bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

12 จังหวัด 12 เมืองทางเลือก ต้องห้าม...พลาด

calendar_month 05 มี.ค. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 234,172 / รีวิวที่เที่ยว

 


12 จังหวัด 12 เมืองทางเลือก จาก 5 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย เชื่อมโยงท่องเที่ยวเมืองหลักเดิม เน้นจุดเด่นศักยภาพจังหวัดที่มีความพร้อม ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วิถีชีวิต และศิลปวัฒนธรรม

ภาคเหนือ  3 จังหวัด ได้แก่ น่าน (กระซิบรักเสมอดาว)  เพชรบูรณ์ (ภูดอกไม้สายหมอก) และลำปาง (เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา) 

กระซิบรักเสมอดาว.น่าน

น่าน ตำนานแห่งขุนเขา เมืองเก่าที่มีชีวิต  และวัฒนธรรมที่โดดเด่น  เพราะหัวใจน่ารักของคนน่าน และบรรยากาศโรแมนติก  ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่จึงเป็นปฐมบทของการกระซิบรักได้ละมุนละไมที่สุดของเมืองไทย

ภาพกระซิบรักบันลือโลก

ภาพดอยเสมอดาว (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน)

ต้องห้ามพลาด

ภาพกระซิบรักบันลือโลก อมตะแห่งภาพจิตรกรรมปู่ม่านย่าม่าน ประดับบนผืนผนังท้าทายกาลเวลา (อยู่ภายในวัดภูมินทร์ บ้านภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน โทร.0 5471 0935)

วัดภูมินทร์ หนึ่งเดียวในเมืองไทยกับพระวิหาร พระอุโบสถ และเจดีย์ทรงจตุรมุขที่เทินไว้กลางลำตัวนาคคู่ (วัดภูมินทร์ อ.เมือง จ.น่าน โทร.0 5471 0935)

วัดมงคล ความรักจะยืนยงด้วยการนั่งลงถวายเทียนคู่แด่องค์พระประธาน (ถ.มหาวงศ์ อ.เมือง จ.น่าน)

วัดพระธาตุแช่แห้ง ไม่เพียงเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองน่านเท่านั้น หากยังเป็นพระธาตุประจำชีวิตของคนเกิดปีเถาะ (หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน โทร.0 5475 1846)

วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร พระอารามหลวง จากสุโขทัยส่งใจไปถึงน่าน ทุกเรื่องเล่าขานผ่านอารามเก่าแก่กลางเมือง (ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน โทร.08 7177 6688, 0 5477 2164)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน เก็บรวมทุกรายละเอียดของความเป็นเมืองน่าน สัมผัสงาช้างดำหนึ่งเดียวในไทย (ถ.ผากอง ต.ในเวียง อ.เมือง จ.น่าน โทร.0 5471 0561)

หอศิลป์ริมน่าน รวมหัวใจรักในงานศิลป์จากศิลปินถิ่นน่านแท้ๆ (122 หมู่ 2 ต.บ่อ อ.เมือง จ.น่าน ตั้งอยู่ริมทางหลวง กม.20 ห่างจากตัวเมือง 20 กิโลเมตร โทร.0 5479 8 046 ,08 1322 2912)

ดอยเสมอดาว(อุทยานแห่งชาติศรีน่าน) โรแมนติกที่สุดแล้ว ถ้าได้มาอาบฟ้าห่มดาวบนยอดดอยแห่งนี้ (อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อ.นาน้อย จ.น่าน โทร. 0 5473 1714)

อุทยานแห่งชาติขุนสถาน สีชมพูบานสะพรั่ง ขับขานความหวานแว่วทั้งทิวเขา (บ้านขุนสถาน ต.สันทะ อ.นาน้อย จ.น่าน โทร.08 1883 8184, 0 5470 1121)

เส้นทาง 1148 ท่องไปบนถนนเส้นสวย scenic route ที่โรแมนติกที่สุดของเมืองไทย อ.ท่าวังผา จ.น่าน - อ.เชียงคำ จ.พะเยา)

วัดหนองบัว หัวใจแห่งไทลื้อ เลื่องลือภาพจิตรกรรมฝาผนัง (ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน)

บ่อเกลือ สืบสานตำนานการต้มเกลือสินเธาว์บนภูเขาแบบโบราณที่วันนี้หาชมได้ยากเต็มที (อ.บ่อเกลืออยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 80 กิโลเมตร  )

อำเภอปัว เมืองน่ารัก ชุมชนน่าอยู่ ธรรมชาติสุขสงบ ในบรรยากาศสุดโรแมนติก (อ.ปัวอยู่ห่างจากตัวเมืองน่านประมาณ 60 กม.)

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ในวันที่ฟ้าเป็นใจ จะได้เห็นความงามหนึ่งในโลกของดอกชมพูภูคา (อ.ปัว จ.น่าน โทร.08 1882 5999, 0 5470 1000)

น่ารู้

          น่านเป็นเมืองโดดเด่นในงานหัตถกรรมที่สะท้อนผ่านถึงวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นการทอผ้าลายน้ำไหล และการทำเครื่องเงิน

การเดินทาง

         รถยนต์  จากกรุงเทพฯใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 32 จนถึงจังหวัดนครสวรรค์แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 117 ไปจนถึงจังหวัดพิษณุโลกจากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่านจังหวัดอุตรดิตถ์และอำเภอเด่นชัยจังหวัดแพร่แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 101 ผ่านจังหวัดแพร่ไปจนถึงจังหวัดน่าน รวม 668 กม.

         เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่เมืองน่าน ทุกวัน

ภูดอกไม้สายหมอก จ.เพชรบูรณ์

คงฟินดีไม่น้อยถ้าทะเลหมอกลอยมาเคาะหน้าต่างยามเช้า คงเพลินดีไม่เบา ถ้าสองตาได้ดื่มด่ำดอกไม้บานกลางภูสูง ที่นี่ล่ะ...เพชรบูรณ์

ต้องห้ามพลาด

ภูทับเบิก ภูเขาสูงสุดของเพชรบูรณ์ ที่ที่มีความสนุกสนานกลางทุ่งกะหล่ำยักษ์  และนอนอาบหนาวใต้ดาวพราวฟ้า (ตำบลวังบาล จ.เพชรบูรณ์)

สวนดอกไม้เมืองหนาวภูทับเบิก แหล่งท่องเที่ยวน้องใหม่ ไฉไลด้วยสีสันดอกไม้สดใสน่ารัก (ภูทับเบิก ต.วังบาล จ.เพชรบูรณ์)

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ประจักษ์แห่งศรัทธาที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย (ตั้งอยู่ บริเวณเนินเขาในหมู่บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ http://www.phasornkaew.org )

เขาค้อ หยิกสายหมอก หยอกสายลม กลมเกลียวกับทิวเขาน้อยใหญ่ ในบรรยากาศสวิตเซอร์แลนด์แบบไทยๆ (อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

อ่างเก็บน้ำรัตนัย พักผ่อนหย่อนใจริมทะเลสาบที่มีอะไรมากกว่าผืนน้ำและแผ่นฟ้า (บนทางหลวงหมายเลข 2325 เลยกิโลเมตรที่ 5 อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

น้ำตกศรีดิษฐ์ ความสวยงามของชั้นหินและสายน้ำที่ชุ่มฉ่ำตลอดทั้งปี (บ้านร่มโพธิ์ร่มไทร หมู่ที่ 10 ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์)

ทุ่งแสลงหลวง สะวันนาเมืองไทยที่ละลายหัวใจนักท่องธรรมชาติด้วยป่าสน หมอกยามเช้า และขุนเขาตระหง่าน (ต.หนองแม่นา อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ โทร.0 5526 8019)

ไร่ต้นยาสูบ เพชรบูรณ์ไม่ได้ดังแค่กะหล่ำปลีเท่านั้น หากยังเป็นแหล่งต้นยาสูบที่ใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองไทยด้วยนะ!  (จากทางหลวงหมายเลข 21 วิ่งไป อ.หล่มสัก)

อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ วีรกรรมผู้กล้าบนภูสูง ปรุงประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา (บนยอดสูงสุดของเขาค้อ)

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ที่สุดแห่งธรรมชาติของเพชรบูรณ์ อุดมด้วยเถื่อนถ้ำ น้ำตก จุดชมวิว และป่าเปลี่ยนสี (ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ตรงหลักกิโลเมตรที่ 50 ทางหลวงหมายเลข 12 เส้นหล่มสัก-ชุมแพ โทร.0 56 72 9002)

ไร่กำนันจุล ไร้ส้มที่โด่งดังที่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ จากการทดลองค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันไร่กำนันจุลมีผลผลิตทางการเกษตรมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ส้มเขียวหวานที่เลื่องชื่อเท่านั้น ยังมีผลไม้อีกมากมายที่โด่งดัง (442 หมู่ที่ 3 ถ.สามัคคีชัย ต.วังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์)

น่ารู้

           ของฝากของกินชื่อดังในเพชรบูรณ์มีมากมาย อาทิเช่น มะขามหวาน ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป สะเดาหวานจากหล่มสักที่มีรสชาติแปลกว่าสะเดาภาคอื่นๆ  ปลาส้มไร่กำนันจุล และขนมจีนเส้นสดจากหล่มเก่า

การเดินทาง

         รถยนต์    เส้นทางที่ 1 จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงจังหวัดสระบุรี ถึงกิโลเมตรที่ 125 แยกขวามือเข้าทางหลวงหมายเลข 21 ผ่านอำเภอชัยบาดาล ศรีเทพ วิเชียรบุรี ต่อไปอีกประมาณ 221 กิโลเมตร ถึงจังหวัดเพชรบูรณ์

                          เส้นทางที่ 2 จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ถึงอำเภอวังน้อยแล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วใช้ทางหมายเลข 117 ตรงเข้าจังหวัดพิษณุโลก จากนั้นใช้ทางหมายเลข 12 เส้นพิษณุโลก-หล่มสัก ผ่านเขาค้อ-หล่มสัก เข้าจังหวัดเพชรบูรณ์

 

เมืองไม่หมุนตามกาลเวลาจ.ลำปาง

ต่อให้เราจะก้าวเร็วแค่ไหน เมื่อมาถึงลำปางคล้ายจะกลายเป็นคนเดินช้าที่อยากจะค่อยๆ ซึมซับและสัมผัสความสวยงามของเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลาแห่งนี้    

ต้องห้ามพลาด

สถานีรถไฟนครลำปาง สถานีแห่งกาลเวลาของนครลำปาง อาคารอนุรักษ์ดีเด่น ที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยภาคเหนือกับสถาปัตยกรรมยุโรปได้อย่างลงตัว  (อ.เมือง จ.ลำปาง)

ชามตราไก่  สืบสานช่างฝีมือที่สืบทอดกันมากว่าร้อยปี สู่สัญลักษณ์ของเมืองลำปางอันเลื่องลือมาถึงลำปางแล้วไม่ได้ติดไม้ติดมือเดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง

หอนาฬิกาลำปาง แม้เวลาดูคล้ายหยุดหมุนในลำปาง แต่เข็มของหอนาฬิกาแห่งนี้ไม่เคยหยุดเดิน (วงเวียน ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง)

ถนนสายวัฒนธรรม สัมผัสวิถีชุมชนคนลำปางอย่างใกล้ชิด ถนนสายนี้มีกิจกรรมดีๆ ทุกสัปดาห์ ทั้ง “กาดหมั้วคัวแลง”ถนนคนเดินวันศุกร์ เวลา 16.00-21.00 น. และ “กาดหมั้วคัวงาย” ตลาดเช้าวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่ 7.00 น. ( ถ.วังเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดพระธาตุลำปางหลวง วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองลำปาง อลังการเงาพระธาตุกลับหัว (ถ.ลำปาง-เกาะคา ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา จ.ลำปาง)

วัดปงสนุก วัดสำคัญคู่ลำปางมาช้านานตั้งแต่สมัยหริภุญชัย และได้รับรางวัลด้านการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมจากยูเนสโก (ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดาราม วัดเก่าแก่สวยงามอายุนับพันปี เคยเป็นที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต (ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง)

วัดเจดีย์ซาวหลัง ชื่นชมความงดงามเจดีย์ 20 องค์ ตามแบบศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า หากใครนับได้ครบ 20 องค์ถือเป็นคนมีบุญ (ถ.ลำปาง-แจ้ห่ม อ.เมือง จ.ลำปาง)

บ้านเสานัก บ้านไม้สักโบราณศิลปะพม่าผสมล้านนา ที่มีเสาเรือนถึง 116 ต้น ยังคงความสมบูรณ์แบบมาจนถึงปัจจุบัน (เลขที่ 6 ถ.ราษฎร์วัฒนา ต.เวียงเหนือ อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0 5422 7653, 0  5422  4636)

สะพานรัษฎา เพราะสะพานปูนนี้มีที่มา ร้อยเรียงเรื่องราวของลำปางจากอดีตกาลสู่ปัจจุบัน (ริมแม่น้ำวัง ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง)

ถนนคนเดินกาดกองต้า  จับจ่ายอย่างสนุกสนานและสัมผัสความเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ขาย ที่เรียงรายด้วยบ้านเก่าเสริมบรรยากาศคลาสสิก (ขนานกับแม่น้ำวัง ในซอยตลาดจีนริมน้ำ เปิดขายเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์)

วัดศรีรองเมือง งดงามด้วยลวดลายฉลุโลหะของศิลปกรรมพม่า ให้ความรู้สึกอ่อนช้อยและพริ้วไหวทุกครั้งที่ได้เห็น (บ้านท่าคร่าวน้อย ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง)

พิพิธภัณฑ์หอปูมละกอน เปิดบันทึกปูมหลังครั้งเก่า เรื่องเล่าน่าฟังจากเขลางค์นคร (สำนักงานเทศบาลนครลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา ถ.ฉัตรไชย, ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0 5423 7237)

วัดศรีชุม วัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วิหารและโบสถ์มีศิลปะแบบพม่าที่งดงามและสมบูรณ์แห่งหนึ่งในภาคเหนือ (ถ.ทิพวัลย์ อ.เมือง จ.ลำปาง โทร.0 5462 0823)

ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย ช.ช้างน่ารัก ที่ต้องรักษ์และดูแลให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองของเราตลอดไป (กม.28-29 ถ.ลำปาง-เชียงใหม่ ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โทร.0 5482 9333 http://www.thailandelephant.org)

วัดพระธาตุจอมปิง มหัศจรรย์เงาสะท้อน “พระธาตุกลับหัว”สีสันเสมือนจริง อีกแห่งหนึ่งของเมืองลำปาง (อ.เกาะคา จ.ลำปาง โทร.0 5436 2893)

วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์  ครั้งหนึ่งในชีวิตกับความศรัทธาดั่งผาสูง เจดีย์บนเขา สวรรค์สุดขอบฟ้าของลำปางที่ไม่ควรพลาด (หมู่ที่ 7 บ้านทุ่งทอง ต.วิเชตนคร อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง)

น่ารู้

           เพราะลำปางเป็นเมืองรถม้า การนั่งรถม้าชมเมืองลำปางจะเปิดมุมมองใหม่ๆ ของการเดินทางท่องเมืองนี้ โดยมีหลายเส้นทางให้เลือก ทั้งเส้นทางรอบเมืองเล็ก เส้นทางรอบเมืองใหญ่ เส้นทางชมย่านตลาดเก่า หรือจะเช่าเป็นชั่วโมงก็มีบริการเช่นกัน โดยคิวรถม้าจะอยู่ที่หน้าศาลากลางหลังเก่า เปิดให้บริการ 06.00-16.00 น.

การเดินทาง

         รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถึงกิโลเมตรที่ 52 แยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านสิงห์บุรีชัยนาท เข้านครสวรรค์ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1 ผ่านกำแพงเพชร ตาก ตรงเข้าสู่จังหวัดลำปาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง

         รถไฟ การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดบริการรถด่วน รถเร็วและรถธรรมดา จากกรุงเทพฯ ไปนครลำปางทุกวัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หน่วยบริการเดินทาง โทร.1690

         เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานลำปาง

 

ภาคอีสาน  2 จังหวัด  ได้แก่  บุรีรัมย์ (เมืองปราสาทสองยุค) และ เลย (เย็นสุด...สุขที่เลย)

เมืองปราสาทสองยุค.บุรีรัมย์

จากดินแดนที่หยัดยืนบนรอยอดีตที่เต็มไปด้วยปราสาทหิน กำลังพลิกโฉมไปสู่ความล้ำสมัยของปราสาทยุคใหม่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าบุรีรัมย์กำลัง...‘อิน’

ต้องห้ามพลาด

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง อ.เฉลิมพระเกียรติ ปราสาทบนยอดภูเขาไฟที่สวยงามที่สุด กับปรากฏการณ์มหัศจรรย์ของแสงตะวันสาดส่องลอด 15 ช่องประตู (อยู่ห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ลงมาทางทิศใต้ประมาณ 77 กิโลเมตร สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.0 4466 6251, 0 4466 6252)

ปราสาทเมืองต่ำ หนึ่งในความคลาสสิกแห่งบุรีรัมย์ที่ยืนยงอย่างไร้กาลเวลา (ตั้งอยู่ที่ ต.จระเข้มาก ห่างจากปราสาทหินพนมรุ้ง 8 กิโลเมตร สอบถามเพิ่มเติมที่  โทร.0 4466 6251, 0 4466 6252)

สนามไอโมบาย สเตเดียม หรือปราสาทสายฟ้า ยกระดับบุรีรัมย์สู่เมืองกีฬาระดับโลก ด้วยสนามฟุตบอลมาตรฐานฟีฟ่าแห่งแรกและแห่งเดียวในไทย (ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร. 09 3303 2557)

สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มอเตอร์สปอร์ตระดับมาตรฐานสากลหนึ่งเดียวในไทย ที่จัดประลองความเร็วและแรงปานสายฟ้าแลบ (ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์)

เพ ลา เพลิน บูติก รีสอร์ท แอนด์ แอดเวนเจอร์ แคมป์ เติมความสดชื่นให้ชีวิตด้วยสีสันของพรรณไม้ในโซนฟลอร่า และผจญภัยในแคมป์เรียนรู้ที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (252 หมู่ที่ 7 ต.หนองขมาร อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ โทร.08 7797 4936, 08 7798 1039)

ศาลหลักเมือง ความศักดิ์สิทธิ์ที่ร้อยศรัทธาของชาวบุรีรัมย์เป็นหนึ่ง (ถ.จิระ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์)

วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง จากภูเขาไฟที่นอนหลับใหลสู่การเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางความสมบูรณ์ของธรรมชาติ (บ้านน้ำซับ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร. 0 4463 7349)

หมู่บ้านทอผ้าไหม อ.นาโพธิ์ แหล่งทอผ้าไหมซิ่นตีนแดงผ้าเอกลักษณ์บุรีรัมย์, ผ้าไหมหางกระรอก ผ้านุ่ง ผ้าคลุมไหล่ ผ้ามัดหมี่ คุณภาพดีต้องยกนิ้วให้ที่นี่ (อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ โทร.0 4468 1657, 08 1967 3849)

วัดกลางพระอารามหลวง  วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองบุรีรัมย์ ที่เปี่ยมมนต์ขลังจากตำนานสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ (อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โทร.0 4462 1688)

แหล่งดูนกในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า อ่างเก็บน้ำสนามบิน/ ห้วยจระเข้มาก/ ห้วยตลาด เมื่อปีกแสนสวยกว่าร้อยสายพันธุ์ โบยบินมาอยู่ร่วมวิถีเดียวกันกลางธรรมชาติบริสุทธิ์ (ทางสายบุรีรัมย์-ประโคนชัยทางหลวงหมายเลข 219)

ผ้าภูอัคนี ฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟของชุมชนบ้านเจริญสุข นำดินภูเขาไฟอังคารที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาเป็นวัตถุดิบในการย้อมผ้า (อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ โทร.08 9526 6071)

น่ารู้

          ใช่ว่ามีแต่ข้าวหอมมะลิจากบุรีรัมย์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น กุ้งจ่อมของอำเภอประโคนชัยก็เลื่องลือไม่แพ้กัน และในปัจจุบันยังพัฒนาไปสู่ทำเป็นกุ้งจ่อมแห้งได้แล้วด้วย อีกชิ้นที่ขอแนะนำคือ “ผ้าภูอัคนี” ผ้าฝ้ายย้อมดินภูเขาไฟแห่งเดียวในประเทศไทย ที่สวมใส่สบาย เป็นสิริมงคล

การเดินทาง

        รถยนต์ จากกรุงเทพฯเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) ถึงสระบุรีเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 24 (โชคชัย-เดชอุดม) ผ่าน อ.หนองกี่ อ.นางรอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ จ.บุรีรัมย์ ตามทางหลวงหมายเลข 218

         รถไฟ มีรถไฟสายกรุงเทพฯ-อุบลราชธานี กรุงเทพฯ-สุรินทร์ และนครราชสีมา-อุบลราชธานี ทั้งที่เป็น ขบวนรถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และรถดีเซลราง ผ่านสถานีบุรีรัมย์ทุกขบวน รายละเอียดติดต่อสอบถามได้ที่ โทร.1690, 0 2220 4334, 0 2220 4444

          เครื่องบิน มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดบุรีรัมย์ ทุกวัน ลงที่สนามบินบุรีรัมย์ อ.สตึก จากนั้นนั่งรถต่อเข้าตัวเมืองบุรีรัมย์

เย็นสุด...สุขที่ ‘เลย’ .เลย

นิยามใหม่ของภาคอีสานที่เล่าขานเรื่องราวเย็นสบายกลางทุ่งดอกไม้สีชมพูบนภูสูง ทริปดีๆ คราวนี้คงละ ‘เลย’ ไม่ได้แล้ว

ต้องห้ามพลาด

อุทยานแห่งชาติภูเรือ กอดแสงตะวัน ฝันถึงทะเลหมอกจากบนยอดภู (ต.หนองบัว อ.ภูเรือ จ.เลย โทร.08 8509 5299, 0 4281 0965)

ตลาดดอกไม้เมืองหนาวบ้านหนองบง ความงามแห่งฤดูกาลที่มาพร้อมลมหนาวๆ หยอกเย้าสีสันของดอกไม้ (ริมถนนทางหลวงหมายเลข 203 สายเลย-ภูเรือห่างจากตัวเมืองประมาณ 47 กม.)

ภูลมโล เมื่อนางพญาเสือโคร่งบาน ทั่วทั้งภูเขาจะมีแต่สีชมพูหวานแหวว (ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย ติดต่อชมการท่องเที่ยวกกสะทอน โทร.09 1373 0903)

ภูกระดึง ปฐมบทการเดินป่าที่ทุกคนควรย่ำผ่านเพื่อสัมผัสความเป็นผู้พิชิต (หมู่ที่ 1 บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ. ภูกระดึง จ. เลย โทร.0 4281 0833-4)

ภูป่าเปาะ มองดูภูหอพร้อมวิวพานอรามาบนยอดภู ที่ได้ฉายาว่า ‘ฟูจิเมืองเลย’ (บ้านผาหวาย ต.ปวนพุ อ.หนองหิน จ.เลย โทร.08 9764 6829)

พระธาตุศรีสองรัก พยานแห่งมิตรภาพระหว่างไทย-ลาวผูกศรัทธาชาวด่านซ้ายไว้เป็นหนึ่งเดียว  (อ.ด่านซ้าย สอบถามที่ว่าการอำเภอด่านซ้าย โทร.0 4289 1266)

วัดโพนชัย และพิพิธภัณฑ์ผีตาโขน เก็บทุกเรื่องของหน้ากากและเทศกาลผีน่ารัก แล้วนำมาบอกเล่าได้น่าชื่นชม (อ.ด่านซ้าย โทร.08 3359 1819)

วัดเนรมิตวิปัสสนา อลังการงานสร้างแห่งศาสนสถาน ต้องแวะมาชมเป็นบุญตาสักครั้ง (20 หมู่ 14 บ้านหัวนายูง ต.ด่านซ้าย อ.ด่านซ้าย จ.เลย 42120 โทร.0 4289 1226, 08 6852 5950)

ถนนชายโขง เชียงคาน เสน่ห์ไร้กาลเวลาของห้องแถวไม้เรียงรายริมโขง (อ.เชียงคาน โทร.0 4282 1 597)

วัดศรีคุณเมือง วัดเก่าคู่ชาวเชียงคาน ชมฮางฮดพญานาคสุดคลาสสิก (อยู่ที่ซอย 7 ถนนชายโขง อ.เชียงคาน)

ภูทอก ทะเลหมอกฟูๆ เหนือแม่น้ำโขง ที่นี่ล่ะสวยซึ้ง (ตั้งอยู่บนถนนสายเดียวกันกับแก่งคุดคู้ ห่างจาก อ.เชียงคาน 8 กม.)

แก่งคุดคู้ เมื่อแม่น้ำโขง ทิวเขา และหินแสนสวย ร้อยรวมกันเป็นเกาะแก่ง (ห่างจากอ.เชียงคาน 4กม.)

วัดศรีโพธิ์ชัยบ้านแสงภา  อ.นาแห้ว ประเพณีแห่ต้นดอกไม้ที่ยิ่งใหญ่ของชุมชนที่เปี่ยมด้วยความศรัทธาแห่งพุทธศาสนาในช่วงวันสงกรานต์ (โทร. 08 4789 3162)

น่ารู้

           อำเภอภูเรือเป็นแหล่งปลูกไม้ประดับใหญ่ที่สุดของประเทศช่วงเดือนธันวาคม จะได้เห็นทุ่งต้นคริสต์มาสสีแดงสดฉ่ำละลานตา

การเดินทาง

         รถยนต์ เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ สระบุรี สีคิ้ว ชัยภูมิ (201) ด่านขุนทด แก้งคร้อ ภูเขียว ชุมแพ ผานกเค้า ภูกระดึง และไปที่จังหวัดเลย

                       เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ ลพบุรี (21) ชัยบาดาล วิเชียรบุรี หนองไผ่ เพชรบูรณ์ หล่มเก่าด่านซ้าย ภูเรือ และเลย

         รถไฟ นั่งรถไฟจากหัวลำโพงลงสถานีอุดรธานี จากนั้นต่อรถประจำทางมายังเมืองเลย สอบถามที่หน่วยบริการเดินทางการรถไฟแห่งประเทศไทยโทร.1690

         เครื่องบิน ไม่มีเที่ยวบินบินตรงกรุงเทพฯ - เลย ใกล้ที่สุดคือบินไปลงอุดรธานี แล้วต่อรถไปเมือง

เลย ระยะทางประมาณ 152 กิโลเมตร

 

ภาคกลาง  2 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสงคราม (เมืองสายน้ำสามเวลา) และ ราชบุรี (ชุมชนคนอาร์ต) 

เมืองสายน้ำสามเวลา.สมุทรสงคราม

เก็บเกี่ยวความสุขเรียบง่าย กับหัวใจของเมืองสายน้ำอย่างสมุทรสงคราม ที่เต็มไปด้วยโมงยามอันน่ารื่นรมย์ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

ต้องห้ามพลาด

ตักบาตรริมคลอง อรุณสวัสดิ์ในแบบฉบับวิถีริมคลองที่ทุกคนไม่ควรพลาด (ลำคลองต่างๆ ในสมุทรสงคราม)

ตลาดน้ำบางน้อย ตลาดน้ำยามเช้ามุมเล็กๆ แต่น่ารักจากคลองบางน้อย (ปากคลองบางน้อย หน้าวัดเกาะแก้ว ต.กระดังงา อ.บางคนที โทร.0 3476 1537 เทศบาลตำบลกระดังงา)

ตลาดน้ำท่าคา ความรื่นรมย์ริมฝั่งน้ำที่มีทุกเช้าวันเสาร์ อาทิตย์ และวันข้างขึ้นข้างแรม (ต.ท่าคา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มีทุกเช้าวันเสาร์ อาทิตย์ และวันข้างขึ้นหรือข้างแรม ค่ำ ค่ำ และ 12 ค่ำ สอบถาม อบต.ท่าคา โทร. 0 3476 6208)

ตลาดน้ำอัมพวา ช็อปปิ้งสารพัดของฝากจากความทรงจำ ณ ตลาดน้ำยามเย็น “อัมพวา” (ตั้งอยู่ใกล้วัดอัมพวันเจติยาราม อ.อัมพวา โทร.0 3475 1351, 0 3475 1359 เทศบาลตำบลอัมพวา)

โครงการอัมพวาชัยพัฒนานุรักษ์ ประตูบานใหญ่ที่เปิดไปสู่เรื่องราวความสุขของอัมพวา (เลขที่ 185 – 191 ต.อัมพวา อ.อัมพวา โทร.0 3475 2245)

หัตถาธารา ล่องเรือพร้อมนวดเท้า สุขใดเล่าจะเท่าสุขนี้ (นสินสมุนไพร 124/19 หมู่ 6 ต.แม่กลอง อ.เมือง สมุทรสงคราม โทร.08 9672 0205 http://www.hatthatara.webiz.co.th)

ชุมชนบ้านบางพลับ บทตอนชีวิตชาวสวนที่เรียนได้ไม่รู้จบ (อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โทร.0 3476 1985, 08 9829 7100)

วัดบางกะพ้อม ชมจิตรกรรมฝาผนังนูนต่ำ สักการะพระเกจิชื่อดังของอัมพวา  (อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โทร.0 3475 2625)

อาสนวิหารแม่พระบังเกิด บางนกแขวก กว่าร้อยปีแล้วที่โบสถ์เก่าแก่แห่งนี้ยืนหยัดอย่างสง่างาม เป็นศูนย์กลางศรัทธาแห่งคริสตศาสนิกชน (หมู่ 7 ต.บางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม โทร.0 3476 1347)

ตลาดเก่าบางนกแขวก ปลุกความร่าเริงของตลาดโบราณให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง (ปากคลองบางนกแขวก อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม) โทร. 0 3470 3223-4 เทศบาลตำบลบางนกแขวก

วัดบางกุ้ง ตำนานแห่งโบสถ์ปรกโพธิ์สุดขลังเกินคำบรรยาย (ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม)

อุทยาน ร.2 งดงามด้วยหมู่เรือนไทยหัวใจแห่งอัมพวา (ต.อัมพวา อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม โทร.0 3475 1666)

ดอนหอยหลอด ศูนย์รวมความอร่อยแบบฉบับซีฟู้ดกู๊ดเทสต์ (สันดอนปากแม่น้ำแม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม)

ตลาดร่มหุบ ชีวิตพ่อค้าแม่ขายที่น่าหวาดเสียวที่สุดในเมืองไทย (ติดกับสถานีรถไฟแม่กลอง)

น่ารู้

          สำหรับกิจกรรมที่จะทำให้เห็นอีกมุมของสายน้ำสมุทรสงครามได้สนุกขึ้น ลองปั่นจักรยานลัดเลาะชมสวนมะพร้าวอันเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของชาวสมุทรสงคราม

การเดินทาง

          รถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 ถนนสายธนบุรี-ปากท่อ (พระราม 2) ผ่านสี่แยกมหาชัย-นาเกลือ ประมาณหลัก กิโลเมตรที่ 63 จะมีทางแยกต่างระดับ เข้าตัวเมืองสมุทรสงคราม

          รถไฟ จากสถานีรถไฟวงเวียนใหญ่ มีรถไฟสายวงเวียนใหญ่ - มหาชัย ออกทุกวัน ลงรถไฟที่สถานีรถไฟมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ข้ามเรือจากท่ามหาชัยไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อต่อรถไฟที่สถานีรถไฟบ้านแหลมไปยังจังหวัดสมุทรสงคราม หรือจะลงรถไฟที่สถานีรถไฟมหาชัย แล้วต่อรถโดยสารประจำทางไปจังหวัดสมุทรสงคราม www.railway.co.th

ชุมชนคนอาร์ต.ราชบุรี

ความเป็นเมืองศิลปะของราชบุรีมีให้เห็นทุกตารางนิ้ว ศิลปะจากอุโบสถ ศิลปะจากหนังใหญ่ ศิลปะร่วมสมัย ศิลปะเพื่อหัวใจเด็ก สมแล้วที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้จะกลายเป็นจุดนัดพบคนรักศิลปะไปโดยปริยาย

ต้องห้ามพลาด

หอศิลป์ดีคุ้น หอศิลป์ร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัดราชบุรี มาที่นี่แล้วจะได้แรงบันดาลใจกลับไปเพียบ (323 ถ.วรเดช ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ราชบุรี www.facebook.com/THT.dKunst ) 

เซรามิกเถ้าฮงไถ่ เพราะใส่หัวใจงานศิลป์ลงไปอย่างเต็มเปี่ยม ชิ้นงานเซรามิกที่นี่จึงเป็นมากกว่าข้าวของเครื่องใช้  (234/1 หมู่ที่ 2 ถนนเจดีย์หัก ต.เจดีย์หัก อ.เมือง จ.ราชบุรี โทร.0 3233 7574, 0 3232 3630 www.thtceramic.com)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี  จากวันวานถึงวันนี้ ในตึกเก่าสีหวาน “พิพิธภัณฑ์สีชมพู” ที่เคียงข้างสุนัขลายจุด  (ตั้งอยู่ริมถนนวรเดช ตำบลหน้าเมือง ใกล้กับหอนาฬิการิมแม่น้ำแม่กลอง โทร.0 3232 1513)

ตลาดเก่า 119 ปีเจ็ดเสมียน ตลาดโบราณที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาจากงานศิลป์ริมน้ำแม่กลอง (มีทุกเสาร์และอาทิตย์สุดท้ายของเดือน อยู่ที่ ต.เจ็ดเสมียน อ.โพธาราม จ.ราชบุรี)

หนังใหญ่ วัดขนอน ตัวหนังอันวิจิตรสะท้อนถึงศิลปะที่ยิ่งใหญ่ก็จริง หัวใจของคนอนุรักษ์งานศิลป์เช่นนี้ กลับยิ่งใหญ่กว่า (บ้านสร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี หนังใหญ่แสดงทุกวันเสาร์ เวลา 10.00 น. โทร.0 3223 3386, 0 3235 4272)

สุนทรีแลนด์ แดนตุ๊กตา ความสุขของเจ้าตัวเล็กกับโลกแห่งจินตนาการ สร้างสรรค์จากความครีเอทีฟที่น่ารัก (เลขที่ 1/2 ม.1 ต.บ้านสิงห์ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โทร.08 2024 2888, 08 2021 7888 www.suntreelandofdolls.com)

จิตรกรรมฝาผนัง วัดคงคาราม ภาพเขียนบนผืนผนัง อลังการจิตรกรรมแห่งยุคสมัย (ต.คลองตาคต อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โทร.0 3223 1770, 0 3223 1933)

อุทยานหุ่นขี้ผึ้งสยาม ศิลปะแห่งเสกสรรปั้นแต่งที่ดูราวกับมีชีวิตจริง (41/1 ม.3 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี โทร.0 3238 1401, 0 3223 81404, 08 1526 5930)

จิปาถะภัณฑ์สถานบ้านคูบัว ชมตีนจกคูบัวอันเลื่องลือ งานศิลป์บนผืนผ้าอันเป็นมรดกตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น (101 หมู่ 6 ต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี โทร.0 3271 1765)

The Bloom Orchid Park เบิกบานกลางสีสันของดอกกล้วยไม้งามละลานตา (65 หมู่ 7 ตำบลวัดแก้ว อ.บางแพ จ.ราชบุรี โทร.08 6111 0084 , 08 7111 4436 http://www.thebloomsorchidpark.com)

อำเภอสวนผึ้ง ดินแดนเล็กๆ กลางขุนเขาและไอหนาวเย็นที่เต็มไปด้วยความน่ารักน่ากอด

บ้านหอมเทียน บ้านหอมเทียน บ้านหลังน้อยที่เปิดต้อนรับทุกคนด้วยความหอมกรุ่น (ตั้งอยู่หลักกิโลเมตรที่ 33 อ.สวนผึ้ง โทร08 1841 1895, 08 5845 7379 http://www.บ้านหอมเทียน.com)

ตลาดน้ำเวเนโต้ ช็อปปิ้งกลางบรรยากาศเวนิซจำลองในสวนผึ้ง (อ.สวนผึ้ง โทร.032-206266 , 091-5618848 http://www.venetosuanphueng.com)

น่ารู้

          เติมอารมณ์คนรักงานศิลป์ให้เต็มอิ่มด้วยการเดินเล่นชมตึกเก่าในราชบุรี ไม่ว่าจะเป็นตึกแถวโบราณของย่านเก่าโพธาราม ตึกเก่าใจกลางอำเภอเมืองที่ยังคงสถาปัตยกรรมคลาสสิก

การเดินทาง

          รถยนต์ เส้นทางสายเก่า สายเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านบางแค-อ้อมน้อย-อ้อมใหญ่-นครชัยศรี-นครปฐม-ราชบุรี

                         เส้นทางสายใหม่ เส้นทางหลวงหมายเลข 338 จากกรุงเทพฯ-พุทธมณฑล-นครชัยศรี เข้าถนนเพชรเกษมตรงนครชัยศรีก่อนถึงตัวเมืองนครปฐมประมาณ 16 กิโลเมตร จากนั้นตรงเข้าสู่ตัวเมืองราชบุรี

         รถไฟ มีบริการรถไฟออกจากสถานีรถไฟหัวลำโพง และสถานีรถไฟธนบุรี (บางกอกน้อย) ทุกวันใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง ลงที่สถานีราชบุรี สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1690

 

ภาคตะวันออก  2 จังหวัด ได้แก่ ตราด (เมืองเกาะในฝัน) และ จันทบุรี (สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้) 

เมืองเกาะในฝัน.ตราด

เมื่อทะเลใส หาดทรายสงบงาม รีสอร์ตสวยหรู และบริการสุดเอ็กซคลูซีฟ คือความสุขของตราดที่มาเติมฝันของคนรักทะเลได้อย่างเพอร์เฟ็กต์

ต้องห้ามพลาด

อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง เกาะที่มีเรื่องราวความยิ่งใหญ่ในตัวเอง และเป็นสวรรค์ของคนรักท้องทะเลอย่างแท้จริง (ต.เกาะช้าง  อ.เกาะช้าง  จ.ตราด โทร.0 3951 0927, 0 3951 0928)

ชุมชนสลักคอก สัมผัสวิถีประมงอันเงียบสงบ ล่องเรือมาดชมป่าโกงกางในแบบฉบับที่คุณคาดไม่ถึง (อยู่ที่เกาะช้างใต้ สอบถามที่ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก โทร.08 4362 5091, 08 7748 9497)

ชายหาดเมืองตราด จากหาดบานชื่น หาดราชการุณย์ และอีกหลากหลายผืนทรายที่ทำให้รู้ว่าทะเลตราดไม่ธรรมดาเลยจริงๆ

ส่วนแคบสุดของเมืองไทย อันซีนของตราดที่สามารถน็อกเอาท์คอคอดกระระนองไปโดยปริยาย  (บ้านโขดทราย ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด)

เกาะหมาก เกาะที่เต็มไปด้วยทิวมะพร้าว ทรายขาว และสารพันกิจกรรมความสุขจากท้องทะเล  (ต.เกาะหมาก กิ่งอำเภอเกาะกูด จ.ตราด)

เกาะกูด เกาะสุดท้ายปลายแดนไทย ที่มีความบริสุทธิ์ของวิถีชีวิตและท้องทะเลโปรยเสน่ห์ใส่นักเดินทาง (อ.เกาะกูด จ.ตราด)

เกาะขาม มหัศจรรย์แห่งหินภูเขาไฟสีดำและริ้วทรายแสนสวย (ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเกาะหมาก)

เกาะกระดาด เกาะนี้ไม่มีอะไรนอกจากกวาง แต่เพราะฝูงกวางนี่แหละที่ทำให้ที่นี่ไม่มีที่ใดเหมือน (ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก)

พุทธมณฑลตราด ศูนย์รวมกิจกรรมเพื่อพุทธศาสนิกชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเมืองตราด (ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะ 200ปี ข้างองค์การบริหารส่วนจังหวัดตราด)

วัดบุปผาราม ที่สุดของอารามเก่าแก่คู่เมืองตราดที่สุดแห่งประวัติศาสตร์อัดแน่นในพิพิธภัณฑ์น่าศึกษา (อ.เมือง จ.ตราด)

น่ารู้

           ตราดเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ตั้งแต่งานหัตถกรรมงอบเมืองตราดจนถึงผลไม้อย่างสับปะรดตราดสีทอง ซึ่งล้วนกลายเป็นของฝากที่น่าซื้อหา

การเดินทาง

          รถยนต์ เส้นทางที่ 1 สายบางนา-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 3) ผ่านชลบุรี-ระยอง-จันทบุรี- ตราด

                         เส้นทางที่ 2 สายบางนา-ชลบุรี-แกลง-จันทบุรี-ตราด (เส้นทางหลวงหมายเลข 344)

          เครื่องบิน มีเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่จังหวัดตราด 

สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้จ.จันทบุรี

ไม่เพียงเป็นดินแดนที่ต้อนรับทุกคนด้วยท้องทะเลสงบงามวิถีประมงอบอุ่นเท่านั้น หากจันทบุรียังโอบรับทุกคนไว้ด้วยอ้อมกอดของสวนแห่งความสุขหวานฉ่ำล้ำรสผลไม้อร่อย

ต้องห้ามพลาด

สวนผลไม้ อิ่มอร่อยกันไม่อั้นกับบุฟเฟ่ต์ผลไม้สดๆ จากสวน โดยเฉพาะฤดูผลไม้ระหว่างเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน (สวนผลไม้กระจายทั่วจันทบุรี) 

ตลาดผลไม้เนินสูง ช็อป ชม  ชิม อิ่มอร่อยกับผลไม้หวานฉ่ำของจันทบุรี (หมู่ ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ ริมถนนสุขุมวิท)

หาดคุ้งวิมาน วิวทะเลสวยของเมืองจันท์เต็มเติมฝันของคนรักทะเล (อ.นายายอาม ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 50 กิโลเมตร)

ถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ โลดแล่นไปบนถนนเลียบทะเลที่สวยที่สุดในเมืองไทย

หาดเจ้าหลาว โมงยามอันผ่อนคลายริมชายทะเลเงียบสงบ (ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ อยู่ทางทางด้านตะวันออกของ อ่าวคุ้งกระเบน)

จุดชมวิวเนินนางพญา มุมมองจากเส้นโค้งของถนนขนานไปกับผืนทะเลงาม ที่ทำให้คนรักการถ่ายภาพรัวชัตเตอร์ไม่หยุด

จุดชมวิวหลวงพ่อพระยืน ภาพของยามเย็น เส้นขอบฟ้า และอาทิตย์ตกดินที่ยากจะลืมเลือน

ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับ ใหญ่ที่สุดในเมืองไทยกับศูนย์การเรียนรู้ทุกเรื่องราวอันทรงคุณค่าของอัญมณี  (1/29 ถ.มหาราช ต.ตลาด อ.เมือง จ.จันทบุรี โทร.0 3930 3118)

ตลาดพลอย ตำนานแห่งย่านการค้าพลอยเจียระไนใหญ่ที่สุดของประเทศ (ภายในบริเวณถนนศรีจันท์และซอยกระจ่าง)

อาสนาวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล นิยามแห่งความงามสง่าที่หาใดเปรียบปาน อลังการโบสถ์คริสต์ในเมืองจันท์ (ตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนสตรีพิทักษ์ ต.จันทนิมิตร อ.เมือง โทร.0 3931 1578 www.cathedralchan.or.th)

ย่านเก่าริมน้ำจันทบูร ถนนท่าหลวง เดินเล่นชมตึกเก่าคลาสสิก นั่งไทม์แมชชีนย้อนสู่วิถีสงบงามริมน้ำจันทบุรี (ตั้งอยู่ที่ถนนท่าหลวง ต.ท่าช้าง อ.เมือง)

อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ความสดชื่นจากสายน้ำตก ที่มาพร้อมฝูงปลาพลวงละลานตา เริงร่ากลางสายน้ำ (ตั้งอยู่ใน อ.แหลมสิงห์)

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน หัวใจของชาวเมืองจันท์ที่ผูกพันกับมหาราชพระองค์นี้ไม่เสื่อมคลาย (ทุ่งนาเชย อ.เมือง)

ตึกแดง ตึกสีแดงกับเสี้ยวหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ที่ยังคงเล่าขานไม่รู้จบ (ตั้งอยู่ที่ ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ อ.แหลมสิงห์)

หาดแหลมสิงห์ หมู่บ้านประมงเรียบง่าย ความสุขใต้ทิวสน และปากแม่น้ำจันทบุรีอันยิ่งใหญ่ (ต.ปากน้ำแหลมสิงห์ ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 30 กิโลเมตร)

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ รื่นรมย์บนสะพานไม้ เพลินใจไปกับนิเวศป่าชายเลนสมบูรณ์ที่สุดของจันทบุรี (ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี โทร.0 3936 9216-8 http://www.fisheries.go.th/cf-kung_krabaen)

น่ารู้

          ราวๆ เดือนมิถุนายนของทุกปี จันทบุรีจะมีการจัดงานเทศกาลของดีเมืองจันท์ มหัศจรรย์ทุเรียนโลก สะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของผลไม้ของจันทบุรี อย่างเช่น สละ เงาะ ทุเรียน ฯลฯ ซึ่งล้วนมีคุณภาพคับแก้ว

การเดินทาง

          รถยนต์ ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี หรือมอเตอร์เวย์) ไปจนถึงเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ระยะทาง 90 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 36 อีกประมาณ 50 กิโลเมตร จนถึง อ.เมือง จ.ระยอง แล้วแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 (สุขุมวิท) ต่อไปอีกประมาณ 108 กิโลเมตร จนถึง จ.จันทบุรี

                        ใช้ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี หรือมอเตอร์เวย์) ไปจนถึง อ.เมือง จ.ชลบุรี จากนั้นแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 344 (ชลบุรี-แกลง) ผ่าน อ.บ้านบึง อ.วังจันทร์ และ อ.แกลง ระยะทางประมาณ 110 กิโลเมตร จากนั้นแยกซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 3 ต่อไปอีกประมาณ 58 กิโลเมตร จนถึง จ.จันทบุรี

 

ภาคใต้  3 จังหวัด  ได้แก่  ตรัง (ยุทธจักรความอร่อย)  ชุมพร (หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ ) และนครศรีธรรมราช (นครสองธรรม ) 

ยุทธจักรความอร่อยจ.ตรัง

ความอร่อย 24 ชั่วโมงเป็นสิ่งที่อยู่คู่ตรังมายาวนาน ตำนาน “เมืองแห่งคนช่างกิน” จากเสน่ห์ของเมืองที่มีความสงบ เงียบและเรียบง่ายบวกกับวิถีวัฒนธรรมการกินที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็น หมูย่างหนังกรอบ ติ่มซำคำโต ขนมเค้กมีรูเนื้อนุ่มลิ้น และเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองจานเด็ด ที่คุณไม่ควรพลาดลิ้มลองอีกมากมาย

ต้องห้ามพลาด

Chill Chill ใจกลางเมืองตรัง ชมย่านการค้า ตึกชิโนโปรตุกีส แวะถ่ายรูปหอนาฬิกา ชิมของอร่อยหลากหลาย...

           อิ่มอร่อยยามเช้า เริ่มต้นเรียนรู้วิถีคนช่างกินทุกตรอกซอกซอยกว่า 100 ร้าน กับเมนูอาหารเช้าชาวตรัง ด้วย โกปี๊ แซล้อง จาโก้ย ติ่มซำ ซาลาเปา และหมูย่างเมืองตรัง

           อิ่มอร่อยอาหารหลักมื้อกลางวันและเย็น ด้วยเมนูอร่อยเหาะ กับแกงไตปลา (ปลาทู) ร้านโกยาว หมูเกาหยุกร้านสีฟ้าไลฟ์สไตล์ฟู้ด  แกงคั่วพริกกระดูกอ่อน แกงส้ม ราดหน้าซุปเปอร์ ข้าวยำ ขนมจีน เมนูเส้นหลากหลาย

อิ่มอร่อยยามว่างกับร้านกาแฟร่วมสมัย

อิ่มอร่อยรอบค่ำ จิบน้ำชายามค่ำคืนกับเมนูติ่มซำ และสารพัดโรตี

ลัดเลาะรอบรั้วเมืองตรัง

            อร่อยที่อำเภอห้วยยอด ชมต้นตำรับเค้กเมืองตรัง ขนมจีบไส้สังขยา ณ บ้านลำภูรา  หลบร้อนถ้ำเลเขากอบ ลอดท้องมังกรเสริมสิริมงคล แวะเยี่ยมอุทยานมังกร วังเทพทาโร ชิมอาหารพื้นบ้านเมนูเด็ดร้านอาหารเรือนผู้การ / ร้านอาหารจีนดำ สักการะพระนอนทรงเทริดโนห์รา วัดภูเขาทอง

            เที่ยวนาโยง ชมผ้าทอ แลถ้ำเขาช้างหาย ย้อนรอยเส้นทางเขาพับผ้า สักการะอนุสาวรีย์พระยารัษฎาขนาดจิ๋ ระหว่างแวะชิมริมทางร้านอาหารเรือนสุมาลี ร้านอาหารเขาพับผ้า ลิ้มลองเค้กกนิษฐา เค้กสายใจและเค้กท่าปาบ

            ผ่าน อ.ย่านตาขาว ต้องห้ามพลาดบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงร้านดั้งเดิม 4 รุ่น “ร้านเย็นฤดี” สัมผัสป่าใหญ่ใกล้เมือง สูดโอโซนจากปอดธรรมชาติ ณ สวนพฤกษศาสตร์สากลภาคใต้ (ทุ่งค่าย) แวะ Plan Toy พิพิธภัณฑ์ของเล่นเด็กจากผลิตภัณฑ์ไม้ยางพารา

             แวะเมืองเก่ากันตัง สุดทางรถไฟฝั่งอันดามัน  ลิ้มลองราดหน้าซุปเปอร์ต้นตำรับร้านโกเกี๊ย อาหารทะเลสดๆร้านริมน้ำ ร้านล่อคุ้ง และร้านครัวลำพู  ชิมกาแฟริมรางรถไฟ “สถานีรัก”

             กินลม ชมวิวชายหาดปากเมง  ลิ้มลองอาหารทะเลสดๆ ที่ ร้านอาหารเลตรัง ร้านอาหารครูคิด  ร้านอาหารยกยอ ร้านเกาะปูเกาะปลา

น่ารู้

            เค้กเมืองตรัง ของแท้ต้องมีรู มีประวัติความเป็นมาและสูตรการผลิตที่ตกทอดมากว่า 100 ปี มีรูตรงกลาง การผลิต   แต่เดิมนั้นมีผู้ประกอบการเพียง 5 ราย และเป็นการผลิตในครัวเรือน แต่นับจากปี พ.ศ.2534 ซึ่งได้มีการจัดงานเทศกาลขนมเค้กเป็นปีแรก จนมาถึงปัจจุบัน ขนมเค้กจังหวัดตรังเป็นที่รู้จักแพร่หลายกันทั่วประเทศ และกลายมาเป็นของที่ระลึกที่ผู้มาเยือนจังหวัดตรังได้ซื้อหากลับไปเป็นของฝาก ขนมเค้กในปัจจุบันมีมากมายกว่า 20 รสชาติ มีผู้ประกอบการมากถึง 83 ราย ทุกปีมีการจัดเทศกาลขนมเค้กในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม

           ขนมเปี๊ยะ เป็นขนมที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักมานานกว่า 20 ปี เป็นสูตรดั้งเดิมที่มาจากฮ่องกง และตกทอดมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน มีมากมายหลายไส้ แต่ที่นิยมมากคือไส้เผือกหอมไข่เค็ม

           ขนมจีบสังขยา อีกขนมพื้นบ้านของจังหวัดตรัง ใช้สูตรดั้งเดิมในการผลิต กรอบนอกด้วยแป้งบาง 2 ชั้น นุ่มในกับสังขยาโบราณแท้ๆ ไม่ใส่แป้ง ใช้เวลากวนกว่า 6 ชั่วโมง อบขนมด้วยความร้อนที่ 400 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 30 นาที หอมกรุ่นอร่อยได้ทุกวัน... นอกจากนี้เมืองตรังยังมีการผลิตขนมพื้นเมืองโบราณ นานาชนิด อาทิ ขนมหวี หรือขนมพริกไทย ขนมไหว้พระจันทร์สูตรดั้งเดิม ขนมเกรียว กรอบเค็ม ดอกบัว ฯลฯ อร่อยไม่ซ้ำเมนู ได้ทุกวัน

การเดินทาง

           รถยนต์ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) ผ่าน จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 41 ผ่าน จ.สุราษฎร์ธานี ทุ่งสง แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 403 สู่ อ.ห้วยยอด จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 ไปจนถึง จ.ตรัง

                          ใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถ.เพชรเกษม) จนถึง จ.ชุมพร แล้วแยกเข้า จ.ระนอง จ.พังงา จ.กระบี่ จ.ตรัง

           รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงไปถึงสถานีตรังทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690

            เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานตรังทุกวัน

หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้ จังหวัดชุมพร

เมื่อเสน่ห์ของผืนทรายยาวไกลสุดสายตา พร้อมด้วยความละเอียดและเนียนนุ่มของเม็ดทราย จึงเป็นดั่งเรื่องราวแสนหวานของชุมพรที่เล่าขานสู่กันฟังได้ทุกเมื่อเชื่อวัน คุณจะเป็นคนแรกที่ได้ประทับรอยเท้าลงบนผืนทรายสวยของชุมพร  แห่งนี้

ต้องห้ามพลาด

หาดถ้ำธง – บางเบิด : พบกับ “หนึ่งในสยาม ทรายงามที่ชุมพร”  (อ.ปะทิว)

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติเขาดินสอ : ในเดือนตุลาคมของทุกปี จะก่อเกิดปรากฏการณ์แห่งสายธารเหยี่ยวจำนวนมากกว่า 2 แสนตัว บินมารวมตัวกันร่อน เล่น ลมร้อน อวดสายตานักท่องเที่ยว จึงเป็นจุดดูเหยี่ยวอพยพที่ดีติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก แน่นอนว่าคุณต้องห้าม...พลาด (อ.ปะทิว)

จุดชมวิวเขาดินสอ จุดชมวิวที่ต้องห้าม...พลาด สามารถมองเห็นทิวทัศน์ท้องทะเลที่สวยสดและงดงาม (อ.ปะทิว)

หาดทุ่งวัวแล่น ชายหาดที่มีความโค้งเว้าเป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เม็ดทรายสีขาวนวลละเอียดทอดตัวยาวสุดสายตา (อ.ปะทิว)

จุดชมวิวเขามัทรี แลนมาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดชุมพรที่สามารถเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของท้องทะเลและชุมชนปากน้ำชุมพรได้เกือบ 360 องศา 

ศาลกรมหลวงชุมพร  แวะสักการะอนุสรณ์สถานของพลเรือเอกพระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ตัวศาลอยู่บนเรือรบหลวงพระร่วงจำลองที่หันหน้าออกสู่ทะเล ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของหาดทรายรีได้ชัดเจนตลอดเวิ้งอ่าว (อ.เมือง)

หาดทรายรี ชายหาดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดชุมพร หาดทรายทอดตัวยาวไปตามโค้งอ่าวอย่างสวยงาม (อ.เมือง)

หาดทรายรีสวี ชายหาดที่สวยที่สุดในอำเภอสวี บรรยากาศเงียบสงบ แนวชายหาดทอดตัวยาว ขนานกับทิวมะพร้าว เหมาะแก่การพักผ่อนและขับรถชมวิวทิวทัศน์ (อ.สวี)

จุดชมวิวเขาหัวถ่าน อีกหนึ่งจุดชมวิวที่เห็นวิวท้องทะเลหมู่เกาะชุมพรได้อย่างสวยงาม (อ.สวี)

หาดอรุโณทัย เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเลที่สวยงาม  ในยามเช้าจะเห็นตะวันขึ้นพ้นขอบฟ้าที่มีสีสันสวยงาม จึงเป็นที่มาของชื่อหาดอรุโณทัย และที่นี่ยังสามารถพบเห็นวิถีชีวิตชาวประมงพื้นบ้านได้อีกด้วย

เกาะพิทักษ์ เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างมาก ชายหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน ด้านหลังเกาะมีจุดชมวิวบริเวณโดยรอบ หากวันที่น้ำทะเลลดระดับสามารถเดินเท้าจากท่าเรือข้ามมายังเกาะได้

สวนกาแฟโรบัสต้า เดือนธันวาคมเป็นต้นไป จังหวัดชุมพรจะหอมกรุ่นกลิ่นดอกโรบัสต้าแท้กาแฟชุมพร ที่ผลิดอกชูช่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างสวยงาม

น่ารู้

          ทะเลชุมพรนั้นสวยงามและเหมาะสำหรับการดำน้ำ ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก เป็นจุดดำน้ำอีกจุดหนึ่งที่นักดำน้ำไม่ควรพลาด ท้องทะเลยังคงความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางธรรมชาติ ทั้งปะการังหลากหลายสายพันธุ์ ดงดอกไม้ทะเลมากมาย ฝูงปลานานาชนิด นอกจากนี้ผู้โชคดีจะมีโอกาสได้พบกับฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งท้องทะเลที่แวะเวียนมาในหน้าร้อน

การเดินทาง

         รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ไปตามทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่าน จ.เพชรบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงสี่แยกปฐมพร จากนั้นแยกซ้ายเข้าตัวเมือง จ.ชุมพร ตามทางหลวงหมายเลข 4001 อีกประมาณ 8 กิโลเมตร

         รถไฟ มีรถไฟออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) มีทั้งรถเร็ว และรถด่วนไป จ.ชุมพรทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690

         เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยาน จ.ชุมพร

นครสองธรรม จ.นครศรีธรรมราช

ชวนท่องนครสองธรรม พบกับสองมุมต่างที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในครศรีธรรมราช เมื่อ “ธรรมะ” กับ “ธรรมชาติ” คือเอกภาพที่ไม่สามารถแยกจากกัน

ภาพคีรีวง

ภาพพระธาตุ

ต้องห้ามพลาด

วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร พระบรมธาตุยอดทองคำ อัศจรรย์ไร้เงา พลังศรัทธาที่หยั่งลึกลงบนผืนแผ่นดินนครศรีฯ  (.ราชดำเนิน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช)

วัดธาตุน้อย พ่อท่านคล้ายวาจาสิทธิ์ วาจาศักดิ์สิทธิ์ไม่เคยสูญสิ้นศรัทธา (.หลักช้าง กิ่งอ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช)

บ้านหนังตะลุง สุชาติ ทรัพย์สิน ธรรมปรัชญาบนผืนหนังที่เป็นมากกว่าตัวละคร (10/18 ถ.ศรีธรรมโศก ซอย .เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทร.7534 6394)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ นครศรีธรรมราช ย้อนเวลากลับไปหาอาณาจักรตามพรลิงค์อันเกรียงไกร (.เมือง จ.นครศรีธรรมราช โทร.0 7534 1075, 0 7534 0419)

น้ำตกกรุงชิง นอกจากความงามของที่นี่ สายน้ำแห่งนี้ยังมีอดีตที่ชวนให้ค้นหา (ที่ทำการหน่วยอุทยานแห่งชาติเขาหลวง หน่วยพิทักษ์ป่ากรุงชิง โทร.0 7530 0494,0 7546 0463)

โลมาหาดขนอม ตื่นเต้นไปกับความน่ารักของเจ้าโลมาสีชมพู (อุทยานแห่งชาติขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้หมู่ที่ 1 ต.ขนอม อ. ขนอม จ.นครศรีธรรมราช )

น้ำตกกะโรม สีสันของสายน้ำที่ดิ่งลงจากผาสูง (อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โทร.0 7530 0494)

หาดหินงาม ก้อนหินน้อยใหญ่ที่ก่อตัวกันกลายเป็นความงาม (.สิชล จ.นครศรีธรรมราช)

หาดทรายแก้ว  ต้นมะพร้าว หาดทรายขาว และบรรยากาศสดชื่น (.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช)

หาดในเพลา หาดทรายที่ความวุ่นวายเข้าไปไม่ถึง (.ขนอม จ.นครศรีธรรมราช)

หาดสิชล ใจกลางของความสงบงาม (.สิชล จ.นครศรีธรรมราช)

แหลมตะลุมพุก แม้วันวานเคยผ่านเรื่องร้ายๆ แต่วันนี้กลับกลายเป็นวิถีประมงอบอุ่น (.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช )

หมู่บ้านคีรีวง หัวใจแห่งการอนุรักษ์ที่น่ายกย่อง (.กำโลน อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โทร.0 7553 3113)

เขาหลวง ภูสูงเทียมฟ้า วิวพานอรามาแห่งนครศรีธรรมราช (อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช โทร.0 7530 0494)

น่ารู้

         นครศรีธรรมราชคือดินแดนต้นตำรับของความเป็นปักษ์ใต้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอาหารการกิน ขนมจีน วัฒนธรรมการเชิดหนังตะลุง การรำโนราห์ เครื่องถม ฯลฯ ถ้าเป็นของนครศรีฯ แล้ว ทุกคนยกนิ้วให้

การเดินทาง

         รถยนต์ โดยทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี-ปากท่อ) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์จนถึงชุมพร เปลี่ยนมาใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอทุ่งสง อำเภอร่อนพิบูลย์ จนถึงนครศรีธรรมราช

                        จากกรุงเทพฯใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (สายธนบุรี - ปากท่อ) เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อถึงชุมพรเดินทางต่อไปทางหลวงหมายเลข 41 มุ่งสู่สุราษฎร์ธานี จากสุราษฎร์ธานีเปลี่ยนใช้ทางหลวงหมายเลข 401 เลียบชายฝั่งทะเลไปจนถึงนครศรีธรรมราช

          รถไฟ จากสถานีรถไฟหัวลำโพง มีขบวนรถเร็ว และรถด่วน ไปนครศรีธรรมราช สอบถามเพิ่มเติมที่การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร.1690

          เครื่องบิน มีบริการเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพฯ สู่ท่าอากาศยานนครศรีธรรมราช

 

เมืองที่เหมือนไม่มีอะไร

ถูกลืม ถูกเพิกเฉย ถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเป็นเมืองที่ยังมีเรื่องราวที่น่าสนใจมากมายไม่แพ้จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ของดีๆ เหล่านี้ยังซ่อนตัวอยู่รอให้คุณๆ ออกไปค้นหา ค้นเจอ ออกไปสัมผัสบอกได้อย่างเต็มปากเลยว่าไม่ควรพลาดจริงๆ

 



 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close