bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว “อมารี หัวหิน” (Amari Hua Hin) บรรยากาศคลาสสิคเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความชิค

calendar_month 26 ก.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 67,918 / รีวิวที่พัก

ทะเล หาดทราย บรรยากาศคลาสสิคกรุ่นกลิ่นอายอดีตแบบนี้ ทั้งหมดรวมอยู่ที่หัวหิน บางคนอาจจะคิดว่าไปบ่อยจนเบื่อแล้ว หัวหินคงไม่มีอะไรใหม่ ขอบอกว่าคิดผิดค่ะ…เพราะเดี๋ยวนี้หัวหินมีที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ชิคๆ ที่น่าสนใจเปิดใหม่หลายแห่ง หนึ่งในนั้นคือ “ชอร์ไลน์ บีช คลับ” ห้องอาหารสุดชิลริมทะเลภายในโรงแรมอมารีหัวหิน ซึ่งต้องบอกว่าบรรยากาศทั้งชิค ทั้งชิล จนอยากชวนเพื่อนๆ ไปเช็คอินแล้วดินเนอร์ริมทะเลด้วยกัน



หลายคนอาจเคยไปพักที่โรงแรมอื่นๆ ในเครืออมารีมาก่อน แต่รับรองว่าไม่มีที่ไหนเหมือนที่นี่แน่นอนค่ะ เพราะอมารี หัวหิน ถือได้ว่าเป็นโรงแรมต้นแบบของโรงแรมในแบรนด์อมารีที่ได้ทำการ Rebranding ปรับโฉมใหม่ในลุคที่ทันสมัยขึ้น ด้วยธีม “Colours & Rhythms of Modern Asia” ที่สร้างสีสันและภาพลักษณ์ใหม่ให้กับที่นี่



พอจอดรถเรียบร้อยแล้วก็ไม่รอช้า รีบไปเช็คอินกันก่อน ล็อบบี้ที่นี่ตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋ในธีมสีฟ้าขาว เข้ากับบรรยากาศความเป็นเมืองพักผ่อนชายทะเลของหัวหิน ระหว่างรอเช็คอินพนักงานก็นำ Welcome Drink มาต้อนรับ เป็นน้ำมะตูมดื่มแล้วหอมหวานเย็นชื่นใจจริงๆ ค่ะ



ใครที่ชอบบรรยากาศคลาสสิคต้องไม่พลาด แวะไปเช็คอินที่ “คอรัล เลาจน์” ที่อยู่ติดกันกับบริเวณล็อบบี้ เพราะที่นี่ตกแต่งในสไตล์โคโลเนียลที่มีสีสัน โดยรับแรงบันดาลใจมาจากพระราชวังฤดูร้อนและบ้านพักตากอากาศในยุคก่อน เราจึงเห็นทั้งเฟอร์นิเจอร์โต๊ะไม้สักแบบโบราณ เก้าอี้หวาย และประตูบานเฟี้ยมไม้ทาสีฟ้าแบบคลาสสิค ตัดกับโคมไฟปะการังสีแดงสดใส




อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของหัวหิน อย่างการขี่ม้าริมชายหาด ก็ถูกหยิบมาเติมสีสันให้กับคอรัล เลาจน์ แห่งนี้ดูมีเสน่ห์น่าสนใจมากขึ้นด้วยค่ะ



นอกจากบรรยากาศคลาสสิคแล้ว ที่นี่คือสวรรค์ของคนที่ชอบดื่มชาและกาแฟโดยเฉพาะเลยค่ะ แนะนำให้ลองสั่งเซ็ท Afternoon Tea มานั่งจิบชายามบ่าย มีให้เลือกตั้งแต่เซ็ทสำหรับ 2-4 คน อย่างเซ็ทนี้ที่เราสั่งเป็นเซ็ทสำหรับ 4 คนค่ะ 



บอกเลยว่าเซ็ทน้ำชายามบ่ายที่อมารี หัวหินนี้อลังการมากๆ นอกจากน้ำชาที่เป็นชาชั้นดีจากแบรนด์ TWG แล้ว เรายังจะได้เพลินไปกับอาหารว่างอย่าง Chicken Wrap แผ่นแป้งตอติย่าห่อด้วยผักสลัดไก่ ต่อด้วยเบอร์เกอร์ลาบหมู ที่นำเนื้อหมูสับมาปรุงรสด้วยเครื่องปรุงลาบแล้วอัดแน่นมาเป็นก้อนเบอร์เกอร์ขนาดพอดีคำ นอกจากนี้ ยังมีค็อกเทลถุงทอง กรอบนอกนุ่มในกินคู่กับน้ำจิ้มเปรี้ยวอมหวาน  รวมทั้งขนมอบแสนอร่อยอย่าง ช็อกโกแลตเอแคลร์และสตรอว์เบอร์รี่ชีสเค้ก ปิดท้ายด้วย สโคนนุ่มๆ เสิร์ฟพร้อมวิปครีมและแยมสตรอว์เบอร์รี่โฮมเมดที่ทำสดใหม่ทุก ถ้ามาช่วงเย็นๆ ที่นี่ยังมีค็อกเทลสูตรพิเศษเฉพาะของอมารีเสิร์ฟอีกด้วยค่ะ เรียกว่านั่งชิลได้ทั้งวันตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลย

 

อิ่มอร่อยกับน้ำชายามบ่ายกันแล้ว ถึงเวลาเช็คอินเข้าห้องพักกันแล้วค่ะ สำหรับห้องพักที่อมารี หัวหินก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบมากๆ ทั้งห้องดีลักซ์  ห้องแฟมิลี่สวีท  และห้องสวีท รวมจำนวนทั้งหมด 223 ห้อง เราจะเริ่มไปสำรวจห้องพักแบบดีลักซ์กันก่อนค่ะ

ห้องแรกคือ ห้อง Deluxe Twin แบบ Hill Side ที่มีเตียงคู่สองเตียง ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นคอนเทมโพราลี ดูอบอุ่น มีมุมโซฟาเบดเล็กๆ ให้นั่งเล่นพักผ่อน แถมยังสามารถมองเห็นวิวภูเขาจากระเบียงห้องพักได้อีกด้วยค่ะ


 

ต่อมาเป็นห้องแบบ Deluxe King ที่มีเตียงขนาดคิงไซส์ให้นอนพักผ่อนแบบสบายๆ และยังสามารถมองเห็นวิวทะเลและสระว่ายน้ำจากมุมสูงได้ด้วยค่ะ




ห้องถัดมาเป็นห้อง Family Suite ที่มีทั้งเตียงขนาดคิงไซส์ และเตียงเดี่ยวสำหรับเด็ก พร้อมมุมโซฟานั่งเล่น เหมาะสำหรับมาพักผ่อนแบบครอบครัว สามารถพักได้สูงสุดถึง 4 คนเลยค่ะ




ห้องน้ำที่แยกโซนเปียกกับโซนแห้งเป็นสัดส่วน มีอ่างล้างหน้าคู่ตรงกลาง สามารถใช้สเปซร่วมกันได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะแย่งกันทำธุระในตอนเช้า



ห้องพักแบบสุดท้าย ที่นับว่าเป็นห้องไฮไลท์ของที่นี่ คือ ห้องแบบ One Bedroom Suite เหมาะกับคู่รักมาพักผ่อนหรือฮันนีมูนสุดๆ เลยค่ะ เพราะห้องนี้มีอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่เชื่อมอยู่ใกล้กับห้องนอน แค่เลื่อนฉากกั้นก็สามารถลงแช่น้ำในอ่างได้เลยทันที



นอกจากนี้ ห้อง One Bedroom Suite ยังมีห้องนั่งเล่นและมุมรับประทานอาหารแยกออกมาเป็นสัดส่วนอีกด้วยค่ะ จะทานข้าว ดูหนัง หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะรบกวนอีกคนที่กำลังพักผ่อนอยู่



จุดเด่นอีกอย่างของห้องนี้ คือมีระเบียงกว้างที่เชื่อมระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นยาวถึงกัน เหมาะจะมานั่งพักผ่อนรับลมทะเลชิลๆ และสามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำจากมุมสูงได้ด้วยค่ะ



หลังจากสำรวจห้องพักเสร็จ กระเพาะก็เริ่มส่งสัญญาณความหิวกันอีกแล้วค่ะ เราเลยตัดสินใจไปฝากท้องมื้อเย็นที่ห้องอาหารชอร์ไลน์ บีช คลับ ที่อยู่ติดชายหาดไม่ไกลจากตัวโรงแรมค่ะ โดยเราต้องนั่งรถบั๊กกี้ไปประมาณ 400 เมตร ก็ถึงห้องอาหารริมทะเลสุดชิลแห่งนี้แล้ว




จุดเด่นของที่นี่คือเป็นห้องอาหารที่ตั้งอยู่ริมชายหาดเขาตะเกียบ ซึ่งถูกปรับโฉมด้วยการเพิ่มสระว่ายน้ำ ให้ลูกค้าที่มาทานอาหารได้ผ่อนคลายความร้อน ระหว่างดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเล และยังสามารถมองเห็นวิวของวัดเขาตะเกียบที่อยู่บนยอดเขาได้ไกลๆ อีกด้วยค่ะ




สำหรับอาหารของที่นี่ จะมีทั้งไทยและนานาชาติ ฟิวชั่น ตามสไตล์ International-Thai Modern cuisine พิเศษที่บางจานมีกลิ่นอายของอาหารสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนค่ะโดยใช้กรรมวิธีในการปรุงไม่นาน ซึ่งจะคงรสชาติความสดใหม่ของอาหารไว้   เช่น จานเด็ดอย่าง BBQ Platter ที่การันตีด้วยคุณภาพของวัตถุดิบชั้นดี ผ่านการหมักปรุงก็ได้รสชาติที่กลมกล่อม มีทั้งซอสและน้ำจิ้มซีฟู้ดสูตรเด็ดไว้ทานคู่กัน



นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายหลายเมนู อาทิ Spaghetti  Alle Vongale  สปาเก็ตตี้หอยลายและมะเขือเทศเชอร์รี่รสชาติกลมกล่อม, ห่อหมกมะพร้าวอ่อน ห่อหมกทะเลที่เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว, Tuna Burger เบอร์เกอร์ทูน่าย่างแบบมีเดียมแรร์เสิร์ฟกับซอสวาซาบิ และ Gravlax  แซลมอนรมควันสไตล์นอร์ดิก ราดซอสมัสตาร์ด อร่อยทุกจานเลยค่ะ



สำหรับคนที่ชอบทานอาหารอิตาเลี่ยน รับรองต้องโดนใจแน่นอนค่ะ เพราะทางร้านยังได้นำเชฟที่เชี่ยวชาญอาหารอิตาลี จากห้องอาหารอิตาเลี่ยนชื่นดังบนเกาะสมุย อย่าง เปร-โก้ (Prego) มาแนะนำกรรมวิธีในการทำเมนูอาหารกลางวันง่ายๆ แต่รสชาติอิตาเลียนแท้ๆ อย่าง การทำพิซซ่าสดใหม่จากเตา เมนูแนะนำห้ามพลาดเลยคือ  คาปริคซิโอซ่า (Capricciosa)  ที่อัดแน่นไปด้วยแฮม เห็ด มะกอกดำและอาร์ติโชคถาดนี้ค่ะ



ตบท้ายด้วย ของหวานที่มีสูตรเฉพาะจากเชฟสู่เชฟอย่างทีรามิสุ ฟินสุดๆ ไปเลยค่ะ



พอตอนกลางคืนบรรยากาศร้านจะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องอาหารสำหรับดินเนอร์มื้อค่ำสุดพิเศษ ในบรรยากาศริมชายหาดเขาตะเกียบที่ทอดตัวเป็นแนวยาว เหมาะจะสั่งเครื่องดื่มมาจิบเบาๆ ฟังเสียงเพลงเคล้าเสียงคลื่น




โดยเฉพาะค็อกเทลที่นี่ ที่ได้รับการคิดค้นจากวัตถุดิบท้องถิ่นให้มีรสชาติแปลกใหม่อย่างลงตัว  อาทิ Thai Rumba ฉลองเบย์เหล้ารัม จากทางใต้ นำมาผสมกับน้ำสับปะรดของดีเมืองประจวบฯ และมะนาว เสิร์ฟพร้อมกับน้ำเชื่อม 3 กลิ่น อย่าง elder flower syrup, strawberry and passion fruit  และยังมีกิมมิคนำเอาเนื้อสับปะรด ชุบด้วยน้ำตาลทรายแดงแล้วย่างผ่านความร้อนมาเป็นที่คนเครื่องดื่ม เพื่อให้ได้ความหอม และรสชาติหวานอมเปรี้ยวอีกด้วยค่ะ



ส่วนใครที่ชอบอาหารนานาชาติ ทางโรงแรมก็มีห้องอาหาร “รีฟ เดลี แอนด์ ไวน์เลาจน์” ที่ตกแต่งในธีมโลกใต้ทะเลและสะท้อนถึงวิถีชุมชนชาวประมงของหัวหิน พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวันแบบ All Day Dining ทั้งเมนูง่ายๆ อย่างแซนด์วิช สลัดผัก ไอศกรีมโฮมเมด ขนมอบสดใหม่จากเตา ทาปาส ฯลฯ รวมทั้งยังมีไวน์ชั้นดีที่คัดสรรจากทั่วโลกให้คนที่ชื่นชอบการดื่มไวน์ได้ลิ้มลอง 



หรือใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศไปนั่งชิลริมสระ ก็มี “อะควา พูล บาร์” บาร์ริมสระน้ำที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มค็อกเทล พร้อมของว่างและอาหารจานเดียวแบบไทยๆ อาทิ ส้มตำที่ปรุงใหม่ๆ ให้อิ่มอร่อยกับเพื่อนและครอบครัว




ส่วนตอนเช้าเราก็ไปทานมื้อเช้ากันที่ “โมเสค” เต็มอิ่มกับเมนูข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยวแบบไทยๆ ไปจนถึงเมนูอาหารนานาชาติที่มีให้เลือกสรรมากมายตลอดทั้งวัน พร้อมมุมเด็กเล็กสำหรับคุณหนูๆ อีกด้วยค่ะ เรียกว่าเป็นห้องอาหารที่เหมาะสำหรับครอบครัวมากๆ


 

ปิดท้าย ด้วยการไปผ่อนคลายที่ “บรีซ สปา” (Breeze Spa) แบรนด์สปาน้องใหม่สัญชาติไทยในเครืออมารี ซึ่งเปิดตัวเป็นแห่งแรกที่นี่ค่ะ บรรยากาศด้านในตกแต่งได้ดูโปร่งโล่ง แฝงความสนุกเอาไว้ตามคอนเซ็ปต์ของอมารี หัวหิน



จุดเด่นของที่นี่คือการเป็นสปาแนวใหม่ที่มีคอนเซ็ปต์เป็น “สปาบำบัดตามอารมณ์” ด้วยเมนูสปาที่ออกแบบมาเพื่อทำทรีตเมนต์ตามอารมณ์ที่ลูกค้าแต่ละคนต้องการ อาทิ Dreamy สำหรับใครที่ต้องการความเคลิบเคลิ้มและผ่อนคลาย, Serene สำหรับใครที่อยากคลายกังวล, Rejuvenated ทรีตเมนต์เพื่อกระตุ้นกระบวนการขับของเสียออกจากร่างกาย ให้ผิวของคุณได้เปล่งประกายแลดูสดใสและอ่อนเยาว์ ฯลฯ แถมยังมีมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปาสำหรับใครที่ติดใจให้เลือกซื้อกลับไปใช้ต่อที่บ้าน ซึ่งต้องบอกว่าผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นผ่านการคิดค้นและพัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์สปาชั้นนำทั้งในไทย และต่างประเทศ  จึงเชื่อมั่นได้ในคุณภาพระดับพรีเมียม



ใครอยากมาเปิดประสบการณ์การพักผ่อนที่มีสีสันไม่ซ้ำใครแบบนี้ ลองหาโอกาสมาเช็คอินกันที่อมารี หัวหิน เหมือนเราดูสักครั้ง แล้วจะพบว่าหัวหินยังมีมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นพบอีกมากมาย ซึ่งจะเติมเต็มวันหยุดพักผ่อนให้คุณได้อย่างลงตัวจริงๆ ค่ะ


อมารี หัวหิน
ที่ตั้ง 117/74 ถนนตะเกียบ (ใกล้ตลาดนัดซิคาด้า)
 
ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน‎ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
โทร.032-616600‎

www.amari.com/huahin





เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close