ตันแลนด์ (TAN LAND) ดินแดนแห่งความสมดุล
182,644
อ่าน
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้เดินทางไปตันแลนด์มาครับ
วันนี้ก็เลยเก็บภาพและเรื่องราวมาฝากเพื่อนๆ
ผมเองในตอนแรกก็งงว่าเอ๊ะที่นี่คืออะไร คือสวนสนุกแห่งใหม่ เหรอ
อยากรู้ไหมครับว่าตันแลนด์คืออะไร
ถ้าอยากก็ตามผมนายค็อปเตอร์ไม้ไผ่มาดูกันเลย

หลายคนคงจะรู้จักคุณตัน ภาสกรนที หรือตันอิชิตัน(อย่าเผลอเรียกยี่ห้อชาเขียวของเขาผิดนะครับ)
และยิ่งในช่วงน้ำท่วมหลายคนคงทราบจากข่าวมาว่า
หนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือโรงงานของคุณตัน
ซึ่งโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นิคมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา
มาวันนี้คุณตันเขาก็เลยหยิบบทเรียนจากน้ำท่วมมาทำเป็นศูนย์การเรียนรู้
ที่บอกเล่าเรื่องราวการอยู่ร่วมกันของสังคม เศรษฐกิจ และธรรมชาติ
ด้วยงบลงทุนถึง 50 ล้านบาท
เข้ามาที่นี่ความรู้สึกครั้งแรกคือโรงงานเขาสวยจัง
ไม่เหมือนโรงงานในจินตนาการของผมว่าต้องรกๆ หน่อย
แต่พอมาถึง โอ้!!! การดีไซน์ด้านหน้าก็ทำออกมาได้ดี ดึงดูดคนมาก
ลองเข้ามาชมข้างในกันครับว่าจะเป็นอย่างไร

ตรงนี้เป็นด้านหน้าทางเข้าครับ ด้านหลังนี่เขาใช้ขวดน้ำมาเรียง
วัสดุที่มาทำส่วนหนึ่งจะเป็นของรีไซเคิลน่ะครับ
ใครที่ชอบงานดีไซน์ งานไอเดียมาที่นี่ก็ค่อนข้างได้ความรู้กลับไปพอสมควร
จากตรงนี้เราจะเริ่มเดินเข้าไปสำรวจภายในระยะทาง 400 เมตร โดยจะมีเจ้าหน้าที่เป็นไกด์ให้ความรู้

อ้อ ลืมบอกไปด้านหน้าเขาเอาตู้ใส่น้องปลามาวางไว้ด้านหน้าด้วย
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นปลาที่มากับน้ำตอนเข้าท่วมโรงงาน

พอเดินเข้ามาข้างในก็เจอกับคุณตัน คุณตัน คุณตัน คุณตัน คุณตุน คุณตัน ฯลฯ
ตุ๊กตาก็น่ารักดีครับ แต่เอ!! แต่เจอเยอะๆ ผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาแฮะ!!!

โดยที่นี้เขาจะแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือ T Of Life และเรียนรู้อย่างอิชิตัน
ซึ่งโซนแรกที่เรามานั้นนี้จะเป็นโซน T Of Life
ที่ให้ความรู้เรื่องชา

มีจำลองวัฒนธรรมชาจากประเทศต่างๆ ทั้งจีน อังกฤษ

และญี่ปุ่น

ผมชอบห้องนี้ครับเขาพูดถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ก็ทำออกมาได้เก๋ดี

อ่านเพลินๆ ให้ความรู้เรื่องชาไปด้วย

ส่วนห้องนี้จะเป็นการจำลองการปลูกชา

อันนี้เป็นการดีไซน์ขวดชาเขียวครับ

มาเจอห้องนี้เข้าไป ทำเอาช่างภาพผมแอบหลอนไปเลย เพราะงงว่าอันไหนคนจริง อันไหนคนปลอม

ตลอดทางจะมีตัวปั๊มให้ปั๊มด้วยนะครับ ผมว่าเด็กๆ น่าจะชอบ

ต่อไปจะเข้าสู่โซนที่สองซึ่งเป็นโซนเรียนรู้อย่างอิชิตัน
เดินมาก็เจอคุณต้นตัวอ้วนกลมตลอดทาง

ส่วนที่อยู่บนผนังกระจกเรียกว่าคำตันครับ
คือคำที่คุณตันใช้ยึดในการดำเนินชีวิต
ส่วนด้านหลังกระจกคือส่วนโรงงานที่เราสามารถเห็นการผลิตของที่นี่ได้ครับ
ที่ผมชอบคือโรงงานของเขาสะอาด ใช้เครื่องจักรเป็นหลัก
โดยตลอดทางจะเห็นเครื่องจักรหน้าตาแปลกมากมาย
แล้วได้รู้ว่าชาเขียวที่เรากินนั้นเขาเดินทางมาอย่างนี้นี่เอง

จากนั้นแอบตื่นเต้นกันเล็กน้อยครับเมื่อเข้ามาในห้องนี้เจ้าหน้าที่สาวสวยเขาก็ประกาศว่า
"ระวังจระเข้นะคะ"

ผมยืนรอตั้งนานกว่าจะเจอจระเข้ ตอนแรกนึกว่าจะออกมาแบบน่ากลัว เหมือนเข้าบ้านผีสิง
แต่พอออกมาก็กลายเป็นจระเข้ง่วงๆ ว่ายไปมา
แล้วใครจะกลัวล่ะครับพี่
ส่วนตรงกลางคือการจำลองกระสอบทรายครับ
ผมยังไม่ได้ลองว่าถ้าเดินออกจากกระสอบทรายจระเข้จะมางาบเราหรือเปล่า
คุณผู้อ่านคนไหนถ้าไปมาแล้วก็ลองดูแล้วมาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ

พอออกมาก็มาพบกับห้องที่จัดแสดงความสูญเสียของโรงงานในช่วงน้ำท่วมครับ

ลองอ่านกันดูนะครับ ผมว่าใครที่เจอน้ำท่วมก็คงต้องพบเจออารมณ์แบบนี้ทุกคน

เข้าสู่ห้องพิพิธภัณฑ์แห่งการสาบสูญ โดยเขาจะพูดถึงสิ่งมีชีวิตรอบตัวเราที่กำลังสูญหายไป
และสุดท้ายถ้าเรายังไม่รักษาตั้งแต่วันนี้ มนุษย์เองนี่แหละที่จะสูญพันธุ์ไป

ตรงนี้มีปุ่มให้เราเลือกกด 3 ปุ่ม
ให้ความรู้เกี่ยวกับ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
ตอนแรกจินตนาการว่าน่าจะสนุกกว่านี้
แต่พอไปกดแล้วก็มีข้อมูลขึ้นมาบนจอ(น่าจะมีเสียงเพื่อให้ผู้พิการทางหูด้วยนะครับ)
ตอนท้ายก็มีคะแนนขึ้นให้ซึ่งไม่รู้ว่าคะแนนที่ได้เขารวมอย่างไง กดได้สองทีก็เบื่อไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า

แต่โซนนี้ผมชอบน่ะครับ เขาทำเป็นตู้ล็อกเกอร์แล้วพอเปิดเข้าไป
ก็เป็นภาพและเสียงของคนที่มีชื่อเสียงในสังคม
ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน พระ และคนในแวดวงอาชีพต่างๆ พูดถึงเรื่องหลักในการใช้ชีวิต

ส่วนหองนี้คือห้องของน้ำครับ ผมชอบการดีไซน์ของห้องนี้นะ
โดยในห้องนี้เขาจะพูดถึงว่าสมมติโลกมีน้ำทั้งหมด 1 แกลลอน
น้ำดื่มมีแค่ 5 หยดเท่านั้น วงจรของน้ำ 5 หยดสุดท้ายกำลังหายไปเรื่อยๆ
ขาดน้ำ 3 วันเราทุกคนก็ขาดใจ แล้วเราจะทำไงกันดี
เป็นคำถามให้หลายคนกลับไปคิดกัน

ต่อมาบอกเล่าเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่นำมารีไซเคิล เป็นโต๊ะ เก้าอี้ หลังคาเก๋มากๆ

อันนี้เป็นโต๊ะและเก้าอี้ที่ไกด์เขาบอกว่าในโรงงานแห่งนี้ก็ใช้โต๊ะรีไซเิคิล

เดินต่อมาก็มาเจอกับกองขยะมากมายที่เขาไม่ได้กองกับพื้นนะครับ แต่ลอยอยู่บนหัวเรา
ซึ่งจะมีปุ่มกด ให้เจ้าขยะเหล่านี้เลื่อนลงมา อ้อ ระวังหัวกันด้วยนะครับ
เจ้าขยะเหล่านี้แหละที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นเงินทองให้เราได้ทั้งนั้น

มีซาเล้งขายของเก่า (และมีเสียง) ด้วย

อันนี้คือมุ้งที่คุณตันมานอนตอนเฝ้าโรงงาน
ก่อนออกไปเขาก็มีตู้ไข่ยักษ์ให้เขียนคำทิ้งท้ายว่าเราจะทำอะไรให้กับโลกลงไป
แล้วก็มีของที่ระลึกเป็นเมล็ดต้นนางพญาเสือโคร่งไหลลงมา

ออกจากห้องมาก็มานั่งกินไอศกรีม Melt me อร่อยมากเลยครับ

มีมุมของที่ระลึกให้เลือกซื้อกลับไปด้วย

ของมากมายครับ ทั้งกระเป๋า กระปุกออมสิน โปสการ์ด สมุด เข็มกลัด
เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ที่ค่อนข้างน่าสนใจ
สำหรับคนที่ต้องการพาลูกหลานมาเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์จากน้ำท่วม
ผมว่าไม่ว่าคุณจะมีธุรกิจเล็ก หรือใหญ่ หรือไม่มีเลย
น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาก็สร้างความเสียหายให้กับเราทุกคน
ขึ้นอยู่กับว่าบทเรียนครั้งนั้นจะสอนให้เรารับมือกับเหตุการณ์ในวันข้างหน้าได้มากเท่าไร...
วันนี้ก็เลยเก็บภาพและเรื่องราวมาฝากเพื่อนๆ
ผมเองในตอนแรกก็งงว่าเอ๊ะที่นี่คืออะไร คือสวนสนุกแห่งใหม่ เหรอ
อยากรู้ไหมครับว่าตันแลนด์คืออะไร
ถ้าอยากก็ตามผมนายค็อปเตอร์ไม้ไผ่มาดูกันเลย
หลายคนคงจะรู้จักคุณตัน ภาสกรนที หรือตันอิชิตัน(อย่าเผลอเรียกยี่ห้อชาเขียวของเขาผิดนะครับ)
และยิ่งในช่วงน้ำท่วมหลายคนคงทราบจากข่าวมาว่า
หนึ่งในโรงงานที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือโรงงานของคุณตัน
ซึ่งโรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่นิคมโรจนะ จ.พระนครศรีอยุธยา
มาวันนี้คุณตันเขาก็เลยหยิบบทเรียนจากน้ำท่วมมาทำเป็นศูนย์การเรียนรู้
ที่บอกเล่าเรื่องราวการอยู่ร่วมกันของสังคม เศรษฐกิจ และธรรมชาติ
ด้วยงบลงทุนถึง 50 ล้านบาท
เข้ามาที่นี่ความรู้สึกครั้งแรกคือโรงงานเขาสวยจัง
ไม่เหมือนโรงงานในจินตนาการของผมว่าต้องรกๆ หน่อย
แต่พอมาถึง โอ้!!! การดีไซน์ด้านหน้าก็ทำออกมาได้ดี ดึงดูดคนมาก
ลองเข้ามาชมข้างในกันครับว่าจะเป็นอย่างไร
ตรงนี้เป็นด้านหน้าทางเข้าครับ ด้านหลังนี่เขาใช้ขวดน้ำมาเรียง
วัสดุที่มาทำส่วนหนึ่งจะเป็นของรีไซเคิลน่ะครับ
ใครที่ชอบงานดีไซน์ งานไอเดียมาที่นี่ก็ค่อนข้างได้ความรู้กลับไปพอสมควร
จากตรงนี้เราจะเริ่มเดินเข้าไปสำรวจภายในระยะทาง 400 เมตร โดยจะมีเจ้าหน้าที่เป็นไกด์ให้ความรู้
อ้อ ลืมบอกไปด้านหน้าเขาเอาตู้ใส่น้องปลามาวางไว้ด้านหน้าด้วย
เจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นปลาที่มากับน้ำตอนเข้าท่วมโรงงาน
พอเดินเข้ามาข้างในก็เจอกับคุณตัน คุณตัน คุณตัน คุณตัน คุณตุน คุณตัน ฯลฯ
ตุ๊กตาก็น่ารักดีครับ แต่เอ!! แต่เจอเยอะๆ ผมรู้สึกขนลุกขึ้นมาแฮะ!!!
โดยที่นี้เขาจะแบ่งเป็น 2 โซนหลักๆ คือ T Of Life และเรียนรู้อย่างอิชิตัน
ซึ่งโซนแรกที่เรามานั้นนี้จะเป็นโซน T Of Life
ที่ให้ความรู้เรื่องชา
มีจำลองวัฒนธรรมชาจากประเทศต่างๆ ทั้งจีน อังกฤษ
และญี่ปุ่น
ผมชอบห้องนี้ครับเขาพูดถึงเรื่องบรรจุภัณฑ์ก็ทำออกมาได้เก๋ดี
อ่านเพลินๆ ให้ความรู้เรื่องชาไปด้วย
ส่วนห้องนี้จะเป็นการจำลองการปลูกชา
อันนี้เป็นการดีไซน์ขวดชาเขียวครับ
มาเจอห้องนี้เข้าไป ทำเอาช่างภาพผมแอบหลอนไปเลย เพราะงงว่าอันไหนคนจริง อันไหนคนปลอม
ตลอดทางจะมีตัวปั๊มให้ปั๊มด้วยนะครับ ผมว่าเด็กๆ น่าจะชอบ
ต่อไปจะเข้าสู่โซนที่สองซึ่งเป็นโซนเรียนรู้อย่างอิชิตัน
เดินมาก็เจอคุณต้นตัวอ้วนกลมตลอดทาง
ส่วนที่อยู่บนผนังกระจกเรียกว่าคำตันครับ
คือคำที่คุณตันใช้ยึดในการดำเนินชีวิต
ส่วนด้านหลังกระจกคือส่วนโรงงานที่เราสามารถเห็นการผลิตของที่นี่ได้ครับ
ที่ผมชอบคือโรงงานของเขาสะอาด ใช้เครื่องจักรเป็นหลัก
โดยตลอดทางจะเห็นเครื่องจักรหน้าตาแปลกมากมาย
แล้วได้รู้ว่าชาเขียวที่เรากินนั้นเขาเดินทางมาอย่างนี้นี่เอง
จากนั้นแอบตื่นเต้นกันเล็กน้อยครับเมื่อเข้ามาในห้องนี้เจ้าหน้าที่สาวสวยเขาก็ประกาศว่า
"ระวังจระเข้นะคะ"
ผมยืนรอตั้งนานกว่าจะเจอจระเข้ ตอนแรกนึกว่าจะออกมาแบบน่ากลัว เหมือนเข้าบ้านผีสิง
แต่พอออกมาก็กลายเป็นจระเข้ง่วงๆ ว่ายไปมา
แล้วใครจะกลัวล่ะครับพี่
ส่วนตรงกลางคือการจำลองกระสอบทรายครับ
ผมยังไม่ได้ลองว่าถ้าเดินออกจากกระสอบทรายจระเข้จะมางาบเราหรือเปล่า
คุณผู้อ่านคนไหนถ้าไปมาแล้วก็ลองดูแล้วมาเล่าให้ผมฟังได้นะครับ
พอออกมาก็มาพบกับห้องที่จัดแสดงความสูญเสียของโรงงานในช่วงน้ำท่วมครับ
ลองอ่านกันดูนะครับ ผมว่าใครที่เจอน้ำท่วมก็คงต้องพบเจออารมณ์แบบนี้ทุกคน
เข้าสู่ห้องพิพิธภัณฑ์แห่งการสาบสูญ โดยเขาจะพูดถึงสิ่งมีชีวิตรอบตัวเราที่กำลังสูญหายไป
และสุดท้ายถ้าเรายังไม่รักษาตั้งแต่วันนี้ มนุษย์เองนี่แหละที่จะสูญพันธุ์ไป
ตรงนี้มีปุ่มให้เราเลือกกด 3 ปุ่ม
ให้ความรู้เกี่ยวกับ เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม
ตอนแรกจินตนาการว่าน่าจะสนุกกว่านี้
แต่พอไปกดแล้วก็มีข้อมูลขึ้นมาบนจอ(น่าจะมีเสียงเพื่อให้ผู้พิการทางหูด้วยนะครับ)
ตอนท้ายก็มีคะแนนขึ้นให้ซึ่งไม่รู้ว่าคะแนนที่ได้เขารวมอย่างไง กดได้สองทีก็เบื่อไปเล่นอย่างอื่นดีกว่า
แต่โซนนี้ผมชอบน่ะครับ เขาทำเป็นตู้ล็อกเกอร์แล้วพอเปิดเข้าไป
ก็เป็นภาพและเสียงของคนที่มีชื่อเสียงในสังคม
ไม่ว่าจะเป็นนักเขียน พระ และคนในแวดวงอาชีพต่างๆ พูดถึงเรื่องหลักในการใช้ชีวิต
ส่วนหองนี้คือห้องของน้ำครับ ผมชอบการดีไซน์ของห้องนี้นะ
โดยในห้องนี้เขาจะพูดถึงว่าสมมติโลกมีน้ำทั้งหมด 1 แกลลอน
น้ำดื่มมีแค่ 5 หยดเท่านั้น วงจรของน้ำ 5 หยดสุดท้ายกำลังหายไปเรื่อยๆ
ขาดน้ำ 3 วันเราทุกคนก็ขาดใจ แล้วเราจะทำไงกันดี
เป็นคำถามให้หลายคนกลับไปคิดกัน
ต่อมาบอกเล่าเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่นำมารีไซเคิล เป็นโต๊ะ เก้าอี้ หลังคาเก๋มากๆ
อันนี้เป็นโต๊ะและเก้าอี้ที่ไกด์เขาบอกว่าในโรงงานแห่งนี้ก็ใช้โต๊ะรีไซเิคิล
เดินต่อมาก็มาเจอกับกองขยะมากมายที่เขาไม่ได้กองกับพื้นนะครับ แต่ลอยอยู่บนหัวเรา
ซึ่งจะมีปุ่มกด ให้เจ้าขยะเหล่านี้เลื่อนลงมา อ้อ ระวังหัวกันด้วยนะครับ
เจ้าขยะเหล่านี้แหละที่จะสามารถเปลี่ยนเป็นเงินทองให้เราได้ทั้งนั้น
มีซาเล้งขายของเก่า (และมีเสียง) ด้วย
อันนี้คือมุ้งที่คุณตันมานอนตอนเฝ้าโรงงาน
ก่อนออกไปเขาก็มีตู้ไข่ยักษ์ให้เขียนคำทิ้งท้ายว่าเราจะทำอะไรให้กับโลกลงไป
แล้วก็มีของที่ระลึกเป็นเมล็ดต้นนางพญาเสือโคร่งไหลลงมา
ออกจากห้องมาก็มานั่งกินไอศกรีม Melt me อร่อยมากเลยครับ
มีมุมของที่ระลึกให้เลือกซื้อกลับไปด้วย
ของมากมายครับ ทั้งกระเป๋า กระปุกออมสิน โปสการ์ด สมุด เข็มกลัด
เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวแห่งใหม่ที่ค่อนข้างน่าสนใจ
สำหรับคนที่ต้องการพาลูกหลานมาเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์จากน้ำท่วม
ผมว่าไม่ว่าคุณจะมีธุรกิจเล็ก หรือใหญ่ หรือไม่มีเลย
น้ำท่วมครั้งที่ผ่านมาก็สร้างความเสียหายให้กับเราทุกคน
ขึ้นอยู่กับว่าบทเรียนครั้งนั้นจะสอนให้เรารับมือกับเหตุการณ์ในวันข้างหน้าได้มากเท่าไร...
ตันแลนด์
นิคมโรจนะ อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา
เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวัน (เว้นวันจันทร์) เวลา 10.00-16.00 น.
สำรองการเข้าชมได้ที่โทร.0-2762-9999


เรื่อง นายค็อปเตอร์ไม่ไผ่
ภาพ This road is mine

เรื่องโดย
ADMIN
Chillpainai