Ban ya kaad (บันยากาด)ร้านบรรยากาศดีที่ต้องมานั่งชิลทานอาหารอร่อย

มีคนเคยบอกว่าร้านอาหารที่ดีนอกจากอาหารอร่อยแล้วบรรยากาศก็ต้องดีด้วยนะครับ เพราะการทานอาหารอร่อยในบรรยากาศดีๆ จะช่วยเพิ่มรสชาติในอาหารให้ดียิ่งขึ้น วันนี้ผมเลยแนะนำร้านที่ดีทั้งบรรยากาศและรสชาติ กับร้าน Ban ya kaad(บันยากาด) ที่ตั้งอยู่ในซอยประดิพัทธ์ 10 จะน่านั่งแค่ไหนไปชมกันเลย

ร้านหาไม่ยากครับ จากสี่แยกสะพานควาย ขับรถตรงเข้ามาในซอยประดิพัทธ์ เลี้ยวซ้ายเข้าซอย 10 ตัวร้านจะตั้งอยู่ทางขวามือ เป็นบ้านสีขาวแบบวินเทจร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ และยังมีกลาสเฮาส์อีกหนึ่งหลังที่ตั้งแยกออกมาจากตัวบ้าน สามารถนำรถเข้ามาจอดได้โดยมีพื้นที่รองรับประมาณ 10 คัน และยังมีพื้นที่บริเวณในซอยที่สามารถจอดได้

เจ้าของร้านนี้คือคุณคามิน จันทร์ฆฤต ผู้คร่ำหวอดในวงการโฆษณา เล่าให้เราฟังว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเก่าอายุประมาณ 70 ปี และได้เช่าทำโปรดักชั่นเฮาส์มาประมาณ 16 ปี แต่หลังจากที่ตนรีไทร์จากวงการโฆษณาเลยมีไอเดียทำให้บ้านหลังนี้เป็นร้านอาหาร เพื่อให้คนนอกได้มาดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ ของบ้าน ส่วนในอนาคตมีแพลนจะเปิดเป็นโฮสเทลเล็กๆ บริเวณชั้นบนของตัวบ้านอีกด้วย

แค่เปิดประตูร้านมาผมก็สะดุดตากับป้ายโรงหนัง "ฉายแล้ววันนี้" โดยคุณคามินเล่าว่าป้ายนี้ซื้อมาจากพ่อค้าขายของเก่า ซึ่งในอดีตเคยติดอยู่ที่โรงหนังเฉลิมเกียรติย่านฝั่งธน แต่ในปัจจุบันเลิกกิจการไปแล้ว และของตกแต่งอื่นๆ ภายในร้านก็มาจากของสะสมที่คุณมินสะสมเอาไว้

ผมชอบตู้ไม้ตัวยาว ที่นำมาวางไว้เป็นเคาน์เตอร์ในร้าน ก็เป็นหนึ่งในของสะสมคุณคามิน ทำให้บรรยากาศร้านดูเท่ คลาสสิค และวินเทจมากๆ 

พาไปชมกลาสเฮาส์ที่ตั้งแยกออกจากตัวบ้านกันบ้างครับ ห้องกระจกที่มีคอนเซ็ปต์คือการดึงธรรมชาติเข้ามาในตัวร้าน ภายในจัดแสดงพระบรมสาทิสลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่เก้า โดยในอนาคตจะมีการจัดแสดงผลงานศิลปะหมุนเวียนให้ชมและที่นี่ยังสามารถจัดประชุมสัมนากลุ่มย่อยๆ ได้อีกด้วยครับ

บริเวณเอาท์ดอร์นอกตัวร้านที่นำระแนงไม้ไผ่มาตกแต่ง มีบ่อบัว มีที่นั่งแบบโต๊ะญี่ปุ่นพร้อมบีนแบ็กที่ให้บรรยากาศชิลเหมาะกับมานั่งจิบเครื่องดื่ม ทานอาหารอร่อย ในยามเย็นมากๆ ครับ

มาชิมอาหารกันบ้างโดยเมนูอาหารของร้านนี้เน้นอาหารไทยรสชาติจัดจ้าน ที่การตกแต่งจานนั้นสวยงามมากๆ และการตั้งชื่อเมนูของร้านนี้ก็ไม่ธรรมเลยล่ะครับเริ่มต้นด้วยข้าวผัดแมวร้องไห้ ซึ่งก็คือข้าวผัดน้ำพริกกะปิรสเข้มข้น เสิร์ฟมาพร้อมกับปลาทูเนื้อมันอร่อย ทานกับผักเครื่องเคียงแบบไทยๆ ทั้งผักชีลาว ถั่วพลู มะเขือเปราะ ดอกโสน และลูกฉิ้งผักพื้นบ้านทางภาคใต้มีรสมันทานกับน้ำพริกกะปิเข้ากันสุดๆ จานนี้อร่อยมากๆ ทานหมดเกลี้ยงเลยตั้งชื่อให้จานนี้ว่าข้าวผัดแมวร้องไห้

ต่อด้วยสปาเก็ตตี้บันยากาด สปาเก็ตตี้เบค่อนผัดพริกแห้งรสชาติจัดจ้านที่เก๋ไก๋ด้วยการนำมาทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด ตอนแรกผมไม่คิดว่าจะเข้ากัน แต่เมื่อนำมาคลุกเคล้าเข้าด้วยกันความแซ่บของน้ำจิ้มนั้นก็ทำให้สปาเก็ตตี้ยิ่งอร่อยมากขึ้น

เมนูสุดท้ายกับไข่ตุ๋นบังเอิญเมนูนี้เกิดจากความบังเอิญตามชื่อเลยครับโดยคุณคามินเล่าว่าระหว่างที่นั่งปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนก็มีคนทำน้ำต้มยำหกใส่ไข่ตุ๋น พอชิมแล้วก็เกิดความชอบเลยนำน้ำต้มยำมาผสมกับไข่ตุ๋น และเพิ่มซีฟู้ดทั้งหมึกและกุ้งลงไปกลายเป็นไข่ตุ๋นต้มยำเนื้อเนียนอร่อยมากๆ ครับ

ใครที่อยากมาทานอาหารอร่อยเคล้าบรรยากาศดีๆ ก็มาได้เลยครับที่ร้าน Ban ya kaad(บันยากาด) และสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชั่น FWD MAX รับสิทธิพิเศษส่วนลดค่าอาหาร 10% ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย>>https://www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/#FWD

สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ
iOS: https://goo.gl/c1PwMq
Android: https://goo.gl/RVJ6Kl

ที่ตั้ง : 5 ซอยประดิพัทธ์ 10 แขวงสามเสนใน พญาไท กรุงเทพมหานคร 
เวลาเปิด : วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 11.30-22.30 น.
ราคา : เริ่มต้นที่ 85-455 บาท
เบอร์ติดต่อ : 02-279-1113

Tags: กรุงเทพฯ ที่กิน บันยากาด ร้านอาหาร อารีย์ คาเฟ่ ร้านบรรยากาศดี ร้านชิล ร้านกาแฟ ร้านอาหารไทย FWD FWDMAX

เขียนโดย

นางสาวฮานะ ชิลไปไหน

แชร์บทความนี้