เที่ยวเกาะล้าน 3 วัน 2 คืน สไตล์ฮิปๆ ด้วยเงิน 3000 บาทขาดตัว
- สกู๊ป > ทริปตัวอย่าง โพสเมื่อ : 4/11/2564
929,591
อ่าน
-re_re_re.jpg)


ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาสาวสีส้มชวนยัยน้องสาวไปเที่ยวเกาะล้าน
ใจจริงอยากแค่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ
แต่การเที่ยวครั้งนี้มีทั้งเรื่องราวที่ดีและไม่ดี เลยขอสรุปสั้นๆ
เป็นทริปมันส์ๆ ที่บอกการเดินทางค่าใช้จ่ายให้ครบถ้วน
เพื่อเพื่อนๆ จะได้วางแผนไปเที่ยวได้ ตามไปชมกันค่ะ

เช้า : วันแรกเราเดินทางจากกทม. ด้วยรถตู้จากอนุสาวรีย์วินตรงเซ็นจูรี่ ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุดยาว มีคนมารอมากมาย การจัดการค่อนข้างไม่ค่อยดีเท่าไรค่ะ ที่รอรถค่อนข้างแออัดมาก กว่าเราจะขึ้นรถได้ประมาณ 2 ชั่วโมง ค่ารถตู้ 120 บาท และพอได้ขึ้นรถก็ต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เราเซ็งไปตลอดทาง เมื่อคนขับรับขนสินค้าจากกทม. เพื่อไปส่งที่ศรีราชา โดยเป็นกล่องขนาดใหญ่ 3 กล่อง วางซ้อนกันและวางตรงข้างประตู หลายคนถามสาวสีส้มมาว่าทำไมไม่ขอเปลี่ยนรถ ซึ่งตอนนั้นเราคิดแต่เพียงว่าขอให้ไปถึงเกาะล้านเร็วๆ เพราะถ้าเราไม่นั่งคันนี้ก็ต้องรออีกไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง เราจึงไม่มีทางเลือกมาก เลยต้องนั่งจับกล่องนั้นไปตลอดทางเพราะกลัวมันตกค่ะ ซึ่งตอนหลังมารู้ว่ามีวินรถตู้จากอนุสาวรีย์ไปเกาะล้านอีกมากมาย ใครจะไปเกาะล้านก็ลองเลือกดูดีๆ นะคะ ระวังแจ็คพอตเจอแบบสาวสีส้ม ส่วนเรื่องการขับรถโชคดีที่คนขับขับไม่ค่อยเร็วมาก แต่มีอ้อมไปส่งของที่ศรีราชาบ้าง สุดท้ายเราก็ไปถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายตอนเวลาประมาณบ่ายสองโมง
-re_re.jpg)
บ่าย : จากท่าเรือแหลมบาลีฮายจะมีเรือโดยสารไปส่งยังท่าหน้าบ้าน และที่หาดตาแหวน ในราคา 30 บาทเท่านั้น เราเลือกเรือที่ไปลงที่ท่าหน้าบ้านเพราะะกะว่าจะทานมื้อกลางวันและเรานัดทางรีสอร์ทให้มารับบริเวณท่าหน้าบ้านค่ะ

แม้จะเป็นวันหยุดแต่ก็ไม่ต้องรอนานเพราะมีเรือทุกครึ่งชั่วโมง

เราใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็มาถึงท่าหน้าบ้าน สิ่งแรกที่ทำคือการทานข้าวกลางวันโดยบริเวณท่าหน้าบ้านจะมีร้านขายอาหารมากมาย อาหารตามสั่งของแต่ละร้านเริ่มต้นที่ 50 บาท ถือว่าบริเวณนี้ราคาอาหารไม่ได้แพงเว่อร์ค่ะ สามารถเลือกทานร้านไหนก็ได้ ส่วนสาวสีส้มเลือกทานมื้อกลางวันที่ร้านท่าหน้าบ้าน
หลังจากทานข้าวเสร็จจุดหมายต่อไปคือร้านที่กำลังฮิปของเกาะร้านมาหารักคาเฟ่ จากท่าหน้าบ้านสามารถเดินไปยังร้านได้แต่ค่อนข้างไกลนิดนึงค่ะ

ตอนกลางวันจะบริการกาแฟ เครื่องดื่ม และเบเกอรี่ แนะนำเค้กมะพร้าวค่ะอร่อยเนื้อนุ่มทานขนมไปนั่งชิลมองวิวทะเลไปฟินมากๆ ส่วนตอนเย็นจะเปลี่ยนเป็นบาร์ยามเย็นริมทะเลสำหรับนั่งดื่มชิลๆ เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 50 บาท ส่วนอาหารเริ่มต้นที่ 95 บาทเท่านั้น วันธรรมดาเปิดตั้งแต่เที่ยง-23.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ร้านจะเปิดสองช่วงคือ ตั้งแต่เวลา 12.00-15.30 น. ส่วนตอนเย็นจะเปิดตั้งแต่ 17.30 -24.00 น. โทร : 082 444 2144





แนะนำเค้กมะพร้าวค่ะ อร่อยมากๆ
เย็น : คืนนี้เราพักที่ซานาดูบีชรีสอร์ท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณหาดแสม โดยทางที่พักมีรถมารับบริเวณท่าหน้าบ้านค่ะ สาวสีส้มเคยมาพักที่นี่แล้วและติดใจเรื่องทำเลเพราะมีหน้าหาดอยู่หาดแสม ซึ่งโซนนี้จะไม่มีที่พักอื่นเลยค่ะ ช่วงตอนบ่ายอาจจะมีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน แต่พอตกเย็นเมื่อนักท่องเที่ยวกลับไปแล้วจะค่อนข้างสงบเป็นส่วนตัวเลยค่ะ ค่าที่พัก 2,000 บาท พร้อมอาหารเช้า

ห้องพักเป็นระบบคีย์การ์ด กว้างขวาง สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องมีทั้งตู้เย็น เครื่องทำน้ำร้อน กาแฟ ทีวี เคเบิ้ลทีวี ห้องน้ำแยกส่วนเปียกและแห้งชัดเจนและยังมีอาหารเช้าให้บริการอีกด้วย ใครที่ไม่ต้องการอาหารเช้าก็แจ้งได้ แต่ไวไฟที่นี่ไม่ค่อยแรงนะคะ



จากนั้นในยามเย็นเราสองคนขึ้นไปชมพระอาทิตย์ตกซึ่งจะอยู่บริเวณใกล้กับอาคารผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เราสองคนเรียกว่าอาคารยานอาวกาศ ด้านบนสามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกได้สวยงามมากๆ ค่ะ
.jpg)

บริเวณหน้ารีสอร์ทจะมีทุ่นทางเดินที่เขาทำยาวจากฝั่งออกไปประมาณ 30 เมตร สามารถเดินไปถ่ายรูปได้ค่ะ แต่ระวังเรื่องความปลอดภัยหน่อยนะคะ เพราะสาวสีส้มเห็นบางจุดเชือกที่รั้งทุ่นเอาไว้ขาดเป็นบางช่วงค่ะ


ทางรีสอร์ทยังมีบริการอาหารค่ำ ซึ่งราคาค่อนข้างสูงแต่ปริมาณเยอะมากๆ ค่ะ คืนนี้มีความสุขที่ได้มาใช้เวลานั่งมองพระอาทิตย์ในยามเย็นโดยไม่ต้องมีเรื่องใดมากวนใจ แม้การเดินทางเมื่อเช้าจะเหนื่อยแต่มาเจอวิวสวยๆ แบบนี้ก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ
ค่าใช้จ่ายวันแรก
ค่ารถตู้ 120 บาท
ค่าเรือ 30 บาท
ค่าข้าวกลางวัน 70 บาท
ค่าเครื่องดื่มและขนมที่มาหารักคาเฟ่ 150 บาท
ค่าที่พัก 1000 บาท (ค่าที่พักราคาเต็ม 2,000 แต่หารกัน 2 คน)
ค่าเครื่องดื่มและอาหารทานเล่น 200 บาท
รวมเป็นเงิน 1,570 บาท

เช้า : ทานอาหารที่รีสอร์ท ซึ่งเป็นบุฟเฟ่ต์ค่ะ อาหารค่อนข้างเยอะ และอร่อยด้วย ทั้ง ขนมปังปิ้ง ไข่ดาว ชา กาแฟ น้ำผลไม้ ข้าวต้ม ต้มจืด ข้าวผัด พัดผัก ผลไม้เป็นต้น

จากนั้นเราสองคนไปยังมุมที่เราชอบมากๆ เมื่อมาหาดแสมนั่นก็คือสะพานไม้เลียบชายหาด ซึ่งอยู่ถัดจากซานาดูบีชรีสอร์ทไปเล็กน้อย ในช่วงที่น้ำขึ้นจะสวยมากๆค่ะ เพราะน้ำตรงนี้ใสมากๆ แต่ระวังนิดนึงนะคะ เพราะสะพานจะมีบางช่วงที่ตะปูหลุด ทำให้พอเหยียบลงไปพื้นไม้จะยุบลง ค่อนข้างน่ากลัวทีเดียวค่ะ



เรานั่งบนสะพานไม้ นอนมองท้องฟ้า ฟังเสียงคลื่น ฟังเพลงเพราะๆ จนพอใจก็ถึงเวลาที่เราจะย้ายที่พักไปยังบริเวณท่าหน้าบ้านค่ะ

เที่ยง : หลังจากเช็คเอาท์จากซานาดูบีชรีสอร์ท เราก็นั่งรถของรีสอร์ทที่มาส่งบริเวณหน้าบ้าน เพื่อเดินทางไปยังเฉลียงลมที่พักที่เราจองเอาไว้ และขึ้นชื่อว่าจองยากมากๆ พอไปถึงบริเวณท่าหน้าบ้านเราก็โทรให้ทางที่พักมารับเราค่ะ

ห้องพักที่เราจองเอาไว้ชื่อว่าบ้านบุษบา ราคาเพียง 1000 บาทเท่านั้น มีจักรยานให้ปั่นฟรี และพี่เจ้าของก็น่ารักมากๆด้วยค่ะ โทรสอบถามห้องพักได้ที่ 0892136653 ต้องโทรในช่วง 9.00-15.00 น. เท่านั้นนะคะ

ภายในที่พักมีทั้งทีวี แอร์ เครื่องทำน้ำร้อน ชากาแฟ เครื่องทำน้ำอุ่น แต่จะไม่มีไวไฟและอาหารเช้านะคะ


มีมุมระเบียงด้านนอกให้นั่งชิลด้วย

จากนั้นเราทั้งสองตัดสินใจว่าเวลาที่เหลือเราจะไปนอนเล่นที่หาดเทียน เพราะเคยไปและชอบมากๆ คนก็ไม่เยอะเท่าไร โดยเรานั่งรถสองแถวที่จอดบริเวณหน้าวัดใหม่สำราญ ราคาเพียงคนละ 30 บาทเท่านั้น จากหาดเทียนรถสองแถวที่มาท่าหน้าบ้านจะหมดตอน 17.30 น. หาดเทียนเป็นหาดที่สวยงาม น้ำใส ทรายเม็ดเล็กนุ่ม บรรยากาศเหมือนอยู่เสม็ดเลยค่ะ

ช่วงท้ายหาดจะเป็นช่วงที่มีเก้าอี้ชายหาดมากมาย แต่เราสองคนเลือกเดินไปยังต้นหาด ตรงนี้จะไม่ค่อยมีเตียงผ้าใบเท่าไร เราเลือกเช่าเสื่อราคา 50 บาทและปูนอนรับลมเย็นๆ ฟังเสียงคลื่นและส่องหนุ่มๆ ฝรั่งแถวนี้ค่ะ ขอบอกว่าแถวนี้งานดี งานเริ่ดมากๆ



นอนส่องฝรั่งกันสมใจก็ถึงเวลากลับที่พัก โดยอาหารเย็นวันนี้เราเลือกซื้อซีฟู้ดจากร้านบริเวณท่าหน้าบ้าน แล้วให้ทางร้านปิ้งย่างให้ฟรี แถมน้ำจิ้มอีกด้วย ในราคาไม่แพงมากๆ นำมาทานบริเวณหน้าห้องพักค่ะ
เย็น : ในยามเย็น บริเวณเฉลียงลมเขาจะมีบาร์เล็กๆ ริมทะเลที่เปิดใหม่บริการ พร้อมกับดนตรีสด ขอบอกว่าชิลมากๆ
เย็น : ในยามเย็น บริเวณเฉลียงลมเขาจะมีบาร์เล็กๆ ริมทะเลที่เปิดใหม่บริการ พร้อมกับดนตรีสด ขอบอกว่าชิลมากๆ



คืนสุดท้ายก่อนกลับคืนนี้เป็นคืนที่มีความสุขสุดๆ เพราะบรรยากาศ ที่พัก ทำให้เราได้พักผ่อนและชาร์จแบตกันอย่างเต็มที่เลยล่ะค่ะ
ค่าใช้จ่ายวันที่สอง
ค่าที่พัก 500 บาท/คน
ค่ารถสองแถวไปกลับหาดเทียน 60 บาท
ค่าซีฟู้ดคนละ 200 บาท
ค่าเครื่องดื่มและอาหารที่บาร์ของเฉลียงลมคนละ 200 บาท
รวมเป็นเงิน 960 บาท
ค่าใช้จ่ายวันที่สอง
ค่าที่พัก 500 บาท/คน
ค่ารถสองแถวไปกลับหาดเทียน 60 บาท
ค่าซีฟู้ดคนละ 200 บาท
ค่าเครื่องดื่มและอาหารที่บาร์ของเฉลียงลมคนละ 200 บาท
รวมเป็นเงิน 960 บาท

เช้า : เช้าตรู่ของวันสุดท้ายเราตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณหน้ารีสอร์ท ซึ่งถ้าซานาดูเป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ตกสวยสำหรับเรา เฉลียงลมก็เป็นจุดที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงามมากๆ

เราเดินทางออกจากเกาะล้านประมาณตอนเทียง และกลับโดยรถตู้มาลงยังอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ปิดทริปเกาะล้านสั้นๆ ของเราแต่ก็สุขไม่เบา ใครอยากลองมาเที่ยวเกาะล้านแบบปล่อยเวลาไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
ค่าใช้จ่ายวันที่สาม
ค่าอาหารเช้า 50 บาท
ค่าอาหารกลางวัน 100 บาท
ค่าเรือ 30 บาท
ค่ารถตู้ 100 บาท
ค่าของฝาก 190 บาท
รวมเป็นเงิน 470 บาท
รวม 3 วัน 3,000 บาท
ค่าอาหารเช้า 50 บาท
ค่าอาหารกลางวัน 100 บาท
ค่าเรือ 30 บาท
ค่ารถตู้ 100 บาท
ค่าของฝาก 190 บาท
รวมเป็นเงิน 470 บาท
รวม 3 วัน 3,000 บาท
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เรื่องโดย
ADMIN
Chillpainai