bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เคล็ดลับดูแลตัวเองหลังปาร์ตี้ กิน ดื่ม เที่ยวแบบจัดหนัก

calendar_month 22 ธ.ค. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 107,194 / รีวิวที่กิน

ใกล้ถึงเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองที่ทุกคนรอคอย หลายคนคงมองหาร้านอาหารอร่อยไปสังสรรค์พร้อมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ยิ่งถ้าหากใครเป็นหนุ่มสาวสังคมจัด เพื่อนเยอะ อาจจะต้องตระเวนเดินสายปาร์ตี้กันทั้งคืนเลยทีเดียว
 

แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า อาหารและเครื่องดื่มที่เรารับประทานกันอย่างเต็มที่ อาจส่งผลต่อร่างกายอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะอาหารแนวบุฟเฟต์แบบอิ่มไม่อั้นที่หลายคนชื่นชอบ เนื่องจากมีไลน์อาหารให้เลือกละลานตาหลากหลาย
 
 
 
ทั้งเนื้อวากิว เนื้อน่องลาย สเต็กหมู เบคอน ไหนจะเมนูขนมหวานอย่างเค้กและเบเกอรี่ที่อุดมไปด้วยแป้งและน้ำตาลยั่วใจ น่ากินไปซะทุกอย่าง
 
 

พอรู้ตัวอีกทีก็ตักมาเต็มโต๊ะเสียแล้ว ยิ่งทานไปคุยไปในบรรยากาศเพลินๆ เอนจอยอีทติ้งกันจนลืมฟังเสียงสัญญาณจากร่างกายว่า “ได้เวลาอิ่มแล้วนะ”

สิ่งที่ตามมาหลังจากนั้น คืออาการจุกแน่นจนเกินพอดี บางคนอาจคิดว่าไม่เป็นไรหรอก…นานๆ ทีถึงจะจัดหนักมื้อใหญ่แบบนี้สักครั้งหนึ่ง ไว้ค่อยไปกินคลีนมื้อหน้าชดเชยเอาก็ได้ แต่ขอบอกว่านั่นไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้องสำหรับการดูแลสุขภาพ อย่างที่เรามักจะได้ยินประโยคที่พูดกันว่า You Are What You Eat นั่นล่ะค่ะ

สิ่งที่เรากินเข้าไปมื้อนี้จะส่งผลต่อร่างกาย โดยเฉพาะระบบย่อยอาหารที่ต้องทำงานอย่างหนัก และมีอวัยวะอย่างหนึ่งที่ได้รับผลกระทบแบบเต็มๆ นั่นก็คือ “ตับ”

บางคนอาจสงสัยว่ากินบุฟเฟต์เยอะแล้วไปมีผลต่อตับได้ยังไง? เคยได้ยินคำว่า “ภาวะไขมันพอกตับ” กันไหมคะ…นั่นแหละค่ะคืออาการที่เกิดขึ้นเนื่องจากจากพฤติกรรมการกินของเรา ปกติแล้วไขมันในตับของคนเราจะมีอยู่ประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตับ แต่ถ้าหากมีไขมันโดยเฉพาะไตรกลีเซอไรด์เข้าไปสะสมอยู่ในเซลล์ตับมากกว่า 10% ขึ้นไปจะเกิดภาวะไขมันพอกตับ ทำให้ตับทำงานผิดปกติจนอาจทำให้ตับอักเสบ และเสี่ยงต่อการเกิดโรคอื่นๆ อย่างตับแข็งหรือมะเร็งตับได้

ยิ่งสำหรับคนที่ชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแล้ว ยิ่งต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะปกติแล้วตับจะสามารถกำจัดแอลกอฮอล์ระดับ 35 ดีกรีได้เพียง 15-30 มิลลิลิตร หรือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะต่อชั่วโมงเท่านั้น ลองคิดดูว่าเวลาที่เราปาร์ตี้สังสรรค์กัน เราดื่มไปในปริมาณที่มากกว่านี้หลายเท่า ตับของเราต้องทำงานหนักขนาดไหน?
 


ความจริงแล้วตับเป็นอวัยวะที่สำคัญมากรองจากหัวใจเลยทีเดียว เพราะตับจะทำหน้าที่ช่วยกรองของเสียออกจากร่างกาย เช่น สารบางอย่างที่อยู่ในยาที่เรากิน แอลกอฮอล์ และสารพิษต่างๆ รวมทั้งยังทำหน้าที่สร้าง สะสม และทำลายไขมัน และยังเป็นอวัยวะที่เก็บและปลดปล่อยวิตามินอีกด้วย นอกจากนี้ ตับยังมีความสัมพันธ์กับระบบต่างๆ ในร่างกายอย่างเช่น ระบบการย่อยอาหาร ระบบการเผาผลาญ ระบบหลอดเลือดหัวใจ ฯลฯ

ทีนี้เพื่อนๆ เห็นความสำคัญในการดูแลตับของเรากันหรือยังคะ?

วิธีการดูแลรักษาสุขภาพตับที่ดีของเรา เริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่มีโปรแตสเซียมสูง อาทิ ธัญพืชต่างๆ เช่น อัลมอนด์ ลูกเกด ลูกพรุนอบแห้ง รวมทั้งผลไม้ เช่น กล้วยหรืออินทผาลัม ซึ่งจะช่วยบำรุงตับ หรือล้างพิษให้กับตับด้วยวิธีการธรรมชาติอย่างการกินผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เกรปฟรุ๊ต หรืออะโวคาโดที่จะช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ
 
 

ที่สำคัญ ควรงดรับประทานเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากและมีไขมันสูง เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ คุณอาจจะต้องหาตัวช่วยอย่างผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีฟอสโฟไลปิด และซิงค์ที่ช่วยปกป้องเซลส์ตับถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ ยังช่วยขจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย

ซึ่งถ้าหากไม่อยากกินวิตามินหลายชนิดเกินไป ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ ที่นอกจากจะมีซิงค์และโครเมียมที่ช่วยลดความเสี่ยงในการถูกทำลายของเซลส์ตับแล้ว ยังมีฟอสโฟไลปิด ชนิดฟอสฟาติดิวโคลีนในปริมาณสูงซึ่งมีส่วนช่วยในการซ่อมแซมเซลล์ตับด้วย

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ฉลองปีใหม่อย่างเต็มที่ แต่จะปาร์ตี้ กิน ดื่ม เที่ยวยังไงก็อย่าลืมดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ
 

ขอบคุณข้อมูลดูแลตับจาก http://www.blackmores.co.th
เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai