bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปเที่ยวเวียดนามเหนือกับทัวร์ 4 วัน 3 คืน มกโจว ซาปา ฮานอย เริ่มต้น 18,990-

calendar_month 06 ก.ย. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 24,569 / เที่ยวต่างประเทศ

ซินจ่าวววว...ทักทายกันแบบนี้ก็คงดูออกกันเลยนะคะว่าวันนี้เราจะมาเล่าเรื่องของ การไปเที่ยวเวียดนาม 4 วัน 3 คืน โดยทริปที่เราจะไปกันจะเป็นทริปเวียดนามเหนือ ที่จะไปเยือน มกโจว ซาปา ฮานอยค่ะ บอกได้เลยว่าทริปนี้ทั้งวิว ทั้งอากาศ ธรรมชาติฟินมากกกกก

ไฮไลท์

  • เดินข้ามสะพานกระจกบาจลองที่มีพื้นกระจกให้ความสวยงามพร้อมกับความตื่นเต้น

  • ชมไร่ชามกโจว ไร่ชาที่มีรูปทรงแปลกตา

  • นั่งกระเช้าไฟฟ้าพิชิตยอดเขาฟานซิปัน

  • ถ่ายรูปแลนด์มาร์คแห่งใหม่อย่างโมอาน่า ซาปา คา เฟ่ 

  • ช้อปปิ้งสินค้าที่ ถนน 36 สาย, ตลาดเลิฟมาร์เก็ต

dc869c3192d057040fa313abd5a6ffcfe62232e5.jpg

1.jpg

Day 1

เริ่มต้นการเดินทางครั้งนี้ด้วยสายการบิน Thai Smileโดยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 07:45 น. และถึงสนามบินนอยไบ ประเทศเวียดนาม โดยสวัสดิภาพในเวลา 09:35 น.ค่ะ

2b218b43f09a00e5bd7cfed07cc47d1f61fa70b5.jpg

025e67e3277d81a1369bb839d2fe733f7891727e.jpg

เมื่อมาถึงแล้วเราก็เริ่มเคลื่อนขบวนออกเดินทางโดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไปที่เมืองฮหว่าบิ่ญ (Hoa Binh) เป็นจังหวัดที่เป็นภูเขาของประเทศเวียดนาม ตั้งอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ เพื่อแวะรับประทานอาหารค่ะ 

3f422861ef89d94e5ef5ed754f5ad9049a1cff2b.jpg

ff8de742e0870721a3291fb535639290eeded10d.jpg

หลังจากที่ทานกันจนอิ่มแล้ว เราก็จะไปต่อกันที่เมืองมกโจว(Moc Chau) ตั้งอยู่ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 220 กิโลเมตร ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ โดยเมืองนี้จะตั้งอยู่ท่ามลางหุบเขา เป็นเมืองที่มีอากาศดีและเย็นสบายตลอดปี แถมยังมีธรรมชาติที่งดงาม และได้รับฉายาว่าเมืองแห่งดอกไม้นานาพันธุ์ เพราะเป็นแหล่งเพาะปลูกดอกไม้นานาชนิดค่ะ

d7dc807abb7468b5cb85bc3220a2cbd7fb8f6920.jpg

d7047f37a1ca54c1f0ce0cff3b0f8ce7abfcba78.jpg

4c0698e954ae574228a1258c815bb9cd36c2d1e1.jpg

และสถานที่เเรกที่เรามาเช็คอินกันก็คือที่สะพานกระจกบาจลอง(Bach Long) เป็นสะพานกระจกที่มีความยาวมากที่สุดในโลก  มีความยาวถึง 632 เมตร ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเซินลา(Son La) 

880329bad6c78a89382631d99a553e951562d324.jpg

ชื่อของสะพานนี้หมายถึง "มังกรขาว" ที่เปรียบมาจากวัสดุของสะพานที่ใช้วัสดุโลหะสีขาวและปูพื้นทางเดินด้วยกระจกใสทำให้สามารถมองเห็นวิวด้านล่างที่มีความสูงจากพื้นดินประมาณ150 เมตร ดูหวาดเสียวแต่สวยงามมากๆค่ะ

5589a07ceba2ae554c489b1b558a01cc773661c2.jpg

1656e36f7c2072f6d6927e2363a42c337cbf0e3e.jpg

4a9e6b892d18c7e79997ef428b53216da4a908d8.jpg

เมื่อมองออกไปรอบๆเราจะมองเห็นวิวภูเขาสีเขียวที่โอบล้อมเราค่ะ ให้ความรู้สึกร่มรื่นและได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆเลย

637c2a5d45fa764c6b6fab1ef6fd8512e6a2b200.jpg

fa97a0860bc5f822d2c0f99eb1bd556a03a30a11.jpg

fc46e9dea860dc82f4974fd4c268ba590f40a508.jpg

f438031a999479e606a6a51a81c9c89d212e94f4.jpg

หลังจากได้ชมวิวสวยๆกันแล้ว เราก็เข้าที่พัก Muong Thanh Holiday เป็นโรงแรมระกัน 4 ดาว พร้อมกับทานอาหารค่ำที่แบบจัดเต็มห้องอาหารของโรงแรมค่ะ

a5c055862f205c9592b59b94d9d70d494c7be991.jpg0a11b9c618e0ad91685bcf3707bfc505a674519a.jpgc1c9bd42eb4c9233812acecb34d068a530ae4c4e.jpg

3-2.jpg

Day 2

ในช่วงเช้าของวันหลังจากที่ได้ออกจากโรงแรมแล้ว เราก็ได้เดินทางไปเยี่ยมชมไร่ชามกโจวค่ะ ไร่ชาที่นี่มีจะมีลักษณะไม่เหมือนที่อื่นด้วยความที่ไร่ชามีรูปทรงที่ไม่เหมือนใคร อย่างเช่นรูปทรงหัวใจ เลยทำให้ที่นี่มีความโดดเด่นกว่าที่อื่นมากค่ะ และนอกจากทุ่งไร่สีเขียวขจีสุดลูกหูลูกตาแล้ว ที่นี่ก็ยังมีผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้เราได้เลือกซื้อกันอีกด้วยค่ะ

c4a2e499ebfe49d2ef4330c2d84456ebf2065874.jpg

61f0a311fe849c40ba1e8a69c18351d5f6c237e9.jpg

415e00b73b253d68a17018367beee2cc9c2061eb.jpg

หลังจากที่ได้ชมธรรมชาติกันจนหนำใจแล้ว เราก็ออกเดินทางกันอีกครั้งเพื่อกลับเข้ามาที่เมืองฮานอย(Ha Noi) แวะทานอาหารกลางวัน แล้วไปเพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวอันต่อไปกับทะเลสาบคืนดาบ(Hoan Kiem Lake) และ สะพานแสงอาทิตย์ (Cau The Huc) 

fa097fabf6b643faf822be00c318d3cf065c5869.jpg

7fb361b0a65cc1063b5e2a9795ef5007767d9c28.jpg

เมื่อเดินข้ามสะพานแสงอาทิตย์เราก็จะมาถึงที่เกาะหยก เป็นที่ตั้งของวัดหงอกเซิน(Ngoc Son Temple) ที่นี่เป็นวัดโบราณที่มีทั้งศาลเจ้าโบราณ และทางด้านข้างของศาลจะมีอาคารเล็กที่ภายในมีเต่าที่สตาฟเอาไว้ในตู้กระจกขนาดใหญ่ 

ac92bc72f608a401dd1e10fc799f169ed8897469.jpg

0c1ae7a0018db22f9899ee7160cc62529e2eb4fa.jpg

จากนั้นเราไปกันต่อที่ ถนน 36 สาย (36 Old Street) ที่มีสินค้าหลากหลายให้เราได้เลือกซื้อไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก ของกิน ของใช้ อาทิ เครื่องเงิน หมวกงอบญวน เซรามิก ภาพเขียน กระเป๋าต่างๆ พอได้ช้อปกันจนสบายกระเป๋าแล้ว เราจะแวะทานอาหารค่ำก่อนเข้าที่พักที่ Moon View Hotel ค่ะ

c5ad370ffd0f12e5d2352eb33c27506b9320fd96.jpeg

302764d7db94bbc25237c8ecfe44c325fb072641.jpeg




3.jpg

Day 3

ในวันนี้เราได้ออกเดินทางกันไปที่เมืองซาปากันค่ะ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมงเมืองนี้เป็นเมืองเล็กๆ เป็นเมืองแห่งการพักผ่อนที่เริ่มมาจากตอนที่ฝรั่งเศสซึ่งปกครองเวียดนาม ได้มีการสร้างสถานีบนภูเขาขึ้น แล้วหลังจากนั้นก็เริ่มมีชาวต่างชาติมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดเป็นประจํา เพราะว่าเมืองนี้มีความเงียบสงบและอากาศดีจนเริ่มเป็นที่รู้จักมาเรื่อยๆ และชาวเขาของที่เมืองนี้ก็มีวิถีชีวิตที่น่าสนใจมากค่ะ อย่างการที่เมืองนี้เต็มไปด้วยนาขั้นบันไดท่ามกลางที่ลาดไหล่เขาที่ทอดตัวอย่างมีเสน่ห์ และยังมีเทือกเขาที่สุงที่สุดในอินโดจีนอย่างเทือกเขาฟานสีปันอีกด้วย เมืองนี้เป็นเมืองที่รถใหญ่ไม่สามารถวิ่งได้นะคะ เพราะฉะนั้นภายในเมืองนักท่องเที่ยวจะต้องเดินเที่ยวชมเองค่ะ

f710a88a1be02cc843d1660d9319c095a7c3b674.jpg

โดยการมาเมืองซาปาในครั้งนี้ เราได้นั่งรถราง (Moutain Train) เพื่อไปที่สถานีกระเช้าค่ะ เพราะว่าเรากำลังจะขึ้นไปที่ยอดเขาฟานซีปันค่ะ ในระหว่างทางเราจะมองเห็นทัศนียภาพของ 2 ข้างทางที่งดงามมากๆ

2f8b11d945594f73db2c39a0e63bdab05f59a7d2.jpg

หลังจากนั้นเราก็ย้ายมาขึ้นกระเช้าไฟฟ้า (Cable Car) เพื่อขึ้นสู่ฟานซิปัน ยอดเขาสูงสุดแห่ง เวียดนามและในภูมิภาคอินโด เป็นกระเช้าไฟฟ้า 3 สายแบบไม่หยุดพัก ขนาดใหญ่สามารถจุได้กว่า 30 คน มีความยามประมาณ 6,200 เมตร หรือ ราว 6 กิโลเมตรค่ะ

b58ab059f2bf0a265d0df88b3d4c6f324dfe03c3.jpg

เมื่อขึ้นมาถึงเราจะได้พบกับบรรยากาศที่หนาวเย็น และจะมีข้อความที่เขียนไว้ว่าFANSIPAN 3.143 M หมายถึง 'คุณคือผู้พิชิตยอดฟานซิปัน หลังคาแห่งอินโดจีน' เมื่อขึ้นมาบนนี้เราจะได้ชมวิวพาโนราม่า 360 องศาเลยค่ะ57e25b40c85381a0f23405e7e3c9528844533049.jpge33e748d4179bb5c31ae45f93f7b0b7064d08baa.jpg

หลังจากได้ชมวิวสวยๆกันไปแล้ว เราก็ลงมารับประทานอาหารกลางวัน และไปเช็คอินสถานที่เที่ยวแห่งใหม่อย่างโมอาน่า ซาปา คาเฟ่ (Moana Sapa Cafe) ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปใหม่แห่งของเมืองซาปาค่ะ โดยจะจำลองไฮไลท์ของที่เที่ยวแต่ละที่มารวมไว้ให้เราได้ถ่ายรูปท่ามกลางบรรยากาศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและยังทีเครื่องดื่มต่างๆให้เราได้ซื้อมานั่งดื่มนั่งพักพร้อมกับบรรกาศฟินๆค่ะ

หลังจากถ่ายรูปกันจนเสร็จแล้ว เราก็ไปชมทะเลสาปเมืองซาปากันต่อค่ะ ที่นี่เป็นทะเลสาปที่ตั้งอยู่กลางเมืองซาปาเราจะสามารถมองเห็นสายหมอกที่อยู่เหนือน้ำซึ่งมีเมืองล้อมรอบ คงเป็นภาพที่เราต้องถ่ายเก็บไว้จริงๆ

110d350c60f6e3df8dff76158e401f912108ba38.jpg

 ต่อจากนั้นเราจะไปที่โบสถ์หิน(The Stone Church) เป็นโบสถ์ฝรั่งเศสที่สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1895 มีความโดดเด่นสวยงาม ด้วยวัสดุอิฐสี น้ําตาลแดง 

bd48d92f37e8f4b80899946aa045625f84d1e796.jpg

พอได้ชมสถาปัตยกรรมสวยๆเสร็จแล้ว เราก็ไปเยือนตลาดเลิฟมาร์เก็ต (Love Market) ที่นี่มีของให้เราได้เลือกช้อปมากมายเลยค่ะไม่ว่าจะเป็นสินค้าพื้นเมือง ของฝาก ขนม กระเป๋า รองเท้า บอกได้เลยว่าที่นี่มีครบจบในที่เดียว

หลังจากเที่ยวมาทั้งวันก็ถึงเวลาที่จะรับประทานอาหารค่ำและเดินทางเข้าที่พักที่ SAPA CHARM HOTEL ระดับ 4 ดาวค่ะ

885a058d7f3f53218eb83de1892e02d4ae265469.jpeg7da723a768b28fc6c6b9a2078a056396d5f765c1.jpeg

4.jpg

Day 4

มาถึงวันสุดท้ายกันนะคะ เราได้ออกเดินทางจากเมืองซาปากลับมาที่เมืองฮานอยค่ะ ซึ่งใช้เวลาในการเดินทางถึง 5 ชั่วโมง เมื่อมาถึงเราก็ได้แวะรับปรทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารท้องถิ่น หลังจากนั้นเราก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมวัดเก่าแก่ นั่นก็คือ เจดีย์เฉินก๊วก(Tran Auoc Pagoda) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใจกลางเวียดนาม และมีความใกล้ชิดกับทะเลสาป ทำให้วัดนี้มีความร่มรื่น และ บรรยากาศดี และบวกกับสถาปัตยกรรมจีนโบราณของที่นี่ ทำให้ที่ที่น่าสนใจของเหล่านักท่องเที่ยวค่ะ และที่นี่ยังมีต้นมหาโพธิ์ใหญ่ที่ได้รับมอบจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย และมีความเชื่อกันว่า ต้นมหาโพธิ์ต้นนี้เป็นต้นที่มีจุดกําเนิดสืบต่อจากต้นโพธิ์ที่เจ้าชายสิทธัตถะประทับนั่งตรัสรู้ มีการ สร้างฐานล้อมต้นโพธิ์ไว้ และประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่

c31b9f6bd3d0eb6f725b864599bc7a078be4e62b.jpg

3f423fb2f122535d44c95ad945339bd1e6a7971c.jpg

หลังจากนั้นเราก็ไปสถานที่สุดท้ายกันค่ะ นั่นก็คือโบสถ์ใหญ่ฮานอย (Ha Noi Catherdral)หรือโบสถ์เซนต์โจเซฟ โบสถ์แห่งนี้ถูสร้างขึ้นมาในช่วงศตวรรษที่ 19 ป็นหนึ่งใน สถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของคริสต์ศาสนาและเป็นการผสมผสานอย่าง ลงตัวระหว่างตะวันออกกับตะวันตก มีลวดลายแกะสลักอย่างสวยสดงดงามและมีการผสมผสานเอกลักษณ์วัฒนธรรม พื้นบ้านของเวียดนามเข้าไว้ด้วยกันค่ะ

f878fb62b0db96ec03302f5d20b1120eed6fc3ff.jpg

และแล้วก็ถึงเวลาอันสมควรที่เราจะต้องเดินทางกลับกันแล้วนะคะ โดยก่อนที่เราจะกลับเราจะได้รับประทานอาหารว่างอย่างขนมปังฝรั่งเศสเวียดนามก่อนเดินทางไปที่สนามบินค่ะ ซึ่งเราจะออกเดินทางจากสนามบินนอยไบในเวลา 20:45 และมาถึงที่สนามบินสุวรรณภูมิในเวลา 22:35 ค่ะ


หากใครที่สนใจอยากจะไปทัวร์สุดพิเศษแบบนี้  คลิกที่รูปเพื่อดูรายละเอียดทัวร์ได้เลย 

หรือสอบถามข้อมูลทัวร์เพิ่มเติมได้ที่ LINE : @Chillpainai

https://chill.travel/LineChillpainai

2d1144606131323692847d4decef4def191c857b.jpg

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai