bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

5 เส้นทางท่องเที่ยว สวยน่าเดินธรรมชาติน่ามอง เตรียมกล้องให้พร้อม รับรองว่าฟิน

calendar_month 22 พ.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 28,393 / สถานที่ยอดนิยม

บางคนชอบภูเขา บางคนชอบทะเล แต่ก็มีไม่น้อยที่เป็นสายชอบเดินป่า
เสาะแสวงหาความสวยงาม ร่มรื่น ท่ามกลางความเขียวขจีที่ซ่อนตัวชวนให้น่าหลงใหล
ไม่ว่าระยะทางมันจะไกลสักแค่ไหน แต่ก็จะต้องดั้นด้นไปให้ถึง เพราะสิ่งที่รออยู่ปลายทาง
มันช่างสวยงาม และคุ้มค่ามากพอที่จะไม่ลืมเลือน งานนี้ต้องเตรียมเป้ให้ว่อง ชุดเก่งให้ไว
เพราะเรากำลังจะไปตะลุย 5 เส้นทางท่องเที่ยว สวยน่าเดิน ธรรมชาติน่ามอง
เตรียมกล้องให้พร้อม รับรองว่าฟิน
กันล่ะ ~

06



 

กิ่วแม่ปาน

(จ.เชียงใหม่)

       กิโลเมตรที่ 42 ของทางขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ ดอยที่มีความสูงที่สุดของประเทศไทย มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงามนามว่า  "เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน-ดอยอินทนนท์" ไฮไลท์สำคัญของที่กิ่วแม่ปานนั้น เป็นทุ่งหญ้าสะวันนากว้างใหญ่สูงเท่าตัว ในช่วงหน้าหนาวทุ่งหญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นสีทองสวยงามไปทั้งภูเขาตัดกับสีของท้องฟ้า เดินขึ้นเขาไปเรื่อยๆ อีกหน่อย จะผ่านต้นไม้ยืนต้นเดี่ยวไหวลู่ตามสายลมเป็นสง่าท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ มุมถ่ายรูปในใจของใครหลายๆคน เเละในกิโลเมตรที่สองของการเดิน ทางจะเริ่มลงเขา ไล่ไปตามหน้าผา ข้างทางจะมีดอกกุหลายพันปีสีเเดงสวยสด  และที่สุดทางกิ่ว มีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริและพระมหาธาตุนภเมทนีดลได้ รวมไปถึงดอยหัวเสือที่ด้านหลังไกลๆ







(ขอบคุณภาพสวยๆจาก รีวิวปุบปับไปเหนือ - แม่ปาน น้ำดัง กำปอง จ.เชียงใหม่)


ภูหินร่องกล้า

(จ.เพชรบูรณ์)

       อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอุทยานแห่งชาติอยู่ไม่กี่แห่งในประเทศไทยที่มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม สมบูรณ์ทั้งป่าไม้ น้ำตก ความสวยงามทางธรณีวิทยา และประวัติศาสตร์การสู้รบที่เคยสูญเสียเลือดเนื้อของคนไทยกันเอง เมื่อครั้งที่มีความคิดทางการปกครองขัดแย้งกัน ราวปี พ.ศ. 2511-2525 ดังนั้นการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติจึงมีแหล่งท่องเที่ยว ที่ผสมผสานกันทั้งทางธรรมชาติและประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจอยู่หลายต่อหลายแห่ง ไฮไลท์หลักๆของที่นี่อยู่ที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ลานหินปุ่ม-ผาชูธง ซึ่งใช้เวลาเดินเท่ามากหน่อยสักราวๆ 2 ชั่วโมง เพราะตลอดเส้นทางจะมีความหลากหลายของพันธุ์ไม้ ดอกไม้ และลักษณะทางธรณีวิทยาที่สวยแปลกตาซุกซ่อนอยู่ รับรองว่าเดินถึงเมื่อไหร่เจอวิวสวยๆคงหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง
 


อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


 

เจ็ดคต - โป่งก้อนเส้า

(จ.สระบุรี)

       เปรียบเหมือนสวรรค์ของของคนรักป่าที่ต้องเข้ามาสัมผัสความงามของธรรมชาติให้เห็นด้วยตาตัวเอง สำหรับ "ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า" ด้วยความสมบูรณ์ของผืนป่าซึ่งมีความหลากหลายทั้งพันธุ์พืชและสัตว์ป่าบนพื้นที่กว่าหมื่นไร่ ใครอยากเดินป่าสำรวจเส้นทางสีเขียว ที่นี่จึงนับว่าเหมาะสมโดนใจสุดๆ แต่นอกจากกิจกรรมเดินป่าสำรวจความอุดมสมบูรณ์และหลากหลายของพืชพันธุ์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นให้ได้ทำกันเพลินๆอีกมากมาย อาทิ ดูนก ปั่นจักรยาน รวมถึงกิจกรรมส่องสัตว์ในระยะทาง 1 กิโลเมตร ก็มีให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเก็บเกี่ยวประสบการณ์อันน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกพักค้างคืนที่บ้านพัก หรือกางเต็นท์ได้เช่นกัน







(ขอบคุณภาพสวยๆจากรีวิว : สระบุรีเลี้ยวขวา เข้าป่านอนเปล ณ ศูนย์เจ็ดคตฯ (ซับป่าว่าน) – น้ำตกโกรกอีดก)
 

ดอยหลวงเชียงดาว

(จ.เชียงใหม่)

       “ดอยสูงดอกไม้สวย” เป็นคำที่ใครๆ ก็พูดถึงสถานที่แห่งนี้ ดอยหลวงเชียวดาว สูงเป็นอันดับ 3 รองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อำเภอเชียงดาวจังหวัดเชียงใหม่ เดิมทีชื่อ ‘ดอยหลวงเชียงดาว’ เพี้ยนมาจากคำว่า ‘ดอยหลวงเพียงดาว’ จากภาษาเหนือจึงแปลว่า “ภูเขาที่ใหญ่โตและสูงถึงดวงดาว” ดอยหลวงเชียงดาวเป็นภูเขาที่ไม่มีแหล่งเก็บน้ำและแหล่งกำเนิดน้ำตามธรรมชาติ แต่ที่นี่กลับไม่แห้งแล้งแถมยังมีไม้ดอกไม้ประดับสวยๆให้คุณได้ชม แน่นอนว่าการเดินทางขึ้นไปต้องยากลำบากสมชื่อ แต่หากใครมีโอกาสได้ขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศที่นี่สักครั้งรับรองว่าคุ้มค่าความเหน็ดเหนื่อยและจะได้สัมผัสการดูดาวอย่างใกล้ชิดแน่นอน
 





 

ภูสอยดาว

(จ.อุตรดิตถ์)

       ภูสอยดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม และยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สำหรับไฮไลท์ที่ดึงดูดใจของนักท่องเที่ยวให้มาเยือนที่นี้ได้อย่างต่อเนื่องคงหนี้ไม่พ้น น้ำตกภูสอยดาว ที่มีความสูง 5 ชั้น และการได้เที่ยวชมทุ่งดอกไม้สีม่วงที่มีชื่อว่า “ดอกหงอนนาค” และไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณที่ขึ้นกระจัดกระจ่ายเพิ่มสีสันสวยงามตลอดบนเนื้อที่กว้างกว่า 1,000 ไร่ สำหรับจุดที่สูงสุดของภูสอยดาว สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,102 เมตรเลยทีเดียว สภาพอากาศที่นี่จึงเย็นสบายตลอดปี ฤดูกาลท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่เดือนส.ค. - ม.ค. โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ 13 องศาเซลเซียส 
 
ภูสอยดาว - จ.อุตรดิตถ์




 

เรียบเรียงโดยชิลไปไหน


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close