ที่เที่ยวพะเนินทุ่ง : ทริปเที่ยวพะเนินทุ่ง 2 วัน 1 คืน
- สกู๊ป > ทริปตัวอย่าง โพสเมื่อ : 9/12/2558
66,645
อ่าน
ทริปนี้เหมาะสำหรับใครที่ต้องการไปพักผ่อนชมทะเลหมอก รับลมหนาว นอนดูดาว แต่มีเวลาไม่มาก เราเลยมีทริปพะเนินทุ่ง จังหวัดเพรชบุรีมาแนะนำกัน แหล่งชมทะเลหมอกที่ใกล้กรุงเทพฯมากที่สุด และยังเป็นแหล่งธรรมชาติที่สมบูรณ์ มีช่วงเวลาในการท่องเที่ยว ไม่ได้เปิดให้เที่ยวกันตลอดทั้งปี เพราะต้องปิดเพื่อฟื้นบำรุงป่า ให้ยังคงธรรมชาติอันสวยงามนี้ไว้ให้ได้เที่ยวชมกันได้นานๆ อยากรู้ว่าพะเนินทุ่งสวยงามแค่ไหน ตามไปดูกันเลยค่ะ..





9.00 น. เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กันแต่เช้า ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งถือได้ว่าไม่นานมากนัก หลับไม่กี่ตื่นก็ถึงแล้ว ก็ถึง จ.เพชรบุรีแล้วค่ะ
11:00 น. แวะทานข้าวเที่ยงกันก่อน ยังไงกองทัพก็ยังต้องเดินด้วยท้องอิ่มๆ หลังจากทานข้าวกันเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินทางมุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานกันต่อ
12:00 น. เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แวะถ่ายรูปชมวิวกันก่อนค่อยเดินทางขึ้นยอดเขาพะเนินทุ่ง
12:00 น. เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน แวะถ่ายรูปชมวิวกันก่อนค่อยเดินทางขึ้นยอดเขาพะเนินทุ่ง



14:00 น. ถึงแล้วศูนย์บริการนักท่องเที่ยวบ้านกร่าง แต่ยังไม่ถึงจุดหมายของเรานะ ไปกันต่อดีกว่า ขนสัมภาระขึ้นรถกระบะ 4x4 ออกเดินทางไปยังยอดเขาพะเนินทุ่ง ใครที่สนใจจะนำรถส่วนตัวขึ้นไปก็ได้ แต่ต้องชำนาญในการขับรถขึ้นเขา เพราะเส้นทางค่อนข้างชันและแคบ แต่ทางอุทยานก็มีรถรับส่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาด้วยรถส่วนตัวหรือไม่ชำนาญในการขับ โดยจะมีรายละเอียดดังนี้
นักท่องเที่ยวที่เดินทางไป-กลับที่เขาพะเนินทุ่ง
เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 05.30 น. -07.30 น.เวลาลงจากเขาพะเนินทุ่ง 09.00 น. -10.00 น. และ 16.00 น.-17.00 น.
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อพักค้างแรมที่เขาพะเนินทุ่ง
เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 13.00 น. -15.00 น.เวลาลงจากเขาพะเนินทุ่ง 09.00 น. -10.00 น. และ 16.00 น.-17.00 น.
โดยเสียค่าธรรมเนียม คือ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท รถยนต์สี่ล้อ 30 บาท รถกระบะ 40 บาท รถตู้ 50 บาท รถยนต์มากกว่าสี่ล้อ 70-80 บาท
สามารถจองที่พักบนอุทยานฯ ได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 0 3245 9293 ได้เลยค่ะ
ได้เวลาแล้ว เราก็เดินทางสู่ยอดเขาพะเนินทุ่งกันต่อเลยยยย..
นักท่องเที่ยวที่เดินทางไป-กลับที่เขาพะเนินทุ่ง
เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 05.30 น. -07.30 น.เวลาลงจากเขาพะเนินทุ่ง 09.00 น. -10.00 น. และ 16.00 น.-17.00 น.
นักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อพักค้างแรมที่เขาพะเนินทุ่ง
เวลาขึ้นจากบ้านกร่าง 13.00 น. -15.00 น.เวลาลงจากเขาพะเนินทุ่ง 09.00 น. -10.00 น. และ 16.00 น.-17.00 น.
โดยเสียค่าธรรมเนียม คือ ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท รถยนต์สี่ล้อ 30 บาท รถกระบะ 40 บาท รถตู้ 50 บาท รถยนต์มากกว่าสี่ล้อ 70-80 บาท
สามารถจองที่พักบนอุทยานฯ ได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โทร. 0 3245 9293 ได้เลยค่ะ
ได้เวลาแล้ว เราก็เดินทางสู่ยอดเขาพะเนินทุ่งกันต่อเลยยยย..



15:00 น. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็จะถึงที่พัก ซึ่งคืนนี้เราก็มาพักกันที่บ้านพักของอุทยาน ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทางบ้านพักอุทยานจะมีเวลาเปิดและปิดไฟเป็นเวลา โดยประมาณ 22:00 น. ก็จะปิดไฟแล้ว พอถึงที่พัก ก็เก็บสัมภาระ พักผ่อนตามสบายเลยยยย



18:00 น. เดินเท้าไปดูพระอาทิตย์ตกกันดีกว่า ที่แรกเราจะไปดูวิวอันสวยงามของยอดเขาพะเนินทุ่งกันก่อนเลยที่จุดชมวิวพะเนินทุ่ง เดินจากบ้านพักไปไม่ไกลเท่าไหร่ แต่พอเริ่มตกเย็นอากาศก็จะค่อนข้างเย็นขึ้นเหมือนกัน จุดชมวิวพะเนินทุ่งเป็นจุดชมทะเลหมอกยามเช้าและพระอาทิตย์ตกยามเย็น อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 974 สภาพป่าเป็นป่าดิบชื้นและดิบเขา





หลังจากที่เราดูพระอาทิตย์ตกกันมาแล้ว ก็กลับมาที่พักเพื่อทานอาหารเย็นและอาบน้ำเพื่อรอดูทางช้างเผือกกัน อากาศจะเย็นอยู่ที่ 15-18 องศา ซึ่งบอกก่อนเลยว่าหนาวพอสมควร ถึงกับต้องหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่กันเลยทีเดียว บอกก่อนนะคะว่าขึ้นไปพะเนินทุ่งแล้วสัญญาณโทรศัพท์ไม่มีต่อให้วิวสวยแค่ไหนก็ต้องเก็บภาพไว้รอสัญญาณโทรศัพท์มีถึงจะอวดเพื่อนได้ อึดอัดชะมัด ฮ่าๆ นอนเล่นกันไปเรื่อยๆ พอฟ้ามืดสนิท ประมาณ 22:00 น. แล้วแต่สภาพท้องฟ้าในแต่ละคืนอาจไม่เหมือนกันนะคะ เราไปดูทางช้างเผือกกันดีกว่า
22:00 น. ออกมาดูทางช้างเผือก เก็บภาพกันรัวๆ นี่คือข้อดีของที่ๆไม่วุ่นวาย ที่ๆท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงไฟจากตึกสูงๆ หรือบ้านผู้คนมากมาย จะทำให้ท้องฟ้าสวยขึ้นเป็นหลายเท่าเลยทีเดียว
22:00 น. ออกมาดูทางช้างเผือก เก็บภาพกันรัวๆ นี่คือข้อดีของที่ๆไม่วุ่นวาย ที่ๆท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงไฟจากตึกสูงๆ หรือบ้านผู้คนมากมาย จะทำให้ท้องฟ้าสวยขึ้นเป็นหลายเท่าเลยทีเดียว




หลังจากดูทางช้างเผือกเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน นอนเก็บแรงไว้ไปดูทะเลหมอกกันตอนเช้า หากใครที่กางเต้นท์นอนบอกเลยว่าจะได้สัมผัสกับไอเย็นจากธรรมชาติอย่างแท้จริง เหมาะกับคนที่ชอบอากาศหนาวเย็น แต่ถ้าใครนอนในบ้านพัก ใช่ว่าจะไม่หนาวนะคะ หนาวเหมือนกัน แต่ก็ยังหนาวแบบสบายๆ

07:00 น. หลังจากตื่นนอน อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เตรียมตัวไปดูทะเลหมอกกันเลย โดยเราต้องเดินทางไปดูทะเลหมอกที่ กม. 36 เป็นจุดชมทะเลหมอกที่ไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่นัก พร้อมแล้วก็เดินทางไปดูทะเลหมอกกันเลย



บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังเลยสักนิด เพราะวิวสวย หมอกหนา อากาศดี เงียบสงบ เป็นสถานที่ที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ
หลังจากชื่นชมกับทะเลหมอกแบบหน่ำใจแล้ว ก็เดินทางกลับไปยังที่พัก เพื่อเก็บของเตรียมตัวลงจากพะเนินทุ่ง
Tip : สิ่งที่แนะนำให้พกมาด้วย
- ยากันยุง
- ถุงเท้ากันทาก
- เสื้อกันฝน
- ยารักษาโรคประจำตัว
10:00 น. เดินทางลงจากเขาพะเนินทุ่ง
11:00 น. เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นที่เรียบร้อย เดินทางกลับกรุงเทพฯกันต่อเลย
13:00 น. ก่อนกลับกรุงเทพฯ เรามาแวะกันที่วัดมหาธาตุวรวิหาร เพื่อสักการะพระปรางค์ห้ายอดกัน
หลังจากชื่นชมกับทะเลหมอกแบบหน่ำใจแล้ว ก็เดินทางกลับไปยังที่พัก เพื่อเก็บของเตรียมตัวลงจากพะเนินทุ่ง
Tip : สิ่งที่แนะนำให้พกมาด้วย
- ยากันยุง
- ถุงเท้ากันทาก
- เสื้อกันฝน
- ยารักษาโรคประจำตัว
10:00 น. เดินทางลงจากเขาพะเนินทุ่ง
11:00 น. เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นที่เรียบร้อย เดินทางกลับกรุงเทพฯกันต่อเลย
13:00 น. ก่อนกลับกรุงเทพฯ เรามาแวะกันที่วัดมหาธาตุวรวิหาร เพื่อสักการะพระปรางค์ห้ายอดกัน





14:00 น. แวะหาของกินกันที่ตลาดหน้าวัดมหาธาตุวรวิหาร มีของกินมากมาย ราคาก็ไม่แพง แถมอร่อยอีกด้วย พอทานกันเสร็จก็เตรียมตัวไปกันต่อเลย
15:00 น. มาแวะกันต่อที่วัดเกาะแก้วสุธาราม เป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองเพรชบุรี เราแวะชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และสักการะขอพรให้เดินทางกลับกรุงเทพฯอย่างปลอดภัยกันนะคะ จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯกันเลย
15:00 น. มาแวะกันต่อที่วัดเกาะแก้วสุธาราม เป็นวัดเก่าแก่ประจำเมืองเพรชบุรี เราแวะชมภาพจิตรกรรมฝาผนังที่อายุเก่าแก่กว่า 300 ปี และสักการะขอพรให้เดินทางกลับกรุงเทพฯอย่างปลอดภัยกันนะคะ จากนั้นก็เดินทางกลับกรุงเทพฯกันเลย






16:00 น. เดินทางถึงกรุงเทพฯเป็นที่เรียบร้อย
ใครสนใจอยากจะมาสัมผัสกับบรรยากาศแบบนี้ เราแนะนำให้เก็บกระเป๋าแล้วมาเลย เพราะที่พะเนินทุ่ง เขาเปิดเป็นรอบในการให้ขึ้นชมธรรมชาติในแต่ละปี ปีนี้ทางพะเนินทุ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกันได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 30 กรกฎาคมของทุกปี
Story & Photo: Chill Juniors #15

เรื่องโดย
ADMIN
Chillpainai