bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เมื่อใบไม้เปลี่ยนสีที่ Japan Alps

calendar_month 10 พ.ย. 2012 / stylus Admin Chillpainai / visibility 18,691 / เที่ยวต่างประเทศ


ห่างหายการเขียนสกู๊ปไปนานมาก

เพราะมัวแต่ไปหลงเสน่ห์หนุ่ม อุ๊ยส์!!! ประเทศญี่ปุ่นค่ะ

ฮานะหายไปพร้อมกับสกู๊ปมากมายที่สัญญากับเพื่อนๆ ไว้ว่าจะเขียน

ทั้งสกู๊ปญี่ปุ่นไปเองได้ง่ายมว้ากกก ตอนที่ 4 ก็ยังค้างเติ่งไว้

ไหนจะสกู๊ปรวมสถานที่ชมใบไม้แดงตอนที่ 2 อีก

พอกไว้หนาเป็นจอมปลวกขึ้นไปแล้ว

คราวนี้เลยกลับมาพร้อมของฝากที่ทุกคนจะต้องถูกใจกันแน่


เพราะคราวนี้ฮานะได้มีโอกาสชมใบไม้แดงที่เจแปนแอลปส์ ประเทศญี่ปุ่นมาค่ะ



ที่นี่คือ Kamikochi ค่ะ ที่นี่คือที่พักตากอากาศที่คนญี่ปุ่นนิยมเดินทางมาเที่ยว

ตั้งอยู่ใน Japan Alps National Park หรือ

Chubu-Sangaku National Park ในเมืองมัทซึโมโตะ จังหวัดนางาโน่

การเดินทางมาที่นี่ฮานะนั่งรถไฟมาจากชินจุกุ มาถึงเมืองมัทซึโมโตะ

แล้วต่อรถไฟ ALPICO Line มาลงที่สถานี 

SHINSHIMASHIMA  แล้วจะมีรถบัสมาที่ Kamikochi

การเดินทางค่อนข้างใช้เวลานาน ฮานะเลยเลือกนอนพักที่มัทซึโมโตะ ซึ่งที่นี่เป็นเมืองที่น่าสนใจมาก

เอาไว้คราวนี้จะพาไปเที่ยวนะคะ




กลับมาที่ Kamikochi กันอีกครั้งนะคะ 

ที่นี่เขาเป็นที่สำหรับมาเดินป่าศึกษาธรรมชาติ 

โดยถ้าอยากเดินหนักๆ แบบเทรกกิ้ง ปีนภูเขาก็ใช้เวลาประมาณ 5 วัน 4 คืน

แต่คราวนี้ฮานะขอแบบเบาะๆ ค่ะ ประมาณชั่วโมงเดียวเท่านั้น

เดินชมความงดงามของป่าสน ภูเขาเจแปนแอลปส์



ซึ่งหน้าหนาวจะปกคลุมไปด้วยหิมะ

แต่ตอนที่ฮานะมาคือช่วงกลางเดือนตุลาคมนั้นเป็นช่วงที่เจแปนแอลปส์ไม่มีหิมะปกคลุม

บรรดาต้นไม้ ป่าสนที่นี่กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองสีแดง สวยงามมากเลยค่ะ



ฟ้าวันนั้นสดใส มีแม่น้ำสายเล็กๆ ที่ชื่อว่า Asuza-gawa ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ไหลจากภูเขา

ไหลยาวไปถึงเมืองมัทซึโมโตะ และว่ากันว่าน้ำของแม่น้ำที่นี่ใส สะอาด สีเหมือนมรกต

และอร่อยเป็นที่สุด ฮานะลองไปชิมมาแล้ว



การเดินป่าของที่นี่ก็เรื่อยๆ เป็นทางเรียบ ตลอดทางจะมีแก๊งค์คุณลุงคุณป้า 

เอาเบนโตะมาทานกินริมแม่น้ำ 

บางทีก็จะเห็นเจ้าลิงก้นแดงออกมาโชว์ตัวให้บรรดานักท่องเที่ยวได้ฮือฮากันเป็นระยะ



เดินมาสักพักก็พบกับจุด Weston Relief  ซึ่งเป็นที่ระลึกถึง คุณ Walter Weston คริสเตียนชาวอังกฤษ  

ที่มาปีนเขาที่นี่ (ในอดีตคนญี่ปุ่นไม่กล้าปีนเขา เพราะคิดว่ามีพระเจ้าสิงสถิตอยู่)

พอกลับไปคุณ Weston ก็ไปเขียนเรื่องราวประทับใจ

ในหนังสือที่ชื่อว่า Mountaineering and Exploring in the Japanese Alps ตีพิมพ์ในปี 1996

หลังจากนั้นที่นี่ก็ได้รับความนิยมทั้งจากนักท่องเที่ยวและชาวญี่ปุ่นเองที่ก็เริ่มเดินทางมาเที่ยวที่นี่มากขึ้น



จุดสุดท้ายของเราคือสะพาน Kappa-Bashi ค่ะ 

ชื่อสะพานนั้นมาจากตัวหัปปะซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดในนิทานของญี่ปุ่น

ใครเป็นแฟนการ์ตูนญี่ปุ่นคงจะพอจำเจ้าตัวกัปปะนี้ได้ ตัวสีเขียว ปากเหมือนเป็ด หัวล้าน

อาศัยอยู่ในน้ำ และชอบขึ้นมาลักพาตัวเด็ก ขโมยสิ่งของ

ซึ่งมีคนเล่าว่าความจริงแล้วเจ้าตัวกัปปะที่ว่ากันนั้นอาจจะเป็นภาพของคนในสมัยก่อนไม่มีสะพาน

จึงต้องเดินข้ามแม่น้ำแห่งนี้ และถอดเสื้อทูนไว้บนหัว คนบนฝั่งมองไกลๆ ก็นึกว่าเป็นเจ้าตัวกัปปะ 

เลยกลายมาเป็นชื่อสะพานกัปปะบาชิมาถึงวันนี้

ร้านค้าแถวนี้เลยหัวใสมีของฝากเป็นเจ้าตัวกัปปะในอิริยาบถมากมาย



อากาศในเดือนตุลาคมนี้เย็นกำลังพอดี แสงแดดอ่อนจาง ต้องแสงน้ำในแม่น้ำระยิบระยับ 

ฟ้าวันนี้เป็นสีฟ้าใส ทำให้ภาพที่ฮานะเห็นตรงหน้าสวยงามราวกับภาพวาด

ฮานะไม่รู้จะอธิบายว่ามันสวยเป็นตัวอักษรอย่างไร

เพราะภาพที่เห็นจริงมันอลังกาลมาก เจแปนแอลปส์ในวันที่หิมะละลาย แต่ก็ยังสง่า์งามอยู่เสมอ




 
เรื่องและภาพโดย นางสาวฮานะ  >> Hana292528@gmail.com


 


 


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close