bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เฮงอะไรเบอร์นั้น! ชิลไปไหน Feat. เมอา พาเที่ยว 5 วัดในมาเก๊า 2 วัน 1 คืน

calendar_month 24 พ.ค. 2016 / stylus Top Chillpainai / visibility 98,419 / เที่ยวต่างประเทศ

ทำไมช่วงนี้คนฮิตไปเที่ยวมาเก๊ากันจัง...
 
ตอบในฐานะคนที่ไปมาเก๊ามาแล้ว 3 รอบว่าเสน่ห์อันดับแรกน่าจะเพราะมาเก๊ามีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมเฉพาะตัว ที่ผสมผสานระหว่างจีนและโปรตุเกส มีความเป็นโลกยุคเก่าและยุคใหม่ มีสถาปัตยกรรมแบบยุโรปที่สวยงามท่ามกลางแหล่งเอนเตอร์เทนเม้นท์หรูหรา และมีวัดโบราณสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แทรกตัวอยู่ในเมืองเดียวกัน อีกทั้งตั๋วเครื่องบินก็ไม่แพง ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากเที่ยวต่างประเทศแบบไม่ต้องง้อทัวร์
 
วันนี้ ชิลไปไหน เลยพากันจูงมือกับ Mayy R (เมอา) บิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่ระดับ Top 5 ของไทย เดินทางไปเที่ยวมาเก๊าแบบ 2 วัน 1 คืน พากันไปไหว้ขอพร 5 วัด เที่ยวแบบวัยรุ่นแต่บุญมาเต็ม! แถมเก็บพิกัดแลนด์มาร์กที่เป็นไฮไลท์ของมาเก๊า มาดูสิว่าระยะเวลาแค่ 2 วัน แบบนี้ เราจะเที่ยวอะไรได้บ้าง






Day 1
 
พวกเราเริ่มเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง(โดยสายการบินแอร์เอเชีย) เพียง 2 ชั่วโมงครึ่งก็มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊าแล้ว (เร็วกว่ากรุงเทพฯไปหัวหินซะอีก) วันแรกของทริปนี้ เราจะพาไปไหว้ขอพร 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า ได้แก่ วัดอาม่า วัดลินฟง และวัดเจ้าแม่กวนกิม  
 



วัดอาม่า (A-Ma Temple)

วัดอาม่าเป็น 1 ใน 3 วัดที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊า เป็นวัดชื่อดังที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้กันมากที่สุด และยังได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็น 1 ในมรดกโลกอีกด้วย องค์ประธานของวัดอาม่าก็คือ “องค์อาม่า” หรือที่คนไทยเรียกว่า "เจ้าแม่ทับทิม"
 


 ไฮไลท์ของการมาขอพรที่วัดอาม่า คือการไหว้องค์อาม่าด้วย “เทียนดอกบัวคู่” เพื่อขอพรเรื่องความรัก คู่ครอง มีความเชื่อว่าใครได้มาไหว้จะทำให้ความรักสมหวัง





 นอกจากนี้ที่วัดอาม่ายังมีความเชื่อเรื่องการพับธนบัตรแล้วนำไปลูบกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่แกะสลักเป็นรูปเรือสำเภาโบราณ เพื่อเก็บธนบัตรนั้นไว้เป็นเงินขวัญถุง เสริมโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา





สถานที่: Rua de São Tiago da Barra
 เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 18.00 น.
 รถประจำทาง: 1 2 5 6B 7 10 10A 11 18 21A 26 28B N3  


วัดลินฟง (Lin Fong Temple)

จากวัดอาม่า เรามาต่อกันที่วัดลินฟง ซึ่งก็เป็น 1 ใน 3 วัด ที่เก่าแก่ที่สุดในมาเก๊าเช่นกัน ภายในเป็นที่ประดิษฐานของเทพทางการแพทย์นามว่า “อี้เล่งไตไต” และ “หลั่นหลงไตไต” หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ "เทพอู๋เทา" นิยมมาขอพรให้สุขภาพดี ปลอดจากโรคภัย รวมถึงบนบานเพื่อให้หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยอีกด้วย





 นอกจากนี้ภายในวัดยังมีเทพนามว่า “กิมฮัว” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพที่อำนวยพรให้แม่และเด็ก ผู้คนจึงนิยมมาขอพรให้คลอดบุตรง่ายและให้สุขภาพแข็งแรง





สถานที่: Avenida do Almirante Lacerda เกาะมาเก๊า
 เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 17.00 น.
 รถประจำทาง: 1 1A 4 23 33 N1B


วัดเจ้าแม่กวนกิม (Kun Iam Temple)

สำหรับวันแรก เรามาปิดท้ายกันที่วัดเจ้าแม่กวนอิม ภายในวัดประดิษฐานองค์เจ้าแม่กวนอิมที่แต่งเครื่องทรงอาภรณ์ ด้วยชุดเจ้าสาวโบราณทำจากผ้าไหม สวยงามมาก





 แต่ไฮไลท์หนึ่งของการมาที่วัดเจ้าแม่กวนอิม ก็คือการมาไหว้ “พระสังกัจจายน์” เพื่อขอพรเรื่องเรื่องเงินทองและโชคลาภ โดยการลูบท้องพระสังกัจจายน์แล้วทำท่าโกยเงินเข้ากระเป๋า





สถานที่: 2 Avenida do Coronel Mesquita เกาะมาเก๊า
 เวลาเปิด-ปิด: 07.00 - 17.30 น.
 รถประจำทาง: 12 17 18 23 28C


 หลังจากอิ่มบุญอิ่มโชคลาภกันไป 3 วัดแล้ว ตกเย็นเราก็ขอไปอิ่มท้องและละลายทรัพย์ (ที่เพิ่งขอพรกันมาหมาด ^^) ที่ “จัตุรัสเซนาโด้” แต่เพื่อเป็นการเที่ยวให้คุ้มค่า เราจึงเลือกเดินทางมาลงตรง “ซากโบสถ์เซนต์ปอล” ก่อน แล้วค่อยเดินทะลุไปยังจัตุรัสเซนาโด้


ซากโบสถ์เซนต์ปอล

ที่เรียกว่าซากโบสถ์ ก็เพราะสิ่งที่หลงเหลือให้เราเห็นอยู่นี้เป็นพียงด้านหน้าของโบสถ์ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1602 และเสียหายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี ค.ศ. 1835 เดิมสถานที่นี้ในอดีตเป็นโบสถ์มาแตร์เดอี วิทยาลัยเซนต์ปอล มหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งแรกในเอเชีย





 ซากโบสถ์เซนต์ปอลจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่มีคุณทางประวัติศาสตร์ และมีชื่อเสียงในระดับนานาชาติที่ใครๆ ก็ต้องมาถ่ายรูปกันที่นี่ ซึ่งประติมากรรมบนซากโบสถ์ยังแสดงให้เห็นถึงการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ที่เข้ามายังมาเก๊าอีกด้วย 





ที่เชิงบันไดของซากโบสถ์เซนต์ปอล มีร้่านของกินเล่นอยู่ไม่มากนัก แต่ก็ฝากท้องได้เป็นอย่างดี และเมนูที่นักท่องเที่ยวได้ลองและประทับใจจนบอกต่อกันปากต่อปาก ก็คือชานมไข่มุกรสเข้มและโอเด้งสไตล์มาเก๊า




 จากซากโบสถ์เซนต์ปอล เราเดินมาตามซอยที่มีร้านรวงตลอดสองข้างทาง





 เดินเรื่อยๆ จนมาถึงโบสถ์เซนต์ดอมินิค ก็เป็นอันรู้ว่าเราเข้าเขตจตุรัสเซนาโด้แล้ว


จัตุรัสเซนาโด้ (Senado Square)

จัตุรัสเซนาโด้ เป็นย่านช้อปปิ้งของมาเก๊าที่นักท่องเที่ยวนิยมมาจับจ่ายใช้สอย และยังมีร้านอาหารชื่อดังอยู่หลายร้านให้ได้ลิ้มลอง เราเองก็คงต้องขอแวะชิมก่อนจะไปเดินช้อปปิ้งอย่างสบายท้อง
 


Wong Chi Kei

ว่ากันว่าบะหมี่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นสุดยอดของบะหมี่ทั้งปวง คือบะหมี่ไข่แบบกวางตุ้ง ซึ่งเอกลักษณ์คือเส้นบะหมี่จะมีขนาดเล็ก เหนียวนุ่ม ซึมซับรสชาติของซุปได้ดี มื้อเย็นวันนี้พวกเราจึงเลือกมาที่ร้าน Wong Chi Kei แห่งนี้ เพราะมีตำนานความอร่อยมาอย่างยาวนานเกือบ 80 ปี จากมณฑลกวางตุ้ง









 หลังจากอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเดินเล่นช้อปปิ้งบริเวณจัตุรัสเซนาโด้ แต่ถ้าใครไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะมาซื้ออะไร การได้มาเดินเล่นในย่านที่รายล้อมไปด้วยมรดกโลก พร้อมชมสถาปัตยกรรมแบบชิโนโปรตุกีส และนีโอคลาสสิกในย่านนี้ ก็สามารถถ่ายรูปกันเพลินๆ ได้พักใหญ่เลยทีเดียว






 อาคารต่างๆ ในบริเวณจัตุรัสเซนาโด เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคม ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่สวยงาม มีอาคารสำคัญๆ หลายอาคาร









Day 2

วัดเปากง (Pau Kung Temple)

เช้าวันที่ 2 เราเริ่มต้นมาไหว้ขอพรกันที่วัดเปากง ซึ่งองค์ประธานของวัดนี้คือ “เทพเปากง” หรือ “เปาบุ้นจิ้น” ที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เชื่อกันว่าเป็นเทพแห่งความยุติธรรม ผู้คนจึงนิยมมาขอพรให้ช่วยปัดเป่าคนปองร้ายหรือศัตรู





 นอกจากนี้ที่วัดเปากงยังมีหอเทพไท้ส่วยเอี๊ย 60 องค์ สำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปีชงตามพิธีแบบจีน ซึ่งถือว่าเป็นวัดแก้ปีชงประจำมาเก๊าเลยก็ว่าได้ โดยการบอกปีเกิดกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จะสวดให้เรา และยกกระดาษเงินกระดาษทอง ไปตั้งหนุนใต้เทพประจำปีเกิดของเรา โดยมีความเชื่อกันว่า ยิ่งเทพถูกหนุนให้สูงขึ้น ท่านก็จะยิ่งสามารถคุ้มครองเราได้มากขึ้น







สถานที่ : Rua da Figueira เกาะมาเก๊า
 เวลาเปิด-ปิด : 07.00 - 18.00 น.
 รถประจำทาง : 8A 17 18 18A 19 26


วัดซำไกวุยคุน (Sam Kai Vui Kun Temple)

ถัดจากวัดเปากง เรามาต่อกันที่วัดซำไกวุยคุน หรือเรียกอีกชื่อว่า “วัดกวนไท” คนไทยนิยมเรียกว่า “วัดเทพเจ้ากวนอู” วัดนี้ได้รับการบันทึกจากองค์กร UNESCO ให้เป็น 1 ในมรดกโลก





 เทพเจ้ากวนอู เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์และเปี่ยมไปด้วยคุณธรรม นักท่องเที่ยวจึงที่นิยมมากราบไหว้เพื่อขอพรเสริมอำนาจบารมีในการปกครอง และคุ้มครองบริวาร ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน นอกจากนี้เทพกวนอูยังได้รับการเคารพในฐานะเทพอุปถัมภ์และเทพผู้ปกป้องคุ้มครอง ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ตำรวจ นักการเมือง และผู้นำทางธุรกิจ



สถานที่ : 10 Rua Sui do Mercado de São Domingos เกาะมาเก๊า
 เวลาเปิด-ปิด : 08.00 - 18.00 น.
 รถประจำทาง : 3 4 6A 8A 18A


 ตอนนี้เวลาเรายังมีอีกเหลือเฟือก่อนขึ้นเครื่อง จึงขอปิดท้ายด้วยการเดินเล่นเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านไทปา แวะซื้อของฝากที่ถนนสายอาหาร และหาร้านอร่อยๆ ทานส่งท้ายอีกสักมื้อ


พิพิธภัณฑ์บ้านไทปา

พิพิธภัณฑ์บ้านไทปา เป็นบ้านสีเขียว 5 หลัง สีเขียวพาสเทลหวานๆ เป็นสถาปัตยกรรมแบบโปรตุเกส ตั้งอยู่ในเขตเกาะไทปาของมาเก๊า สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1921 (สมัยรัชกาลที่ 6 ของบ้านเรา) เคยเป็นบ้านของราชการโปรตุเกสชั้นสูง ที่ถูกให้มาประจำอยู่ที่มาเก๊า จึงถือว่าเป็นโบราณสถานที่มีคุณค่าและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของเกาะไทปา





 ต่อมารัฐบาลมาเก๊าจึงปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์และห้องแสดงงานศิลปะ ด้วยตระหนักถึงความสำคัญในมูลค่าทางสถาปัตยกรรมของบ้าน




ถนนสายอาหาร (Rua Do Cunha)

จากบ้านไทปา เราเดินเลัดเลาะมาตามถนนเล็กๆไม่ไกล ก็มาทะลุที่ถนนสายอาหาร





 Rua Do Cunha เรียกเข้าใจง่ายๆว่า “ไทปา ฟู้ดสตรีท” เป็นถนนเส้นสั้นๆ บนเกาะไทปา สองข้างถนนเต็มไปด้วยร้านขายอาหาร แบบกินเล่นก็ได้ กินจริงจังก็ดี
 


 ร้านค้าย่านนี้จะใช้กลยุทธ์เรียกลูกค้าให้ “ชิมฟรี” เดินผ่านเข้าไปใกล้ ร้านไหน เขาก็จะรีบนำเสนอ บอกเลยว่าใครกำลังลดความอ้วนต้องทรมานสุดๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากคนจะซื้อของกินในลักษณะของฝาก เช่น หมูแผ่น คุกกี้อัลมอนด์









 หลังจากได้ของฝากแล้ว เรามาปิดท้ายทริปนี้กันที่ร้านอาหารชื่อดังของมาเก๊า ซึ่งเดินมาจากถนนสายอาหารนิดเดียวกับร้าน Tai Lei Loi Kei


Tai Lei Loi Kei

ร้านนี้มีประวัติความเป็นมายาวนาน เริ่มเปิดมาตั้งแต่มีค.ศ.1968 เมนูดังร้านนี้ก็คือ ขนมปังโปรตุเกสหมูทอด หรือ Pork Chop Bun ขนมปังสูตรโปรตุเกสแบบดั้งเดิม ประกบมากับหมูทอดชิ้นใหญ่ เนื้อนุ่ม หอมเนย ฟินสุดๆ









 พอออกจากร้าน Tai Lei Loi Kei ปุ๊บก็ขอไปเดินเล่นชิลๆ ที่ เดอะ เวเนเชี่ยน มาเก๊า ซึ่งเป็นแหล่งช้อปปิ้งสุดฮอตที่ใครมามาเก๊าก็ต้องมาที่นี่ บรรยากาศเหมือนกับยกเวนิสมาไว้ที่มาเก๊ามีลำคลองไหลไปตามอาคารสวยๆ ทั้งสองฝั่ง และบริการเรือกอนโดล่าที่สามารถลงไปนั่งพร้อมฟังเพลงจากคนพายเรือได้



 ในที่สุดก็ถึงเวลาบ๊ายบายมาเก๊าแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าแค่ 2 วัน 1 คืนเราจะเก็บแลนด์มาร์กได้มากขนาดนี้ จำได้มั้ยว่าทริปไหว้พระ 5 วัดครั้งนี้ เราขอพรเรื่องอะไรไปบ้าง ถ้าจำไม่ได้เรามาทวนกันอีกครั้ง

วัดอาม่า ขอพรเรื่องความรักคู่ครอง
วัดลินฟง ขอพรสำหรับแม่และเด็กและสุขภาพ
วัดเจ้าแม่กวนกิม ขอพรเรื่องเงินทอง
วัดเปากง ขอพรให้ช่วยปัดเป่าคนปองร้าย และแก้ชง
วัดซำไกวุยคุน ขอพรเรื่องหน้าที่การงาน

 ซึ่งทั้ง 5 วัดในทริปนี้มีคู่มือไหว้พระเป็นภาษาไทยแจกให้ฟรีๆ  หรือติดต่อขอคู่มือได้ที่การท่องเที่ยวมาเก๊าประจำประเทศไทยได้เลย


โห..นี่ขนาดมาเร็ว เคลมเร็ว เรายังได้พร ได้บุญ กลับบ้านไปเต็มขนาดนี้ แถมยังได้เที่ยวชมสถานที่สำคัญของมาเก๊าอีกหลายจุด ได้ชิมของอร่อยๆ อีกหลายร้าน และยังได้ของฝากติดมือกลับไปฝากที่คนที่เมืองไทยอีกด้วย เห็นไหมว่ามาเก๊าเที่ยวง่าย ไม่ต้องคิดมาก ต่อให้โดนเพื่อนเท ยังมาเฮคนเดียวได้เลย



เขียนโดย
Top Chillpainai
Top Chillpainai
close