ทริปเที่ยวเกาะกูด 3 วัน 2 คืน งบคนละ 5000 บาท เที่ยวเกาะกูดฉบับสาวโสดลางานไปโดดน้ำ

calendar_month 11 มี.ค. 2021 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 408,621 / ทริปตัวอย่าง

โสดแล้วจะไปไหนก็ได้...วลีเด็ดของเดอะแก๊งค์เรา ถ้าพอมีเวลาว่างปุ๊บก็จะขับรถไปเที่ยวกันเลย โดยไม่ต้องวางแผนอะไรมากมาย เหมือนอย่างครั้งนี้ที่เราสองคนอยากสัมผัสทะเลใส หาดทรายสีขาว เราเลยยื่นใบลาหัวหน้าหนึ่งวัน แล้วเก็บบิกินี่ตัวเก่งใส่กระเป๋าโยนขึ้นรถขับมุ่งตรงไปยังจังหวัดตราด ซึ่งจุดหมายของเราในทริปนี้คือเกาะกูด เกาะสวยน้ำใสในทะเลอ่าวไทย เกาะสุดท้ายสุดเขตแดนสยามในภาคตะวันออกที่ไปทีไรก็สุขใจทุกครั้ง กับทริปเที่ยวเกาะกูด 3 วัน 2 คืน เที่ยวเกาะกูดฉบับสาวโสดลางานไปโดดน้ำจะสนุกแค่ไหนตามไปชมกันเลยค่ะ

- 5.00 น. เราออกเดินทางจากบ้านตั้งแต่เช้าตรู่มุ่งสู่บุญศิริเฟอร์รี่ที่ตั้งอยู่ที่แหลมศอก ซึ่งเราจองเรือของบุญศิริไว้ตอนรอบเที่ยงตรงค่ะ ค่าเรือไปกลับคนละ 1000 บาท

- 11.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมงเราก็ถึงที่ติดต่อขึ้นเรือของบุญศิริเฟอร์รี่ >> https://goo.gl/maps/uSE4gUTjEQFA98MMA ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือแหลมศอก ซึ่งที่นี่มีให้บริการที่จอดรถโดยจะต้องเสียค่าจอด 50 บาท/คัน/วัน ทริปนี้เราไป 3 วัน เลยเสียค่าจอดรถไป 150 บาท

-12.00 น. เมื่อเช็คอินได้ตั๋วเรือเรียบร้อยแล้วก็นั่งรถของทางบุณศิริเพื่อไปยังท่าเรือค่ะ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงท่าเรือ ซึ่งเรือที่เรานั่งในครั้งนี้เป็นเรือ High Speed Catamaran มีห้องแอร์ มีห้องน้ำ มีมุมจำหน่ายเครื่องดื่มและอาหารให้บริการด้วยค่ะ

ทริปเที่ยวเกาะกูด 3 วัน 2 คืน งบคนละ บาท เที่ยวเกาะกูดฉบับสาวโสดลางานไปโดดน้ำ

-12.50 น. ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเราก็มาถึงท่าเรืออ่าวสลัดของเกาะกูดแล้วค่ะ น้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วทักทายเราจนอยากจะเปลี่ยนเสื้อผ้ากระโดดลงน้ำกันแล้ว

จากนั้นก็นั่งรถสองแถวบริเวณท่าเรือเพื่อไปยังที่พักของเราในคืนนี้ค่ะ อ้อลืมบอกไปว่า ค่าสองแถวนั้นรวมอยู่ในค่าเรือเรียบร้อยแล้ว

ทริปนี้เราจองที่พักมา 2 ที่ เพราอยากสัมผัสประสบการณ์นอนเกาะกูด 2 หาด โดยที่แรกก็คือมีดีรีสอร์ทตั้งอยู่ที่หาดตะเภาเกาะกูด เราจองที่พักผ่านทาง Booking.com ค่าที่พักคืนละ 2,238 บาท ใครสนใจก็สามารถกดไปเช็คราคาที่ลิงค์นี้ได้เลยจ้า>> เช็คราคามีดีรีสอร์ทเกาะกูด

เป็นห้องคอทเทจวิวสวนค่ะ ตัวห้องจะอยู่บริเวณด้านในค่ะค่อนข้างไกลจากทะเล ห้องเรานี่เรียกว่าแทบจะติดรั้วของรีสอร์ทกันเลย 555 แต่ไม่เป็นปัญหาเพราะราคาถือว่าไม่แพงมาก แถมยังมีอาหารเช้าอีกด้วย ห้องพักตกแต่งสวยงาม เตียงนอนสบาย มีทีวี ตู้เย็น ไดร์เป่าผมครบครัน แต่ข้อเสียคือห้องเราจะติดกับอีกห้อง ซึ่งเป็นห้องที่สามารถทำเป็นคอนเน็คติ้งกันได้ ทำให้กำแพงห้องค่อนข้างบาง เลยได้ยินเสียงห้องข้างๆ ค่อนข้างชัดเจนค่ะ

ห้องน้ำมีเครื่องทำน้ำอุ่น แชมพู ยาสระผม ให้ครบ

ไม่เห็นทะเลก็ไม่เป็นไร วิวสวนก็ได้ไม่เป็นปัญหา อยากไปทะเลก็เดี๋ยวเดินไปหาได้ สบายมากๆ

มาถึงบ่ายๆ แบบนี้ขอหาข้าวรองท้องกันก่อน เราใช้บริการห้องอาหารของรีสอร์ท โดยมื้อนี้เราสั่งต้มยำทะเลกับผัดผัก พร้อมข้าวเปล่า 2 อย่างนี้รวมกันประมาณ 300 บาท

จากนั้นก็ยืมเรือคายัคที่ที่พัก ยืมฟรีจ้า พายเลาะหาดตะเภาไปเรื่อยๆ โดยจุดมุ่งหมายคืออ่าวน้อย ซึ่งเราเคยมีครั้งนึงแล้วและชอบบรรยากาศมากๆ ค่ะ เลยชวนกันพายไปเที่ยวที่อ่าวน้อยกัน บอกก่อนว่าระยะทางไกลเอาเรื่อง ใครที่พายเรือไม่แข็งแนะนำว่าอย่าหาทำจ้า

พามาสักพักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมงก็ถึงอ่าวน้อยแล้วค่ะ อ่าวเล็กๆ สุดสงบที่มีที่พักเพียงแห่งเดียวนั่นก็คืออ่าวน้อยรีสอร์ทค่ะ เดี๋ยวครั้งหน้ามาเกาะกูดอีกต้องมาลองนอนที่นี่ให้ได้เลย

แอบถ่ายสะพานของอ่าวน้อยรีสอร์ท มุมสุดฮิตที่สวยมากๆ ยิ่งช่วงพระอาทิตย์ตกวิวงามงดสุดๆ

ถ่ายรูปกันจนหนำใจเราก็รีบพายเรือกลับที่พักเพราะกลัวจะค่ำค่ะ ระหว่างพายเรือก็ได้ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเลแบบนี้ เป็นพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกครั้งหนึ่งในชีวิตกันเลย

กลับมาถึงที่พักปุ๊บเราสองคนก็เดินเล่นชมบรรยากาศพระอาทิตย์ตกบริเวณหน้าหาดของที่พัก สวยงามจับใจมากๆ

จากนั้นก็ไปอาบน้ำ แล้วออกมาทานอาหารเย็นค่ะ มื้อนี้เราสั่งยำวุ้นเส้นทะเล กับปอเปี๊ยะทอดมาทาน ปอเปี๊ยะนี่ถ่ายไม่ทันค่ะ เพราะความหิวเลยกินกันจนลืมถ่ายรูปกันทีเดียว มื้อนี้ค่าเสียหาย รวมเครื่องดื่มเย็นๆ หนึงกระป๋องแล้วอยู่ที่ประมาณ 420 บาทค่ะ

เช้าวันที่สอง เราตื่นมาทานอาหารเช้าซึ่งเป็นมินิบุฟเฟ่ต์เล็กๆ ที่มีไข่ดาว ขนมปัง ข้าวต้ม คอนเฟล็ค นม น้ำผลไม้ ให้ได้เลือกทาน

หลังจากทานเสร็จแล้วก็ตะลุยถ่ายรูปทะเลยามเช้ากัน

หาดตะเภาหน้าที่พักเป็นหาดที่ทอดตัวยาวปกคลุมไปด้วยต้นมะพร้าวเลยทำให้อากาศเย็นสบายไม่ร้อน ทะเลช่วงเวลายามเช้าแบบนี้ใสราวกับกระจกเลยค่ะ อ้อ ช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคม เป็นช่วงที่หลังมรสุมของเกาะกูด ทำให้น้ำทะเลใสประทับใจมากๆ

สะพานไม้ของสีฟ้ารีสอร์ท ที่อยู่ข้างๆ กันค่ะ เลยขอชะแว้บไปถ่ายรูปสักหน่อย

ด้านหน้าคือสีฟ้ารีสอร์ท เราเคยมาพักที่นี่แล้วชอบมากๆ เหมือนกันค่ะ ใครสนใจสามารถเข้าไปชมรีวิวสีฟ้ารีสอร์ทได้ที่นี่เลย>>เมื่อใจมันเซเลยต้องไปนอนริมทะเลที่ สีฟ้ารีสอร์ท เกาะกูด

มีดีรีสอร์ท (MeDee Resort)

ที่ตั้ง : 26/1 หมู่ 2 หาดตะเภา ต.เกาะกูด อ.เกาะกูด จ.ตราด

เบอร์ติดต่อ :089-096-9929, 096-874-1327

Facebook :Medee Resort Koh Kood

GPS : https://goo.gl/maps/1WucJ33UmoC6gyLY6

จองที่พักมีดีรีสอร์ทเกาะกูดที่นี่

ถ่ายรูปจนเมมเกือบเต็มแล้วก็ถึงเวลาเช็คเอาท์และเดินทางไปยังรีสอร์ทที่สองนั่นก็คือเกาะกูดรีสอร์ทค่ะ โดยหลังจากเช็คเอาท์เราก็โทรศัพท์บอกทางเกาะกูดรีสอร์ทให้ส่งรถมารับเรา ไม่นานรถเกาะกูด รีสอร์ทก็มาถึงพาเราเดินทางไปยังเกาะกูด รีสอร์ทที่ตั้งอยู่ที่อ่าวบางเบ้า

ห้องพักที่เราจองในครั้งนี้ชื่อห้องว่า Garden View เป็นห้องด้านในสุดของรีสอร์ทค่อนข้างห่างจากทะเลเลยค่ะ แต่บรรยากาศร่มรื่นไปด้วยต้นไม้มากมาย ห้องนี้เราจองตรงกับทางที่พักราคา 2400 บาท/คืน รวมอาหารเช้า ซึ่งราคานี้จะเป็นราคาในช่วงกรีนซีซั่น(เดือนตุลาคม)

บ้านพักที่เรานอนจะเป็นบังกะโลสไตลไม้มีชานให้นั่งเล่นด้านนอก พร้อมที่นั่งและเปล ส่วนด้านในก็ยังคงใช้ไม้ในการตกแต่งผสมผสานกับผนังปูนเปลือย ห้างกว้างขวาง ภายในห้องมีทั้งเครื่องปรับอากาศ ตู้เซฟ ทีวี พัดลม ไดร์เป่าผม ตู้เย็น พร้อมมีมุ้งสีขาวให้ความฟรุ้งฟริ้ง

ห้องน้ำกว้างมากๆ แบ่งเป็นโซนอ่างล้างหน้า ห้องสุขา และห้องอาบน้ำแบบฝักบัว พร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น

หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็ออกไปทานอาหารกลางวันบริเวณล็อบบี้ค่ะ มื้อนี้เราสั่งก๋วยเตี๋ยวเรือที่มีให้เลือกทั้งเนื้อ(40 บาท) และหมู(35 บาท) ถูกและอร่อยมากๆ บอกเลย จะหาก๋วยเตี๋ยวราคาแบบนี้กินในรีสอร์ทของเกาะกูดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่เกาะกูดรีสอร์ทแห่งนี้มีให้เลือกเลือกทาน

ทานก๋วยเตี๋ยวกันจนอิ่มแปล้แล้วก็ออกไปนั่งชิลชมวิวทะเล ซึ่งเกาะกูดรีสอร์ทจะติดอ่าวบางเบ้า ที่ทะเลฝั่งนี้จะค่อนข้างคลื่นลมสงบมากๆ น้ำนิ่งเหมาะกับการพายเรือคายัคมากๆ ค่ะ แต่ด้วยแดดที่ร้อนเลยเลยตกลงกันว่าค่อยไปพายช่วงเย็นๆ แทน ตอนนี้เลยนั่งชิลบริเวณเทอร์เรซที่ทางที่พักทำเอาไว้พร้อมที่นั่ง เตียงนอนชมวิวทะเล

ใครอยากลงทะเลก็สามารถเดินลงทะเลด้านหน้าได้เลย น้ำตรงนี้จะไม่ลึกค่ะ เหมาะกับการมาเล่นมากๆ น้ำที่นี่ใสแจ๋วราวกับกระจกเลยค่ะ

สะพานไม้ของรีสอร์ทที่ทอดยาวไปกลางทะเล ซึ่งเป็นจุดขึ้นเรือสปีดโบ๊ทอีกด้วยค่ะ

พอแดดเริ่มหุบเราเลยไปเช่าเรือคายัค ชั่วโมงละ 50 บาท เลาะอ่าวบางเบ้าไปเรื่อยๆ เป็นหาดที่น้ำใสและน้ำนิ่งมากๆ ค่ะ พายกันเพลินเลย

นอกจากเรือคายัค ทางที่พักยังมีให้บริการเช่าแพดเดิลบอร์ดอีกด้วยค่ะ ชั่วโมงละ 150 บาท

บรรยากาศยามเย็นชมวิวพระอาทิตย์ตกงดงามมากๆ

หลังจากเล่นน้ำกันแล้ว เราก็ไปอาบน้ำเตรียมมานั่งชิลบริเวณ Deck Bar เพื่อดินเนอร์กันในยามค่ำคืน

อาหารมื้อค่ำวันนี้ เราสั่งส้มตำปลาร้า (90 บาท) ยำวุ้นเส้นรวมทะเล(180 บาท) และเฟรนช์ชายส์(100 บาท) ทานกันเบาๆ แล้วนั่งชิลชมวิวทะเลยามเย็น

บรรยากาศยามเย็นบริเวณ Deck Bar บีชบาร์ของเกาะกูดรีสอร์ทค่ะ มีเพลงเพราะๆ ให้นั่งชิล ใครอยากอ่านรีวิวเกาะกูดรีสอร์ทเพิ่มเติมสามารถเข้าไปชมรีวิวที่นี่ได้เลย >> ชวนเพื่อนไปติดเกาะ ที่ เกาะกูดรีสอร์ท รีสอร์ทสุดชิลริมหาดบางเบ้า

เกาะกูดรีสอร์ท (Koh Kood Resort)

ที่ตั้ง : 45 หมู่ 5 เกาะกูด อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด

ราคา : เริ่มต้น 2,400 บาท (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทห้องและช่วงเวลาเข้าพัก อาจแตกต่างกันไป โปรดสอบถามรีสอร์ทโดยตรง)

เบอร์ติดต่อ : 087-026-5515, 08-7785-7695

Facebook : Koh Kood Resort

GPS : https://goo.gl/maps/SMWe811A4hNPWQDG8

จองที่พักเกาะกูดรีสอร์ทที่นี่

วันสุดท้ายหลังจากทานอาหารเช้าที่เกาะกูดรีสอร์ทแล้ว ก็มีรถมารับเราเพื่อไปยังท่าเรือ เพื่อขึ้นเรือกลับฝั่งรอบตอนเก้าโมงเช้าค่ะ มาถึงท่าเรือแหลมศอกประมาณ 10 โมงและเดินทางกลับบ้าน ปิดทริปสาวโสดกันอย่างฟินๆ ทริปหน้าจะไปไหนต่อรอติดตามกันได้เลย

สรุปค่าใช้จ่ายทริปเกาะกูด 3 วัน 2 คืน

- ค่าเรือไปกลับคนละ 1000 บาท
- ค่าฝากรถไว้ที่ท่าเรือ 150 บาท (หารกัน 2 คน)
- ค่าที่พักที่มีดีรีสอร์ท 2238 บาท(หารกัน 2 คน)
-ค่าอาหารที่มีดีรีสอร์ท 720 บาท(หารกัน 2 คน)
-ค่าที่พักที่เกาะกูดรีสอร์ท 2400 บาท(หารกัน 2 คน)
-ค่าอาหารที่เกาะกูดรีสอร์ท 845 บาท(หารกัน 2 คน)
-ค่าเรือคายัคที่เกาะกูดรีสอร์ท 50 บาท(หารกัน 2 คน)
-ค่าน้ำมัน + ทางด่วน 2000 บาท(หารกัน 2 คน)