bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

10 อันดับประเทศน่าอยู่ มีความสุขที่สุดในโลก 2021

calendar_month 17 พ.ค. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 122,974 / สถานที่ยอดนิยม

รวม Top10 ประเทศที่น่าอยู่และมีความสุขที่สุดในโลก จากรายงาน World Happiness Report 2021 จะมีประเทศไหนบ้าง...ตามไปดูกันเลย!

16207798a28199a8e7e9911ffef26c531e9ed519.jpg


01.jpg

ฟินแลนด์
(Finland)

เริ่มต้นกันที่ฟินแลนด์ ที่ครองแชมป์อันดับ 1 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกต่อเนื่องถึง 4 สมัยซ้อน ถึงแม้ฟินแลนด์นั้นเป็นประเทศเล็กๆ โดยประชากรของฟินแลนด์คิดเป็นร้อยละ 0.07 ของประชากรโลก แต่ฟินแลนด์กลับก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอันดับท็อปๆ ของโลกได้ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม โดยฟินแลนด์นั้นเคยครองแชมป์อันดับ 1 เป็นประเทศที่มีเสถียรภาพมากที่สุดในโลก จากการสำรวจของกองทุนเพื่อสันติภาพ (The Fund for Peace) และยังเคยได้รับการโหวตให้เป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงที่สุดในโลกจาก World Economic Forum รายงานความสามารถในการแข่งขันด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวประจำปี 2018 ที่สำคัญ ชาวฟินน์รู้สึกไม่ปลอดภัยน้อยที่สุดในโลก ถัดจากชาวนอร์เวย์และชาวไอซ์แลนด์ จากการสำรวจของ Gallup, Law and Order Index 2018 เหล่านี้ ล้วนเป็นสิ่งยืนยันว่าฟินแลนด์เป็นประเทศที่น่าอยู่และประชาชนชาวฟินแลนด์มีความสุขเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

43397f934150ee72f8d83ba108ed7fcaa63b8658.jpg

c6e8d3ce66d7bf218df57497832d3b90a85d8f99.jpg

95bb2fd9eaf36dd9ee60c9a06bb69fe977d49305.jpg

7b9b85f15be2c69d8d910ebb466316497bdeeb12.jpg





02.jpg

ไอซ์แลนด์
(Iceland)

แม้จะเป็นประเทศเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงแค่สามแสนกว่าคน แต่ไอซ์แลนด์นั้นถูกจัดให้เป็นประเทศที่มีการพัฒนาสูงที่สุดในโลก จากดัชนีการพัฒนามนุษย์ ปี 2006 ของสหประชาชาติ นอกจากนี้ ไอซ์แลนด์ยังจัดเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีอันดับต้นๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพยุโรปก็ตาม โดยไอซ์แลนด์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุโรปเหนือ โดยเป็นเกาะที่มีพื้นที่มากที่สุดเป็นอันดับสองของยุโรป ด้วยสภาพภูมิประเทศที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทั้งมหาสมุทร ภูเขา ทะเลสาบและน้ำตกที่สวยงาม ทำให้ไอซ์แลนด์เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ฝันอยากจะเดินทางมาเยือนที่นี่สักครั้งหนึ่งในชีวิต  นอกจากนี้ ไอซ์แลนด์ยังได้ถูกจัดให้เป็นประเทศที่สงบสุขที่สุดในโลก (Global Peace Index) โดยวัดจากระดับความรุนแรงและอาชญากรรมภายในประเทศที่ค่อนข้างต่ำ และปัจจัยด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่ดี โดยไอซ์แลนด์นั้นครองแชมป์ประเทศที่สงบที่สุดในโลกอันดับ 1 มาต่อเนื่องยาวนานนับกว่า 10 ปี ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงปัจจุบันนี้อีกด้วย

975ac31084fae7720827463ff1d9fed88d6680cd.jpg

85162605e7711f2233b88d0479e85f6c819f8da8.jpg

b6a77035636d4b016698d04578c906a9ebd065c8.jpg

73eeba59d4252c3d558f7ca345c4cd1adfe825bf.jpg


03.jpg

เดนมาร์ก
(Denmark)

จากการสำรวจประชาชนทั่วโลกว่าพวกเขามีความสุขแค่ไหนกับชีวิตประจำวันและสถานการณ์ส่วนตัว เดนมาร์กมักจะติดอันดับหนึ่งในสามประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก ด้วยปัจจัยในการดำเนินวิถีชีวิตของชาวเดนมาร์ก ทั้งการมีงานทำที่ดี และสมดุลชีวิตในการทำงานที่ดี และระบบประกันสังคมที่ยอดเยี่ยม การเข้าถึงการศึกษาคุณภาพสูงโดยไม่ต้องเสียค่าเล่าเรียน การดูแลสุขภาพของประชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รวมไปถึงอัตราอาชญากรรมและการคอร์รัปชั่นที่ค่อนข้างต่ำ ตามรายงานดัชนีความสุขของโลก ความสุขของชาวเดนมาร์กเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับความเท่าเทียมกันทางสังคมและจิตวิญญาณของชุมชน โดยเดนมาร์กมีความเท่าเทียมกันในระดับสูงและมีความรับผิดชอบร่วมกันในสวัสดิการสังคม แม้ว่าจะมีพรรคการเมืองใหญ่ 9 พรรคในเดนมาร์ก แต่ก็ไม่มีพรรคการเมืองใดสนับสนุนการรื้อรัฐสวัสดิการของเดนมาร์กอย่างจริงจังเลยแม้แต่พรรคเดียว เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้เดนมาร์กติดอันดับ Top 3 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก

c778d717f7ead3a88459f6f105fe82536dab09a3.jpg

6837461065c48a8fbf9889d010fdbeef19db9ff0.jpg

11c6ef740c405dd8d06e925b98065312f7dd4478.jpg

226cd2e92786c820bb7f2d5f89dda95b0bff04fc.jpg



04.jpg

สวิตเซอร์แลนด์
(Switzerland)

สวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพชีวิตที่ดีอันดับต้นๆ ของโลก ถึงแม้ว่าจะแลกมาด้วยค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงก็ตาม โดยชาวต่างชาติเกือบทั้งหมด 99% ที่อาศัยอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์รู้สึกมีความสุขกับสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่สวยงามราวกับดินแดนในเทพนิยาย ในขณะที่พลเมืองชาวสวิตเองนั้นก็รู้สึกพอใจกับการใช้ชีวิต ทั้งระบบการคมนาคมขนส่งที่ดีและมีประสิทธิภาพ โดยการขนส่งสาธารณะของสวิตเซอร์แลนด์ได้ชื่อว่าตรงเวลา เป็นระเบียบ และสะอาด ชาวสวิสจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทาง ส่วนทางด้านความปลอดภัยและความสงบสุขก็ยังติดอันดับต้นของโลก ทางนอกจากนี้ ชาวสวิสยังมีสมดุลในการใช้ชีวิตและการทำงาน โดยผู้ที่มีสัญญาจ้างงานชาวสวิสจะได้รับวันหยุดพักร้อน 4-5 สัปดาห์ต่อปี ส่วนผู้หญิงสามารถลาคลอดได้ถึง 14 สัปดาห์ตามกฎหมาย ทางด้านสาธารณสุขของสวิตเซอร์แลนด์มีระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่ดี และมีเวลารอการนัดหมายเพื่อพบแพทย์ต่ำที่สุดในโลก รวมทั้งการเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ก็ยังจัดว่ามีเสถียรภาพดี ชาวสวิสมีความกระตือรือล้นมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยอย่างมากและมักลงประชามติในประเด็นสำคัญเป็นประจำ

สวิตเซอร์แลนด์ Switzerland

สวิตเซอร์แลนด์ Switzerland

สวิตเซอร์แลนด์ Switzerland

สวิตเซอร์แลนด์ Switzerland




05.jpg

เนเธอร์แลนด์
(Netherlands)

ดินแดนแห่งกังหันลมและทุ่งทิวลิปที่ติดอันดับ Top 5 ประเทศที่มีความสุขที่สุดโนโลก ชาวเนเธอร์แลนด์หรือชาวดัตช์ได้ชื่อว่าเป็นประชากรที่มีความสุขตลอดระยะเวลาในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งจากรายงานของยูนิเซฟ สำนักงานสถิติแห่งเนเธอร์แลนด์ และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้แสดงให้เห็นถึงความพึงพอใจสูงสุดในชีวิตของวัยรุ่นชาวดัตช์ที่เริ่มตั้งแต่วัยเด็ก แม้ว่าการศึกษาภาคบังคับของเนเธอร์แลนด์จะเริ่มเมื่ออายุ 5 ขวบ แต่กว่า 95% ของชาวดัตช์เข้าเรียนการศึกษาปฐมวัยตั้งแต่ตอนอายุ 4 ขวบ เด็กชาวดัตช์ได้รับการสนับสนุนให้ใช้เวลาในการเล่นและเข้าสังคมอย่างมีความสุข ไปจนถึงการบ้านจำนวนน้อยๆ นอกจากนี้ จากรายงานการสำรวจดัชนีคุณภาพชีวิตจำแนกตามประเทศ (Quality of Life Index by Country) ปี 2021 เนเธอร์แลนด์ติดอันดับประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลกอันดับ 3 ด้วยปัจจัยทั้งทางด้านสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษต่ำ โดยได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เป็นมิตรกับจักรยาน เนเธอร์แลนด์ยังมีระบบการดูแลสุขภาพที่ดีและมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงระบบการมีรัฐสวัสดิการที่แท้จริงสำหรับเด็กและครอบครัวชาวดัตช์ นอกจากนี้ องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ OECD ยังได้เคยจัดอันดับให้เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่ดีที่สุดสำหรับความสมดุลในชีวิตและการทำงานอีกด้วย

เนเธอร์แลนด์ Netherlands

เนเธอร์แลนด์ Netherlands

เนเธอร์แลนด์ Netherlands

เนเธอร์แลนด์ Netherlands



06.jpg

สวีเดน
(Sweden)

หนึ่งในประเทศกลุ่มนอร์ดิกที่ติดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก สวีเดนตั้งอยู่บนคาบสมุทรสแกนดิเนเวียในยุโรปเหนือ ถึงแม้ว่าค่าครองชีพในสวีเดนจะค่อนข้างสูง โดยเฉพาะในเมืองหลวงอย่างกรุงสต็อกโฮล์ม แต่สวีเดนก็มี GDP ต่อหัวที่สูง โดยโครงสร้างทางสังคมของสวีเดนเน้นที่ความเท่าเทียมกันทางสังคมที่สร้างขึ้นในระบบการศึกษาโดยเริ่มตั้งแต่อนุบาล นอกจากนี้ กฎหมายสวีเดนยังสวีเดนให้สิทธิพ่อ-แม่ลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรถึง 480 วัน หรือ 16 เดือน โดยได้รับค่าจ้าง และยังมีสวัสดิการอย่าง Day Care ดูแลเด็กให้พ่อแม่ในช่วงทำงานตอนกลางวันฟรี ทำให้สวีเดนเป็นประเทศที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงด้วย นอกจากนี้ สังคมสวีเดนยังเน้นที่ความสมดุลระหว่างชีวิตและงานทำให้ประชาชนมีความสุขมากขึ้น โดยสวีเดนถือเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกสำหรับทั้งผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยว

สวีเดน Sweden

สวีเดน Sweden

สวีเดน Sweden

สวีเดน Sweden



07.jpg

เยอรมนี
Germany

ปีนี้เยอรมนีกระโดดขึ้นจากอันดับ 10 มาอยู่ที่อันดับ 7 ของประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก อันเนื่องมาจากการประเมินชีวิตที่ดีขึ้นของพลเมือง จากปัจจัยด้านความมั่นคงทางการเงินและทางสังคมของประเทศ เยอรมนีเป็นอีกประเทศที่โดดเด่นด้านคุณภาพชีวิตในยุโรป เมืองในเยอรมนีส่วนใหญ่มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยได้รับอิทธิพลจากระบบราชการที่เข้มงวดและมีประสิทธิภาพ ผู้คนรักษาเมืองให้สะอาดตามกฎอนามัย นอกจากนี้ ชาวเยอรมันยังมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวในครัวเรือนค่อนข้างสูง ครอบครัวสามารถใช้จ่ายเพื่อความต้องการมากกว่าแค่สิ่งจำเป็นพื้นฐานได้ เนื่องจากชาวเยอรมนีโดยเฉลี่ยมีความมั่นคงในการทำงานและรายได้สูงกว่าประเทศอื่น ทำให้ชาวเยอรมันส่วนใหญ่มีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี

เยอรมนี Germany

เยอรมนี Germany

เยอรมนี Germany

เยอรมนี Germany


08.jpg

นอร์เวย์
(Norway)

นอร์เวย์ได้ชื่อเป็นประเทศที่มีระบบประกันสังคมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน ทำให้คนจำนวนมากในประเทศนอร์เวย์รู้สึกปลอดภัยและมีความสุข โดยเฉพาะการได้ใช้เวลาท่องเที่ยวพักผ่อนกลางแจ้งท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามโดดเด่นติดอันดับโลก สภาพภูมิประเทศของนอร์เวย์ล้อมรอบไปด้วยภูเขา เกาะ และฟยอร์ด (Fjord) อ่าวเล็กๆ บริเวณชายฝั่งทะเลซึ่งเกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำแข็งบนที่ราบ แม้ส่วนใหญ่จะมีสภาพอากาศหนาวเย็น แต่ในช่วงฤดูร้อนของนอร์เวย์ก็มีอากาศอบอุ่นและธรรมชาติสีเขียวสดชื่นสวยงาม

นอร์เวย์ Norway

นอร์เวย์ Norway

นอร์เวย์ Norway

นอร์เวย์ Norway



09.jpg

นิวซีแลนด์
(New Zealand)

ข้ามมาฝั่งซีกโลกใต้กันบ้าง กับประเทศนิวซีแลนด์ หนึ่งเดียวในลิสต์ Top 10 การจัดอันดับประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกประจำปี 2021 ที่ไม่ได้อยู่ในทวีปยุโรป นิวซีแลนด์มีอัตราคุณภาพชีวิตที่ดีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งค่าครองชีพที่อยู่ในระดับปานกลางไม่สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ประชากร และพลเมืองชาวนิวซีแลนด์ยังมีความสมดุลในชีวิตการทำงาน พร้อมจุดเด่นอย่างระบบสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพที่ดี โดยในปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีของนิวซีแลนด์ จาซินดา อาร์เดิร์น ยังได้รับคำชมสำหรับการจัดการกับปัญหาการแพร่ระบาดของโรคระบาดโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากจะช่วยชีวิตประชากรชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากแล้ว ยังช่วยให้ประเทศนิวซีแลนด์กลับมาเดินหน้าและเป็นปกติเร็วกว่าประเทศอื่นๆ ในโลก

นิวซีแลนด์ New Zealand

นิวซีแลนด์ New Zealand

นิวซีแลนด์ New Zealand

นิวซีแลนด์ New Zealand




10.jpg

ออสเตรีย
(Austria)

ปิดท้ายอันดับ 10 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกอย่าง “ออสเตรีย” ถึงแม้จะเป็นประเทศในทวีปยุโรปที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่ออสเตรียก็มีความโดดเด่นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมไม่แพ้ประเทศอื่นๆ โดยออสเตรียนั้นจัดเป็นประเทศที่มีรายได้สูง และมีมรดกทางวัฒนธรรมมากมาย โดยเฉพาะเมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงเวียนนาที่ยังคงครองตำแหน่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ออสเตรียเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยวัฒนธรรมที่งดงาม ไปจนถึงสภาพภูมิประเทศที่น่าอัศจรรย์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก คุณภาพชีวิตที่ดีในออสเตรียสะท้อนจากอัตราการเกิดอาชญากรรมที่ต่ำ ระบบการประกันสังคมในระดับสูง และโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ สำหรับพลเมืองภายในประเทศ ทำให้ประชาชนชาวออสเตรียรู้สึกมีความสุขและปลอดภัยในการอยู่อาศัยที่นี่

ออสเตรีย Austria

ออสเตรีย Austria

ออสเตรีย Austria

ออสเตรีย Austria


และทั้งหมดนี้ก็คือ Top 10 ประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลก 10 อันดับแรก ประจำปี 2021 ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะไม่อยู่ในลิสต์อันดับต้นๆ โดยอยู่อันดับที่ 48 ตกจากอันดับที่ 44 เมื่อปี 2020 ต้องมารอลุ้นว่าในปีหน้าเราจะสามารถทำอันดับได้ดีขึ้นหรือไม่


เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai