว่าเมมกล้องเกือบเต็ม สายแช๊ะอย่างเราเลยมีรูปไว้อัพอวดเพื่อนๆ ยาวไปจนถึงสิ้นปีเลย


ใครคิดจะขับรถมาเที่ยวภูเก็ต ลองเอาทริปนี้ไปตามรอยเป็นตัวอย่างได้เลยค่ะ ขอแค่ใจพร้อม รถคู่ใจพร้อม ต่อให้จุดหมายจะไกลแค่ไหน เราก็ไปถึง นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เรามาเยือนภูเก็ตด้วยรถยนต์ และก็ต้องยกตำแหน่งพระเอกให้ New Honda Mobilio ที่ทำให้ทริปเดินทางของเราครั้งนี้สนุกสุดมันส์จนแทบไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เลย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.honda.co.th/mobilio ค่ะ 

 

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai