24 เรื่องราว “เขาเล่าว่า” ที่รอให้คุณไปสัมผัส
- สกู๊ป > สถานที่ยอดนิยม โพสเมื่อ : 24/03/2559
127,471
อ่าน
เขาเล่าว่า… ในเมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่หลายคนยังไม่เคยไปสัมผัส
เขาเล่าว่า… ทุกๆที่ในเมืองไทยนั้น เต็มไปด้วย เรื่องราวและเรื่องเล่า บ้างให้คุณประโยชน์แก่ผู้ไปสัมผัส บ้างก็เป็นมงคลแก่ผู้ที่ได้ไปกราบไหว้ บ้างคล้ายความเชื่อที่ท้าทาย เร้นลับ
โครงการ “เขาเล่าว่า” โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ชวนคุณเปิดโลกทัศน์ด้านการท่องเที่ยวในมุมมองใหม่ ผ่านเรื่องเล่าสุดประทับใจและเรื่องราวอันน่าแปลกใจ คัดเลือกมาให้ร่วมท้าพิสูจน์ใน 24 เส้นทาง

เขาเล่าว่า … เส้นทางสู่ความสำเร็จ การงาน การเงิน
สถานที่ : สะพานซูตองเป้ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

เขาเล่าว่า…หากใครได้ลอดท้อง “เจ้าพระยาช้างชนะศึกปู้ก่ำงาเขียว” จ.ลำพูน เท่ากับได้รับพรแห่งชัยชนะให้สมหวังในทุกสนามแข่งขัน ทั้งเรื่องเรียน เรื่องงาน และการดำเนินชีวิต
สถานที่ : กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน
สถานที่ : กู่ช้าง กู่ม้า อ.เมือง จ.ลำพูน

เขาเล่าว่า…หากใครได้มาสักการะ ณ เสาต้นที่ 2 ของสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขง จ.มุกดาหาร ซึ่งเชื่อกันว่าเป็น “ถ้ำพญานาค” จะมีความโชคดีในหน้าที่การงาน และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สถานที่ : ศาลพญานาคใต้สะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง จ.มุกดาหาร
สถานที่ : ศาลพญานาคใต้สะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 2 อ.เมือง จ.มุกดาหาร


เขาเล่าว่า… ที่ จ.อ่างทอง มี “พระประทานพร” 3 ข้อใน 3 วัดอันเป็นที่สุดของเมืองไทย เพียงแค่มีโอกาสไปสัมผัสทั้ง 3 องค์ ก็จะได้รับพรอันประเสริฐทั้งด้านสุขภาพ การงาน การเงิน และอายุยืนยาว
สถานที่ : พระนอน (พระนอนองค์ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย) วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

หลวงพ่อใหญ่ (พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย) วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง

หลวงพ่อสด (พระสงฆ์องค์ใหญ่) วัดจันทรังษี อ.เมือง จ.อ่างทอง

เขาเล่าว่า… ใครที่มีโอกาสได้ขึ้นไปปฏิบัติธรรมบนยอดของภูสวรรค์ 7 ชั้น จ.บึงกาฬ เชื่อกันว่าจะได้ไปถึง “วิมานเทวดา” ซึ่งถือว่าเป็นมหาบารมี
สถานที่ : ภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ
สถานที่ : ภูทอก อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ

เขาเล่าว่า… ที่ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นดินแดนของ “มหาเทพแห่งความสำเร็จ” ถึง 3 แห่ง ผู้ใดต้องการความสำเร็จ ความมั่งคั่ง อุดมสมบูรณ์ ให้ไปสักการะให้ครบทุกที่
สถานที่ : พระพิฆเนศองค์นั่ง วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา
สถานที่ : พระพิฆเนศองค์นั่ง วัดโพรงอากาศ อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

พระพิฆเนศองค์นอน วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา

พระพิฆเนศองค์ยืน อุทยานพระพิฆเนศคลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา

สถานที่ : พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ในพระบรมราชินูปถัมภ์ วัดทิพย์สุคนธาราม อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี

เขาเล่าว่า … เส้นทางแห่งความรัก
เขาเล่าว่า… หากได้จับมือคนที่เรารักผ่าน “ประตูรักแห่งขุนเขา” จ.เชียงราย จะช่วยเสริมดวงแห่งความรักให้แข็งแกร่งดังภูผาสถานที่ : ประตูผาบ่อง ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

เขาเล่าว่า… หากอยากพิสูจน์รักแท้ ให้ชวนคนรักฝ่าระยะทางลาดชัน 3,790 ขั้น ที่ “เขาหนุมานวัดใจ” จ.ลพบุรี แล้วจะรู้คำตอบของรักแท้
สถานที่ : เขาวงพระจันทร์ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี

เขาเล่าว่า… คู่รักที่ต้องการเติมความหวานให้กับชีวิต ให้ชวนกันมาเติมพลังแห่งแสงแรกยามเช้า ณ ปลายสะพานอัษฎางค์ และยามเย็นที่ช่องเขาขาด ณ “เกาะแห่งรัก” นามว่า “สีชัง” จ.ชลบุรี
สถานที่ : สะพานอัษฎางค์ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

ช่องอิศริยาภรณ์ (ช่องเขาขาด) เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เขาเล่าว่า… เรื่องราวสุดแปลก
เขาเล่าว่า… ที่ลับแล จ.อุตรดิตถ์ เป็น “เมืองที่ห้ามพูดโกหก” หากใครประพฤติผิดไร้ซึ่งสัจจะวาจา ต้องถูกออกจากเมืองไปทันที
สถานที่ : เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
สถานที่ : เมืองลับแล อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์


เขาเล่าว่า… กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเมื่ออีสานเกิดภัยแล้งยาวนาน “มหายุทธแดนอีสาน” เคยนำกองทัพสัตว์ขึ้นไปรบจนชนะ ทำให้ฝนโปรยลงมาตามปกติ จากนั้นก็ต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปบอกกล่าวทุกปี ร่วมพิสูจน์เรื่องราวเหล่านี้ได้ที่ พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก จ.ยโสธร
สถานที่ : พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร
สถานที่ : พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก อ.เมือง จ.ยโสธร

เขาเล่าว่า… หากจะดูพิธีแห่นาคที่ไม่เหมือนใคร ต้องไปที่ จ.ชัยภูมิ เพราะที่นี่มีบททดสอบลูกผู้ชายผ่านพิธี “แห่นาคโหด” ที่แปลก ประหลาด และโหดที่สุดในโลก
สถานที่ : แห่นาคโหด บ้านโนนเสลา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

เขาเล่าว่า… ที่วัดเจดีย์ จ.นครศรีธรรมราช มีวิญญาณเด็กที่เรียกว่า “ไอ้ไข่ขอได้” อาศัยอยู่ ซึ่งมีผู้ศรัทธาเข้ามาพรกันอย่างไม่ขาดสายจนกลายเป็นที่ลือเลื่อง
สถานที่ : ไอ้ไข่วัดเจดีย์ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช

เขาเล่าว่า … พลังแห่งธรรมชาติสุดประทับใจ
เขาเล่าว่า… ที่หาดชมดาว จ.อุบลราชธานี จะมี “หินชมนภา” ผุดขึ้นมาในฤดูน้ำโขงลด ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า เป็นจุดที่ชมท้องฟ้าได้สวยที่สุดทั้งยามเช้าและยามค่ำคืน
สถานที่ : หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี
สถานที่ : หาดชมดาว อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี

เขาเล่าว่า… ณ ทุ่งโปรงทอง จ.ระยอง คือดินแดนแห่ง “ป่าสีทอง” สุดลูกหูลูกตา ที่จะช่วยเติมเต็มพลังให้กับร่างกาย จิตใจ และความคิด
สถานที่ : ทุ่งโปรงทอง ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง

เขาเล่าว่า… จ.ชลบุรี มี “สะดือมังกร” หากใครได้ไปยืนแช่ในจุดนั้น จะได้รับพลังชีวิตใหม่ที่ดีเข้ามา
สถานที่ : หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
สถานที่ : หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

เขาเล่าว่า… ที่ จ.สตูล มี “สันหลังมังกร” แนวสันทรายที่คล้ายมังกรโผล่ขึ้นพ้นน้ำทะเล หากใครได้ไปอยู่ในจุดนี้ จะได้รับพลังบริสุทธิ์จากฮวงจุ้ยแห่งท้องทะเล ที่ช่วยเติมเต็มพลังกายพลังใจให้กับทุกร่างกายและจิตใจที่อ่อนล้า ให้กลับมาเข้มแข็งพร้อมสู้ต่อไป
สถานที่ : หาดสันหลังมังกร จ.สตูล

เขาเล่าว่า… ณ เขาหงอนนาค จ.กระบี่ เป็นจุดจบเรื่องราวความรักอันเป็นที่มาของ “น้ำตาศักดิ์สิทธิ์” น้ำตาของพญานาคที่ไหลรินทั้งปี เชื่อกันว่า หากได้อธิษฐานขอพรพร้อมทั้งนำน้ำมาลูบหน้า จะสมปรารถนาในสิ่งที่ขอและเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
สถานที่ : เขาหงอนนาค อ.เมือง จ.กระบี่

เขาเล่าว่า… ที่ จ.พัทลุง มี “สะพานแห่งความสุข” ที่ยาวไกลพาดผ่านทะเลสาบจนเชื่อมต่อ จ.สงขลา และที่นี่เองคือดินแดนแห่งความอุดสมบูรณ์ ที่ใครได้มาสัมผัสแล้วจะเปลี่ยนความเหนื่อยล้าให้เป็นพลังแห่งความสุข
สถานที่ : สะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 อ.ควนขนุน จ.พัทลุง

เขาเล่าว่า… หากใครอยากพบแสงสว่างปลายอุโมงค์ เพื่อเพิ่มพลังแห่งชีวิต ให้ไปที่ “อุโมงค์แสงมรกต” ถ้ำภูผาเพชร จ.สตูล
สถานที่ : ลานแสงมรกต ถ้ำภูผาเพชร อ.มะนัง จ.สตูล

เขาเล่าว่า… สุขภาพดี๊ดี
เขาเล่าว่า… หากได้นอนหมกตัวอยู่ใต้ “มหัศจรรย์ทรายดำ” ที่ จ.ตราด ก็จะได้รับพลังบำบัดเหมือนได้ทำ สปาธรรมชาติ
สถานที่ : ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน อ.แหลมงอบ จ.ตราด

เขาเล่าว่า… ที่วัดพระมหาธาตุเมืองนครศรี มี “พระแอด-ปวดหาย” พระศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อกันว่า หากนำไม้ไปค้ำยันที่ด้านหลังองค์พระ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อย ปวดเอว ปวดหลัง ได้อย่างน่าอัศจรรย์
สถานที่ : พระกัจจายนะ (พระแอด) วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช

เขาเล่าว่า… ในภาคอีสานของเมืองไทย มี “ผ้าผิวสวย” ที่มีสรรพคุณช่วยดูแลผิว แถมใส่แล้วยังช่วยผ่อนคลายและสามารถป้องกันรังสียูวีได้ เรียกว่า “ผ้าย้อมคราม” ซึ่งเป็นผ้าที่มีชื่อเสียง ผลิตจาก 3 จังหวัด คือ จ.สกลนคร จ.อุดรธานี และ จ.หนองคาย
สถานที่ : ผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร จ.อุดรธานี จ.หนองคาย

“ทุกที่คงเป็นได้แค่เรื่องที่เขาเล่าว่า จนกว่าคุณจะไปสัมผัสด้วยตัวเอง...”
ขอรับแผนที่เดินทางตามโครงการเขาเล่าว่าได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ

ชิลไปไหน

เรื่องโดย
นางสาวฮานะ
หลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น ดนตรี อาหาร และการเดินทาง