bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

calendar_month 01 ก.พ. 2021 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 82,378 / เที่ยวต่างประเทศ


มีหลายคนถามฮานะว่าไปญี่ปุ่นบ่อยๆ แล้วชอบที่ไหนมากที่สุด บอกเลยว่าเป็นคำตอบที่ยากมากๆ เพราะในแต่ละเมืองของญี่ปุ่นก็จะมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันไป แต่ถ้าถามว่าภูมิภาคไหนที่อยากเดินทางไปซ้ำมากที่สุดก็ต้องยกให้เกาะคิวชู เกาะทางใต้ของญี่ปุ่นที่มีครบไม่ว่าจะเป็น ทะเล ภูเขา เมืองน่ารัก อาหารอร่อย เส้นทางรถไฟสวย พร้อมกับมีแหล่งอนเซ็นชื่อดังให้เลือกมากมาย วันนี้เราเลยจะขอพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักคิวชูกันอีกสักครั้ง แต่ครั้งนี้เราจะพาเที่ยวแบบเจาะลึกคิวชู เช็คอิน 7 จังหวัดในคิวชู ว่าแต่ละที่จะมีไฮไลท์เด็ดอะไรน่าไปเที่ยวบ้าง พร้อมแล้วก็ตามเราไปชมกันเลยค่ะ

อ่านจบแล้วอย่าลืมร่วมทำแคมเปญคิวชู x ชิลไปไหนในตอนท้ายกันด้วยนะ ลุ้นของรางวัลสำหรับไปเที่ยวคิวชูได้เลย


คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

ก่อนจะพาไปเจาะลึกแต่ละเมืองเราขอพามาทำความรู้จักเกาะคิวชูกันก่อน เกาะคิวชูหรือภูมิภาคคิวชูนั้นเป็นเกาะทางใต้หนึ่งใน 4 เกาะหลักของประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ ฮนชู ฮกไกโด คิวชู และชิโกกุ ซึ่งคิวชูนั้นใหญ่เป็นอันดับ 3 ประกอบไปด้วย 7 จังหวัด เริ่มจากฟุคุโอกะ (Fukuoka) โออิตะ(Oita) ซะกะ(Saga) นางาซากิ(Nagasaki) คุมะโมโตะ(Kumamoto) มิยะซะกิ(Miyazaki)และ คะโงะชิมะ (Kagoshima) เนื่องจากเป็นเกาะทางใต้ทำให้คิวชูมีอากาศอบอุ่นและมีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย เรียกได้ว่าถ้าจะเก็บเกาะคิวชูให้ครบเราว่าควรมีเวลาขั้นต่ำประมาณ 1 เดือนกันเลยค่ะ เพราะที่นี่ที่เที่ยวเยอะมากๆ และแต่ฤดูก็จะมีความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป ทำความรู้จักเกาะคิวชูเบื้องต้นกันแล้วเรามาเริ่มตะลุยคิวชูตั้งแต่เหนือสุดของเกาะไปยันใต้สุดของเกาะกันดีกว่าค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ


จังหวัดฟุคุโอกะ (Fukuoka)

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

จังหวัดฟุคุโอกะ ถือเป็นศูนย์กลางของเกาะคิวชู เพราะที่นี่มีสนามบินฟุคุโอกะ (Fukuoka Airport)ที่รองรับเที่ยวบินจากทั้งต่างประเทศและในประเทศ โดยถ้ามาจากประเทศไทยก็สามารถลงที่สนามบินนี้แล้วต่อรถไฟใต้ดินเข้าเมืองเพียง 5 นาทีเท่านั้นค่ะ ตัวสนามบินอยู่ห่างจากสถานีฮากะตะ ซึ่งเป็นสถานีหลักของจังหวัดฟุคุโอกะเพียง 3 กิโลเมตร เรียกได้ว่าเป็นสนามบินที่ใกล้ตัวเมืองมากๆ ไม่ต้องเผื่อเวลาเดินทางมากมาย สะดวกสบายสุดๆ

การเดินทางมายังฟุคุโอกะ

จากเมืองไทยมีสายการบินบินตรงมายังสนามบินฟุคุโอกะ (Fukuoka Airport) ได้เลย

 

3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในฟุคุโอกะ

Itoshima :  เมืองชายทะเลสุดน่ารัก พร้อมลิ้มรสหอยนางรม สด อร่อย

จากฟุคุโอกะถ้าอยากชมทะเลสวย ทานอาหารทะเลสดอร่อยเราขอแนะนำทะเลแห่งเมือง Itoshima ซึ่งเป็นเมืองริมทะเลที่กำลังมาแรงในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นกันเลยค่ะ เพราะที่นี่มีร้านคาเฟ่ชิคเก๋ จุดถ่ายรูปสุดฮิตมากมาย และอาหารทะเลของเมืองนี้ก็สดอร่อยโดยเฉพาะหอยนางรมของที่นี่ตัวใหญ่ สด หวานมากๆ

ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเมือง Itoshima คือจุดถ่ายรูป Sakurai Futamigaura ที่มีหินคู่รัก Futamigaura ตั้งอยู่กลางทะเล พร้อมกับเสาโทริอิสีขาว ซึ่งถ้ามองลอดช่องประตูเสาโทริอิก็จะพบกับหินคู่รัก Futamigaura ตั้งเคียงคู่กลางทะเล และถ้าคุณมาที่นี่ในช่วงฤดูร้อนก็จะได้พบกับพระอาทิตย์ที่ตกตรงกลางระหว่างหินคู่รักพอดีพอดีเลยล่ะค่ะ ที่นี่จึงได้รับการจัดอันดับเป็น 1 ใน 100 วิวยามเย็นที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น นอกจากหินคู่รักแล้วบริเวณนี้ยังมีจุดถ่ายรูปน่ารักอีกมากมาย พร้อมกับร้านคาเฟ่ชมวิวทะเลอย่างร้าน Sunset Cafe ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านที่เหล่า Instagramable มาเช็คอินถ่ายรูปกันคู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

พิกัด GPS : Sakurai Futamigaura

มาเมืองริมทะเลแบบนี้ก็ต้องมาหาร้านทะเลอร่อยๆ ทานกันค่ะ ซึ่งเมือง Itoshima นั้นโด่งดังในเรื่องหอยนางรมที่ตัวใหญ่ หวาน สดอร่อย  โดยถ้ามาในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน - เดือนมีนาคม เราก็จะพบกับซุ้มปิ้งหอยนางรมหรือ Kakigoya ที่จะทำเป็นเต็นท์รูปครึ่งวงกลมมีหลังคาไวนิลสีขาวถ้าดูภายนอกจะคล้ายกับโรงเรือนปลูกต้นไม้ พอเข้ามาข้างในก็พบกับที่นั่งปิ้งหอยพร้อมอุปกรณ์ในการย่างมีทั้งแบบเตาถ่านและเตาแก๊ซ ซึ่งราคาหอยนางรมเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 1,000 เยน 

ร้านที่เราจะพาไปทานกันในวันนี้คือร้าน Mirukugaki Toyohisa-maru ก่อนเข้าร้านจะมีการวัดอุณหภูมิ ถ้าไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียสก็สามารถเข้าไปใช้บริการในร้านได้ค่ะ โดยร้านนี้จะเป็นแบบเตาถ่านให้เรานั่งย่างหอยนางรมร้อนๆ เนื้อ สด หวานทานฟินมากๆ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางมายัง Itoshima : จากตัวเมืองฮากะตะนั่งรถไฟ JR Chikuhi line จากสถานี Meinohama มายัง Itoshimakokomae ใช้เวลาประมาณ 17 นาที
พิกัด GPS : Mirukugaki Toyohisa-maru

ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu : ไหว้เทพแห่งการเรียนพร้อมชิมโมจิย่างสุดอร่อย

เมืองดาไซฟุ(Dazaifu) ในอดีตนั้นเป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของเกาะคิวชูมากว่า 500 ปี ปัจจุบันเมือง Dazaifu เป็นเมืองเล็กๆ เงียบสงบที่อยู่ห่างจากตัวเมืองฟุคุโอกะประมาณ 14 กิโลเมตร สามารถนั่งรถไฟมาเที่ยวได้ใช้เวลาเพียง 20 นาที ซึ่งเมืองนี้มีไฮไลท์สำคัญนั่นก็คือ ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu ศาลเจ้าแห่งการเรียน สร้างเพื่ออุทิศแด่ Sugawara no Michizane ขุนนางนักปราชญ์ที่โดดเด่นเรื่องการศึกษาในสมัยเฮอันแต่ถูกใส่ร้ายในสิ่งที่ไม่ได้กระทำ เลยทำให้ถูกเนรเทศจากเมืองเกียวโตมายังเมืองดาไซฟุ และจบชีวิตที่เมืองนี้ ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้เป็นจุดที่ฝังศพของ Sugawara no Michizane

การเข้าไปยังศาลเจ้าจะต้องเดินผ่านสะพานสีแดง 3 สะพานที่ข้ามสระน้ำ มีความหมายถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต พอเดินเข้ามาแล้วเราก็จะพบกับอาคารศาลเจ้าหรือฮนเดน สร้างในปี ค.ศ.1591  ด้านขวาของฮนเดนจะเป็นต้นบ๊วยที่ว่ากันว่าตอนที่ Michizane มาอยู่ที่นี่ต้นบ๊วยที่เกียวโตได้บินตามเขามาด้วย ซึ่งดอกบ๊วยจะออกดอกสวยงามในช่วงเดือนมกราคม - เดือนมีนาคมค่ะ

หลังจากสักการะศาลเจ้าแล้วเราอยากแนะนำให้เพื่อนๆ ไปลองชิมขนมโมจิย่าง Umegae Mochi ที่จะมีขายอยู่บนถนนคนเดินทางเข้าวัดค่ะ เป็นขนมโมจิที่สอดไส้ด้วยถั่วแดง แป้งเหนียวนุ่มอร่อยมากๆ และยังมีร้านกาแฟสตาร์บัคส์ที่ดีไซน์จากไม้บอกเลยว่าสวยมากๆ ติดหนึ่งใน 5 ร้านสตาร์บัคส์ที่น่านั่งของญี่ปุ่นอีกด้วย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายัง Dazaifu : จากตัวเมืองฮากะตะนั่งรถไฟสาย NISHITETSU ที่สถานี NISHITETSUFUKUOKA(TENJIN) มาลงสถานี DAZAIFU ใช้เวลาประมาณ 25 นาที

พิกัด GPS  :  ศาลเจ้า Dazaifu Tenmangu


Yanagawa : ล่องเรือแจวโบราณชมเมือง Yanagawa  บอกเล่าเรื่องราวแห่งอดีต

จากนั้นจะพาไปล่องเรือแจวโบราณที่เมือง Yanagawa โดยจากสถานีฮากะตะนั่งรถไฟมาที่นี่ใช้เวลาประมาณ 50 นาทีค่ะ ไฮไลท์ของเมืองนี้ก็ต้องกิจกรรมล่องเรือแจวโบราณไปในลำคลอง Yanagawa ที่คดเคี้ยวไปมา ว่ากันว่าถ้านำคลองแห่งนี้มาคลี่ออกจะได้ระยะทางถึง 960 กิโลเมตร หรือเท่ากับระยะทางจากที่นี่ไปเมืองเกียวโตกันเลยค่ะ

ระยะเวลาในการล่องประมาณ 60 นาที โดยระหว่างที่ล่องเรือคุณลุงคนแจวจะใส่เฟสชิลด์พร้อมกับเล่าเรื่องราวและสถานที่ต่างๆ ในคลองให้เราฟังสลับกับการร้องเพลงภาษาญี่ปุ่น ถึงแม้จะฟังไม่ออกแต่เสียงเพลงและบรรยากาศตรงหน้าก็สวยงามจับใจ คนเมืองนี้ก็น่ารักด้วยค่ะ ระหว่างที่เราล่องผ่านก็จะมีคนบนฝั่งคอยโบกมือทักทายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการมาล่องเรือคือช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ทั้งสองฝั่งคลองจะมีต้นซากุระออกดอกสีชมพูงดงาม ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงเหล่าต้นไม้เหล่านี้ก็จะเปลี่ยนสีสันเป็นสีเหลืองแดงงดงามไม่แพ้กัน

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายัง Yanagawa : จากสถานี Nishitetsu Fukuoka (Tenjin)นั่งรถไฟสาย Nishitetsu Tenjin-Omuta Line มาลงสถานี Nishitetsu Yanagawa ใช้เวลาเดินทาง 50 นาที

พิกัด GPS : ท่าเรือ Yanagawa kanko


จังหวัดซะกะ (Saga)

เรารู้จักซะกะ(Saga) ครั้งแรกก็เมื่อได้ดูซีรีส์เรื่อง STAY ซะกะ..ฉันจะคิดถึงเธอ หลังจากนั้นก็รู้สึกตกหลุมรักในเมืองเล็กๆ แห่งนี้และหวังว่าสักวันจะได้เดินทางไปที่นี่สักครั้ง  ลองมาดูกันว่าทำไมเมืองเล็กๆ แห่งนี้จึงเปี่ยมล้วนไปด้วยเสน่ห์ขนาดนี้

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังซะกะ

จากตัวสถานีฮากะตะมีรถไฟหลายขบวนที่วิ่งมาเมืองซะกะค่ะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีเท่านั้น


3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในซะกะ

แหลมฮาโดะ(Hado Misaki) : จูงมือคนรักมาถ่ายรูปริมทะเลกัน

มาตามรอย STAY ซะกะ..ฉันจะคิดถึงเธอกันที่แหลมฮาโดะ(Hado Misaki) ซึ่งเป็นสถานที่แห่งความรักเพราะชื่อของแหลม Hado นั้นจะไปพ้องกับการออกเสียงคำว่าหัวใจ (Hart-To)ในภาษาอังกฤษของคนญี่ปุ่นค่ะ เลยมีการทำอนุสาวรีย์สีขาวรูปหัวใจริมทะเลขึ้นมาเพื่อให้คู่รักได้มาถ่ายรูปเช็คอินกัน ยิ่งถ้าได้มาจูงมือคุณแฟนเดินชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมแห่งนี้ด้วยกันจะเป็นช่วงเวลาที่โรแมนติกมากๆ เลยล่ะค่ะ นอกจากนี้ยังมีหอสังเกตการณ์สัตว์น้ำ(Genkai Undersea Observatory Tower) ซึ่งเป็นหอสังเกตุการณ์ใต้ทะเลสีขาวตั้งอยู่กลางทะเล มีสะพานทางเดินยาว 86 เมตรไปยังตัวหอที่สูง 20 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนด้านล่างจะลึก 7 เมตร เราสามารถเดินบันไดวนลงไปชมสัตว์น้ำใต้ทะเลได้ด้วยค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังแหลมฮาโดะ(Hado Misaki) : มีรถไฟ JR Chikuhi Line ที่วิ่งจากสถานี MEINOHAMA มายังสถานี KARATSU ใช้เวลาประมาณ 70 นาทีค่ะ จากนั้นก็นั่งแท็กซี่ต่อมาประมาณ 45 นาที
พิกัด GPS : 
แหลมฮาโดะ(Hado Misaki)  


ศาลเจ้า Yutoku Inari : 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น

ถ้าพูดถึงศาลเจ้าอินาริคนญี่ปุ่นจะรู้จักกันดี เพราะเป็นศาลเจ้าในศาสนาชินโตที่นับถือเทพเจ้าอินาริหรือเทพแห่งกสิกรรมและการค้าขาย โดยสัญลักษณ์ของศาลเจ้าอินาริคือสุนัขจิ้งจอกที่เปรียบเหมือนผู้ส่งสารของเทพเจ้าซึ่งศาลเจ้าอินาริที่เรารู้จักกันดีก็คือศาลเจ้าฟุชิมิอินาริที่เกียวโต สำหรับเมืองซะกะแห่งนี้ก็มีศาลเจ้าอินาริที่เป็นหนึ่ง 1 ใน 3 ศาลเจ้าอินาริที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในญี่ปุ่น นั่นก็คือศาลเจ้า Yutoku Inari ซึ่งเป็นศาลเจ้าประจำเมืองซะกะอีกด้วยค่ะ

ประวัติความเป็นมาของศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1688 เป็นศาลเจ้าประจำตระกูลนาเบะชิมะ ผู้ปกครองเมืองซะกะในสมัยเอโดะ ซึ่งตัวศาลเจ้านั้นจะตั้งอยู่บนคานไม้ที่สูง 18 เมตรบนเนินเขาลักษณะคล้ายกับวัดคิโยะมิซุที่เกียวโต จากอาคารศาลเจ้าจะมีทางเดินขึ้นเขาโดยระหว่างทางจะเรียงรายไปด้วยเสาโทริอิสีแดงทอดยาวไปถึงยอดเขาค่ะ ใช้เวลาเดินประมาณ 10 นาทีเราก็สามารถขึ้นไปชมวิวสวยๆ ของเมืองจากมุมสูงได้ด้วยค่ะ

นอกจากจะมาขอพรเรื่องการทำมาค้าขายกันแล้วที่ศาลเจ้าแห่งนี้คนยังนิยมมาขอพรเรื่องการสอบ และให้แคล้วคลาดปลอดภัยด้วยค่ะ โดยจะมีแผ่นป้ายไม้ขอพรรูป 5 เหลี่ยมให้เราได้เขียนคำขอพร บนแผ่นป้ายจะมีตัวคันจิเขียนคำว่า "อันตราย" ซึ่งตอนที่เรานำไปแขวนเราจะต้องทำให้คำนี้หลุดออกมา ใครที่กลัวว่าช่วงโควิดแบบนี้จะไม่กล้าแตะต้องแผ่นป้ายไม้ก็สบายใจได้เลย เพราะทางศาลเจ้าได้เตรียมเจลแอลกอฮอล์เพื่อรักษาความสะอาดให้กับผู้ที่มาเขียนแผ่นป้ายไว้ด้วยค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยังศาลเจ้า Yutoku Inari : จากสถานีซะกะนั่งรถไฟ JR Nagasaki Line ไปลงสถานี HIZENHAMA แล้วนั่งรถบัสหรือแท็กซี่ไปยังศาลเจ้าได้
พิกัด GPS : 
ศาลเจ้า Yutoku Inari


ร้านทาเคซากิไคซัง (Takezaki Kaisan) : ลิ้มรสอาหารทะเลย่างเตาถ่านสุดอร่อย

ร้านแนะนำในเมืองซะกะเราขอยกให้ร้านนี้เลยค่ะร้านทาเคซากิไคซัง (Takezaki Kaisan)  โดยร้านเขาจะขายเมนูทะเลเผาโดยเน้นที่ปูทาเคซากิ(คล้ายกับปูม้าบ้านเรา)และบรรดาหอยมากมายทั้งหอยนางรมทาเคซากิ,หอยเชลล์ และหอยฮิโองิ(Noble scallop) ซึ่งเจ้าของร้านนั้นเป็นชาวประมงที่จับปูทาเคซากิเองและยังมีฟาร์มเลี้ยงหอยนางรมทาเคซากิด้วยค่ะ รับรองว่าสดอร่อยมากๆ ยิ่งนำมาย่างบนเตาถ่านแค่ได้กลิ่นหอมๆ ท้องก็ร้องแล้วค่ะ ด้วยความสดของวัตถุดิบทำให้เราได้ลิ้มรสรสชาติหวานอร่อยแบบอูมามิไม่ต้องใส่น้ำจิ้มก็ยังได้ อ้อลืมบอกไปว่าราคาก็ไม่แพงนะคะ หอยเขาขายตะกร้าละ 450 เยนเท่านั้น ส่วนปูทาเคซากิจะอยู่ที่ตัวละประมาณ 3800 เยนค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยังร้านทาเคซากิไคซัง (Takezaki Kaisan) : จากสถานีซะกะนั่ง JR Nagasaki Line มายังสถานี TARA ประมาณ 70 นาทีค่ะ แล้วนั่งแท็กซี่มายังร้านได้เลย
พิกัด GPS : 
ร้านทาเคซากิไคซัง (Takezaki Kaisan)


จังหวัดนางาซากิ (Nagasaki)

นางาซากิเมืองที่เรารู้จักจากการเรียนประวัติศาสตร์เพราะเป็นเมืองที่เคยถูกทำลายด้วยระเบิดนิวเคลียร์เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ.1945 จวบจนมาวันนี้นางาซากิเป็นอีกหนึ่งเมืองที่เรารักที่สุดในเกาะคิวชู เพราะที่นี่มีร่องรอยประวัติศาสตร์ที่จะเล่าขานให้อนุชนรุ่นหลังรับรู้ในเรื่องความโหดร้ายของสงคราม แต่กระนั้นกลับยังคงสวยงามด้วยวัฒนธรรมที่ผสมผสานตะวันตกและตะวันออกได้อย่างลงตัว

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังนางาซากิ 

จากสถานีฮากะตะในฟุคุโอกะสามารถนั่งรถไฟ LTD. EXP KAMOME มาลงสถานี NAGASAKI ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง


3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในนางาซากิ

ภูเขาอินะซายามะ(Nagasaki’s Night View Inasayama) : จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับ 3 ของโลก

ที่แรกเราจะพาไปสัมผัสจังหวัดนางาซิกิกันที่ ภูเขาอินะซายามะ(Nagasaki’s Night View Inasayama) ซึ่งที่นี่จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลกและของญี่ปุ่นกันเลยค่ะ ซึ่งยอดเขาอินะซานั้นสูงจากระดับน้ำทะเล 333 เมตรการเดินทางไปยอดเขาสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขาได้ค่ะใช้เวลาเพียง 5 นาทีหรือจะขับรถขึ้นไปเองก็ได้นะคะ พอขึ้นมาเราก็จะพบกับวิวแบบ 360 องศา แนะนำว่ามาก่อนฟ้ามืดเพราะเราจะได้เห็นช่วงเวลาที่งดงามตั้งแต่พระอาทิตย์ที่กำลังลาลับขอบฟ้า แสงสีทองสาดทอให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีสันสวยงาม ไปจนถึงช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แสงไฟจากหมู่ตึกในเมืองจะส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาวที่พร่างพราวบนพื้นดินกันเลยค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยังภูเขาอินะซายามะ : นั่งรถรางสาย 1 หรือสาย 3 ในตัวเมืองนางาซากิไปลงสถานี Takaramachi แล้วเดินต่อไปประมาณ 5 นาทีก็จะถึงสถานีกระเช้าที่ขึ้นสู่ยอดเขา
พิกัด GPS : ภูเขาอินะซายามะ 


น้ำพุร้อนอุนเซ็น Unzen Jigoku : สัมผัสนรกที่สวยงาม

นรกที่สวยงามนั้นมีด้วยเหรอ บอกเลยว่ามีที่นางาซากินี่แหละค่ะ ที่นี่คือ น้ำพุร้อนอุนเซ็น Unzen Jigoku หรือแปลเป็นไทยว่านรกบนเขาอุนเซ็น ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติอุนเซ็ง-อามากูซะ ด้วยอุณหภูมิของน้ำพุร้อนที่พวยพุ่งออกมากว่า 30 บ่อบนเขาพร้อมควันและกลิ่นกำมะถันที่คละคลุ้งทั่วภูเขาอุนเซ็นทำให้ที่นี่ได้รับสมญานามว่านรกบนเขา แต่เราขอยกให้เป็นนรกที่สวยงามเพราะด้วยสภาพแวดล้อมของธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ยิ่งในช่วงที่มีหิมะตกจะปรากฏภาพหิมะสีขาวปกคลุมไปทั่วขุนเขา พร้อมกับมีไอร้อนที่พวยพุ่งขึ้นมาเป็นภาพที่งดงามแปลกตาราวกับมีจิตรกรมาบรรจงวาดเอาไว้เลยล่ะค่ะ และที่นี่ยังมีเรียวกังให้บริการด้วยสามารถเลือกพักเพื่อนอนแช่น้ำชมวิวสวยๆ ของภูเขาอุนเซ็นกันได้เลย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยัง Unzen Jigoku : จากนางาซากินั่งรถไฟไปยังสถานี  ISAHAYA ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีแล้วนั่งรถบัส  Shimatetsu Bus อีกประมาณ 80 นาที ไปยัง Shimatetsu Bus Center- Unzen 
พิกัด GPS : Unzen Jigoku 


ชิมาบาระ : เมืองที่มีปลาสวยน้ำใส City of Swimming Carp

ชิมาบาระเมืองที่มีปลาคาร์พอยู่ในท่อระบายน้ำ ตอนแรกเราได้ยินคำนี้ก็ตะลึงงุนงง ว่าท่อระบายน้ำกับปลาคาร์พมันไม่น่าใช่สิ่งที่จะอยู่ด้วยกันได้แต่ที่เมืองชิมาบาระแห่งจังหวัดนางาซากินี้ทำให้สองอย่างนี้อยู่ด้วยกันได้ เพราะที่นี่เป็นเมืองที่น้ำใสสะอาดมากๆ อุดมไปด้วยแหล่งน้ำใต้ดินมากมายที่ผุดขึ้นมาจากพื้นดินทำให้น้ำใสสะอาดสามารถทานได้เลย ใสชนิดที่ว่ามีน้องปลาคาร์พอาศัยอยู่ในท่อระบายน้ำของเมืองและชาวเมืองก็ช่วยกันดูแลน้องๆ เหล่านี้กันอย่างดี และขอบอกว่าอาหารและขนมจากเมืองชิมาบาระนั้นอร่อยมากๆ เลยค่ะเพราะเขาใช้น้ำใสสะอาดของเมืองมาปรุง แค่มาเดินเล่นในบรรยากาศเมืองเก่า เดินชมน้องปลาคาร์พ ชิมอาหารอร่อยก็มีความสุขแล้ว รับรองว่าถ้าได้มาแล้วจะหลงรักแน่นอน

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยังชิมาบาระ : จากนางาซากินั่งรถไฟไปยัง ISAHAYA ใช้เวลาประมาณ  20 นาทีแล้วต่อรถไฟ Shimabara Railway ไปลง SHIMABARA ใช้เวลาประมาณ 72 นาที
พิกัด GPS : ชิมาบาระ 

จังหวัดคุมะโมโตะ (Kumamoto)

ถ้าพูดถึงคุมะมงเราเชื่อว่าคงจะไม่มีใครที่ไม่รู้จักเจ้าหมีสุดกวนอย่างแน่นอน ซึ่งคุมะมงนั้นเป็นมาสค็อตแห่งจังหวัดคุมะโมโตะ ซึ่งนอกจากเมืองนี้จะมีคุมะมงแล้วยังมีที่เที่ยวอีกเพียบเลยค่ะ ตามไปชมกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังคุมะโมโตะ

จากสถานะฮากะตะนั่งรถไฟชินกันเซ็นมายังคุมะโมโตะใช้เวลาประมาณ 32-50 นาที


3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในคุมะโมโตะ


ปราสาทคุมะโมโตะ : 1 ใน 3 ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น

สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตในเมืองคุมะโมโตะก็ต้องที่นี่เลยค่ะ ปราสาทคุมะโมโตะซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น โดยปราสาทคุมะโมโตะนั้นสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1600 ใช้เวลาสร้าง 7 ปี ออกแบบโดย Kato Kiyomasa ซึ่งเป็นไดเมียวหรือเจ้าเมืองที่ได้รับการยกย่องว่าทักษะในการออกแบบของเขาในการสร้างปราสาทและป้อมปราการนั้นยอดเยี่ยมมากๆ ซึ่งปราสาทคุมะโมโตะนั้นเดินทางผ่านประวัติศาสตร์ที่สำคัญของญี่ปุ่นมากมาย และโชคร้ายที่ถูกไฟไหม้ครั้งยิ่งใหญ่ในปี ค.ศ.1877 แต่ต่อมาก็มีการสร้างขึ้นมาใหม่ที่ยังคงอิงแบบเดิม แต่ก็น่าเศร้าเมื่อครั้งแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ที่คิวชูเมื่อเดือนเมษายนปี 2016 ปราสาทแห่งนี้ได้รับความเสียหายหนักมากๆ ค่ะ มีการคาดคะเนว่าต้องใช้เวลาถึง 20 ปีที่จะซ่อมให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม ในความโชคร้ายก็ยังมีข่าวดีเพราะเราทราบมาว่าที่นี่จะกลับมาเปิดให้ชมด้านในตัวปราสาทอีกครั้งในเดือนเมษายนปีนี้ค่ะ แม้วันที่เราไปจะได้ชื่นชมอยู่เพียงด้านนอก แต่รับรองว่าถ้าเมื่อไรที่ปราสาทกลับมาเปิดให้ชมเราจะนำภาพสวยๆ ด้านในปราสาทมาฝากเพื่อนๆ แน่นอน ระหว่างนี้ชมภาพด้านหน้าพร้อมกับทีมนักแสดงที่เขาจะแต่งชุดโบราณเหมือนคนที่มีตัวตนจริงตามประวัติศาสตร์ “Kumamoto Bushotai” ซึ่งเหล่านักแสดงก็ต่างใส่มาสก์ในแบบฉบับการท่องเที่ยวแบบนิวนอร์มอลเพื่อป้องกันการแพร่กระจายจากเชื้อไวรัสโควิด-19 กันอีกด้วยคู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางมายังปราสาทคุมะโมโตะ  : จากสถานีคุมะโมโตะนั่งรถรางมาประมาณ 15 นาทีค่ะ ลงสถานี Kumamotojo-mae แล้วเดินมายังปราสาท
พิกัด GPS : ปราสาทคุมะโมโตะ


ทาเบะโคกิ (Tabekogi) : กินไป ปั่นไป

จากนั้นเราจะพาเพื่อนๆ ไปปั่นจักรยานชมวิวสวยๆ ของภูเขาไฟอะโสะกันค่ะ แล้วไม่ใช่แค่ชมวิวอย่างเดียวเพราะทริปปั่นจักรยานครั้งนี้แถมฟรีบัตรคูปองอาหารให้ทานถึง 7 ใบในราคาเพียง 3500 เยนเท่านั้น บอกเลยว่าคุ้มมากๆ โดยเราสามารถไปจองทริปนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์ โดยทริปนี้จะเป็นทริปแบบวันเดย์ทริปใช้เวลา 4 ชั่วโมงค่ะ จุดสตาร์ทจะอยู่ที่สถานีรถไฟอะโสะ โดยเราจะต้องไปติดต่อที่ Aso Tourism Information Center ซึ่งตั้งอยู่ภายในสถานี JR Aso จากนั้นเขาจะให้แผนที่พร้อมมีรายชื่อร้านที่เราสามารถเข้าไปใช้คูปองได้ บอกเลยว่าวิวของที่นี่สวยมากๆ ถนนที่ทอดยาวเบื้องหน้าเราคือภูเขาอะโสะอันยิ่งใหญ่ปั่นเพลินกันจนลืมกินเลยทีเดียว ส่วนร้านอาหารก็มีให้เลือกแวะหลายร้านทั้งร้านโคร็อกเกะเนื้อม้าชื่อดังสุดอร่อย ร้าน Kaiten-Manju ขนมแพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่นร้อนๆ สอดไส้ด้วยถั่วแดง ร้านไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟและอีกมากมายโดยแต่ละร้านจะระบุว่าต้องใช้คูปองในการแลกอาหารจำนวนกี่ใบ ซึ่งบางร้านก็ใช้ 1 ใบ 2 ใบ หรือ 3 ใบ 

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไปยังสถานีรถไฟอะโสะ : จากสถานีคุมะโมโตะมีรถไฟที่วิ่งตรงไปยังสถานีอะโสะใช้เวลาประมาณ 74 นาที
พิกัด GPS : 
สถานีรถไฟอะโสะ

ภูเขาไฟอะโสะ : ชมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นใหญ่ที่สุดในโลก

มาถึงอะโสะกันแล้วเราอยากให้เพื่อนๆ ได้ลองเดินทางไปชมภูเขาไฟอะโสะอย่างใกล้ชิดกันค่ะ ซึ่งเทือกเขาอะโสะนั้นประกอบไปด้วย 5 ยอดเขา ได้แก่ Nakodake, Takadake, Nakadake(เป็นปล่องเดียวที่ยังคงคุกรุ่น), Eboshidake และ Kishimadake ที่เรียงตัวกันถ้ามองไกลๆ จะเหมือนพระพุทธรูปกำลังนอนอยู่เลยค่ะ ภูเขาไฟอะโสะนั้นเป็นภูเขาไฟที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังคงคุกรุ่นอยู่ การเที่ยวชมอะโสะนั้นมีให้เลือกทั้งแบบทัวร์วันเดย์ทริปที่สามารถเลือกรูทเส้นทางที่จะไป หรือสามารถขับรถเที่ยวเองรอบๆ ภูเขาไฟได้ค่ะ บอกเลยว่าเส้นทางท่องเที่ยวรอบภูเขาไฟอะโสะนั้นงดงามมากๆ ยิ่งถ้ามาในช่วงฤดูหนาวที่ทุ่งหญ้าทั้งสองข้างจะเปลี่ยนเป็นสีทองตัดกับภูเขาเบื้องหน้าที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวก็ทำให้เหมือนเรากำลังขับรถเที่ยวในยุโรปกันเลย และถ้าอยากขึ้นไปชมบนปากปล่องภูเขาไฟอะโสะที่ยอด Nakadake ก็สามารถนั่งรถ shuttle บัสเพื่อขึ้นไปที่ปากปล่องขึ้นไปได้ค่ะ แต่ต้องเป็นช่วงที่ปลอดภัยไม่เกิดการประทุของภูเขาไฟอะโสะนะคะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางไปชมปากปล่องภูเขาไฟอะโสะ : จากสถานีรถไฟอะโสะนั่งรถบัสไปลงป้าย Aso-san Nishi แล้วนั่งรถshuttleบัสเพื่อขึ้นไปที่ปากปล่อง (火口西駅バス停)
พิกัด GPS : Aso-san Nishi 


จังหวัดโออิตะ (Oita)

ถ้าคุณอยากเที่ยวเมืองอนเซ็นน่ารักในญี่ปุ่นเราขอแนะนำจังหวัดโออิตะค่ะ ที่นี่มีที่เที่ยวที่คนไทยรู้จักกันดีอย่างยูฟูอินและเบปปุเมืองออนเซ็นที่จะทำให้เราตกหลุมรักหมดหัวใจ นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวมากมายที่เราจะพาไปทำความรู้จักตามไปเที่ยวกันได้เลย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังโออิตะ

จากสถานีรถไฟฮาคะตะจังหวัดฟุคุโอกะนั่งรถไฟมายังโออิตะประมาณ 2 ชั่วโมง


3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในโออิตะ

ย่านเมืองมาเมดะ (Mamedamachi) : ลิตเติ้ลเกียวโตแห่งเกาะคิวชู

เริ่มต้นสำรวจจังหวัดโออิตะด้วยการมาเดินชมย่านเมืองเก่ามาเมดะ  (Mamedamachi) ที่ตั้งอยู่ที่ฮิตะ การเดินทางนั่งรถไฟมาลงสถานีฮิตะจากนั้นก็เดินเรื่อยๆ จากสถานีมายังย่านมาเมดะได้เลยใช้เวลาประมาณ 20 นาที คุณก็จะพบกับเมืองเก่าอายุกว่า 400 ปีตั้งอยู่ริมแม่น้ำคาเก็ตสึล้อมรอบด้วยภูเขาที่ตั้งตระหง่านโอบกอดเมืองนี้เอาไว้ เมืองมาเมดะนั้นเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ โดยในอดีตเคยรุ่งเรืองเพราะเป็นศูนย์กลางทางการเมืองและเศรษฐกิจของเกาะคิวชู ปกครองโดยรัฐบาลเอโดะโดยตรงเลยค่ะ บรรยากาศในเมืองเลยมีความคล้ายกับเกียวโตและได้รับสมญานามว่าลิ้ตเติ้ลเกียวโตแห่งเกาะคิวชู ซึ่งที่ย่านมาเมดะนั้นมีจุดที่น่าสนใจให้เราได้เข้าเยี่ยมชมมากมาย อาทิ เช่น พิพิธภัณฑ์ตุ๊กตาฮินะ(Tenryo Hina Goten) ซึ่งอยู่ภายในร้านโชยุ Hita Shoyu เกิดจากที่เจ้าของร้านรักการสะสมตุ๊กตาฮินะเป็นงานอดิเรกเลยมีตุ๊กตาฮินะกว่า 4000 ตัวให้ได้ชม ส่วนใครอยากได้รองเท้าเกี๊ยใส่เล่นต้องไปที่ Tenryo Hita Hakimono Museum ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เล่าเรื่องราวรองเท้าเกี๊ยะพร้อมกับมีรองเท้าเกี๊ยะยักษ์ให้เราได้แชะภาพ และมีรองเท้าเกี๊ยะสวยๆ ให้เราเลือกซื้อด้วยค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังย่านเมืองมาเมดะ : สามารถนั่งรถไฟจากสถานีฮากะตะของจังหวัดฟุคุโกอะมายังสถานีฮิตะได้เลยสะดวกกว่าทางโออิตะค่ะ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 88 นาที จากสถานีฮิตะก็สามารถเดินมาย่านมาเมดะได้ประมาณ 20นาที
พิกัด GPS : ย่านเมืองมาเมดะ

 

เมืองยูฟูอิน(Yufuin) : เมืองอนเซ็นสุดน่ารักท่ามกลางอ้อมกอดขุนเขา

ยูฟูอินเมืองอนเซ็นสุดน่ารักที่นักท่องเที่ยวคนไทยรู้จักดี เพราะที่นี่เป็นเมืองที่เราบอกว่ารักได้ตั้งแต่แรกเห็น ฮานะเคยไปเมืองนี้ครั้งแรกประมาณ 10 ปีที่แล้วช่วงที่ยูฟูอินยังไม่บูมมาก แล้วล่าสุดก็เพิ่งไปมาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปนานเท่าไร ยูฟูอินยังคงน่ารักและสวยงามเหมือนเช่นเดิม

การเดินทางสู่ยูฟูอินนั้นเราแนะนำให้พยายามจองรถไฟสายยูฟูอินโนะโมริให้ได้ เพราะเป็นขบวนรถไฟที่สวยมากๆ ออกแบบโดยคุณเอจิ มิโตะโอกะนักออกแบบชื่อดังที่พลิกฟื้นเจอาร์คิวชูให้เป็นสายรถไฟในฝันที่ใครๆ ก็อยากมานั่งสักครั้ง ความตั้งใจของคุณเอจินั้นไม่ได้มองว่ารถไฟเป็นเพียงพาหนะที่นำพาไปสู่จุดหมายปลายทาง แต่เป็นพื้นที่แห่งความสุข สำหรับยูฟูอินโนะโมรินั้นจะใช้สีเขียวตามชื่อของรถไฟที่แปลว่าป่าของยูฟูอิน ภายในใช้งานไม้และผ้าในการออกแบบตกแต่ง ซึ่งเส้นทางที่รถไฟขบวนนี้วิ่งผ่านก็สวยงามมากๆ ค่ะ ทั้งภูเขา ป่าไม้ สายน้ำ แค่ได้นั่งรถไฟขบวนนี้มองวิวสองข้างทางเราก็มีความสุขแล้ว

และเมื่อมาถึงสถานียูฟูอินจุดหมายปลายทางครั้งนี้เราก็ต้องประทับใจตั้งแต่ก้าวออกจากตัวสถานีด้วยภาพภูเขายูฟุที่ออกมาอวดโฉมทักทายพวกเรา และจากสถานีเดินไปยังถนนยูโนะสึโบะ (Yunotsubo Street) บนถนนเส้นนี้จะมีร้านน่ารักมากมายทั้ง ร้านขายของฝาก ร้านคาเฟ่ ร้านขนมสุดอร่อย อย่างร้าน “Milch” ร้านชีสเค้กที่โด่งดังที่ไทยก็มีต้นกำเนิดที่นี่ และยังมีร้าน Yufuin Kinsho Croquette ร้านขายโคโรเกะเนื้อร้านดังที่ชนะรางวัล The Gold Award ก็เป็นร้านสุดฮอตที่คิวยาวมากๆ จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ ไปยังทะเลสาบคิริน ทะเลสาบเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยภูเขาถ้ามาในยามเช้าจะพบกับไอของน้ำพุร้อนที่ลอยขึ้นมาบนทะเลสาบราวกับภาพแห่งความฝันกันเลย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังเมืองยูฟูอิน  : ถ้ามาจากโออิตะมีรถไฟมายังยูฟูอินใช้เวลาเดินทางประมาณ  1 ชั่วโมงค่ะ แต่ถ้าอยากนั่งยูฟูอินโนะโมริก็สามารถนั่งจากสถานีฮากะตะได้โดยจะมีวันละ 2 รอบและขบวนรถยูฟุอีก 3 รอบ แต่ตรวจสอบรอบรถก่อนนะคะ เพราะอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากสภาพอากาศ
พิกัด GPS : เมืองยูฟูอิน


เบปปุ(Beppu) : เมืองอนเซ็นที่ขึ้นชื่อที่สุดของญี่ปุ่น

จากยูฟูอินเดินทางไปแช่อนเซ็นกันต่อยังเมืองเบปปุซึ่งเป็นเมืองอนเซ็นที่ขึ้นชื่อที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งไฮไลท์ของเมืองนี้ก็คือบ่อน้ำร้อนขุมนรก 8 บ่อ ประกอบไปด้วย Umi Jigoku, Oniishibozu Jigoku, Shiraike Jigoku, Kamado Jigoku, Oniyama Jigoku, Chinoike Jigoku, Tatsumaki Jigoku และ Yama Jigoku ที่ได้ชื่อว่าขุมนรกก็เพราะความเดือดพล่านของบ่อแต่ละบ่อและควันสีขาวที่พวยพุ่งออกมาพร้อมกลิ่นกำมะถันก็ทำให้เหมือนขุมนรก แต่บอกเลยว่าเป็นขุมนรกที่สวยงามอีกแล้ว เพราะแต่ละบ่อก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไปค่ะ บางบ่อจะเป็นสีแดงส้ม หรือบางบ่อก็เป็นสีฟ้าใสเช่นที่บ่อ Umi Jigoku เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟสึรุมิประมาณเมื่อ 1200 ปีที่แล้ว อุณหภูมิประมาณ 98 องศาเซลเซียสและว่ากันว่ามีความลึกมากกว่า 200 เมตร สาเหตุที่น้ำในบ่อเป็นสีฟ้าก็เพราะ "ธาตุเหล็กซัลเฟต" จำนวนมากละลายอยู่ในส่วนผสมของน้ำพุร้อน นอกจากนี้ภายในเบปปุยังมีเรียวกังมากมายให้เราได้เลือกพักพร้อมแช่น้ำร้อนที่ช่วยให้ผ่อนคลายอีกด้วย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังเบปปุ  : จากโออิตะมีรถไฟมาเบปปุใช้เวลาเพียง  7-12 นาทีค่ะ จากนั้นก็สามารถนั่งรถบัสที่สถานีหรือรถแท็กซี่เที่ยวบ่อน้ำร้อนต่างๆ ในเมืองได้
พิกัด GPS : เบปปุ 


จังหวัดมิยะซะกิ (Miyazaki)

เดินทางลงมาทางใต้ของเกาะคิวชูกับจังหวัดมิยะซะกิ ซึ่งเป็นเมืองริมฝั่งทะเลมหาสมุทรแปซิฟิก อากาศที่นี่จึงมีความอบอุ่นน่ามาเที่ยวมากๆ ค่ะ บอกเลยว่าที่เมืองมิยะซะกินั้นเป็นอีกเมืองหนึ่งในคิวชูที่น่ามาเที่ยวมากๆ เพราะที่นี่มีที่เที่ยวทางธรรมชาติที่สวยจนตะลึงมากมายเลยค่ะ ตามไปชมกันเลยว่าจะมีที่ไหนบ้าง

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังมิยะซะกิ 
จากฟุคุโอกะสามารถนั่งรถไฟมายังจังหวัดมิยะซะกิได้ใช้เวลาประมาณ  5 ชั่วโมงครึ่ง หรือจะนั่งเครื่องบินในประเทศจากสนามบินฟุคุโอกะมายังสนามบินมิยะซะกิได้ค่ะใช้เวลา 40 นาที


3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในมิยะซะกิ

ช่องเขาทาคาชิโฮ(Takachiho Gorge) : สุดอลังการกับสายน้ำตกที่ไหลจากช่องผา

ถ้านั่งเครื่องมาลงสนามบินฟุคุโอกะสิ่งที่คุณจะได้เห็นก่อนเข้าเมืองนั่นก็คือภาพโฆษณาที่เที่ยวดังๆ ในเกาะคิวชู ซึ่งหนึ่งในนั้นมีภาพของสายน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลลงมาจากช่องผา ตกลงมายังธารน้ำเบื้องล่าง ภาพนี้เป็นภาพแรกที่ทำให้เรารู้จักช่องเขาทาคาชิโฮและบอกบอกกับตัวเองว่าต้องไปที่นี่ให้ได้ ซึ่งพอได้มาชมจริงๆ ภาพที่เห็นด้วยตาตัวเองนั้นสวยงามประทับใจเรามากๆ หุบเขาทะคะจิโฮะนั้นเกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอะโสะเมื่อประมาณแสนกว่าปีทำให้เกิดโตรกธารหินสีดำรูปร่างแปลกตาซึ่งเกิดจากการแข็งตัวของลาวา และไฮไลท์ก็อยู่ที่น้ำตก Manai ซึ่งเป็นน้ำตกที่ติด 1 ใน 100 น้ำตกที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นน้ำตกที่ไหลลงมาจากชะง่อนผาที่สูง 17 เมตรตกลงมายังธารน้ำสีมรกตเบื้องล่าง ซึ่งใครที่อยากไปชมน้ำตกแบบใกล้ชิดก็สามารถเช่าเรือพายไปใกล้น้ำตกได้ค่ะ แต่อย่าใกล้มากนะคะเพราะอาจจะเปียกได้

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังช่องเขาทาคาชิโฮ : มีรถบัสจากคุมะโมโตะมายัง  Takachiho Bus Center วันละ 2 รอบเท่านั้น  ขาไปจากคุมะโมโตะรอบเวลา 9.11 น. และ 15.31 น. ขากลับจาก Takachiho Bus Center เวลา 8.42 และ 16.57 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ดังนั้นจะต้องวางแผนการเดินทางให้ดีๆ ค่ะ  และจาก Takachiho Bus Center ให้นั่งแท็กซี่มาที่ ช่องเขาทาคาชิโฮใช้เวลาประมาณ 5 นาทีหรือเดินมาก็ได้ค่ะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง

พิกัด GPS : ช่องเขาทาคาชิโฮ 


ศาลเจ้าอาโอชิมะ(Aoshima Shrine) : ศาลเจ้าแห่งความรัก

มาขอพรเรื่องความรักกันไหมคะที่ศาลเจ้าอาโอชิมะ(Aoshima Shrine) ที่ตั้งอยู่บนเกาะอาโอะชิมะ ซึ่งเราต้องเดินข้ามสะพานยาโยอิข้ามทะเลไปยังเกาะ และช่วงไหนที่น้ำลงจะปรากฏแนวหินที่เรียงกันเป็นเส้นซึ่งเกิดจากการกัดกร่อนของคลื่นทะเลมานับแสนปี และด้วยการจินตนาการที่กว้างไกลของคนญี่ปุ่นเลยเรียกแนวหินนี้ว่า “Devil’s Washboard” หรือ “กระดานซักผ้าของยักษ์”หลังจากนั้นพอเดินลอดประตูโทริอิสีแดงมาก็จะได้พบกับศาลเจ้าอาโอชิมะที่เชื่อกันว่าถ้าได้มาขอพรเรื่องความรักที่นี่จะสมหวังแน่นอนค่ะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางมายังศาลเจ้าอาโอชิมะ : นั่งรถไฟ JR Nichinan Line จากสถานีมิยะซะกิมายังสถานีอาโอชิมะ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
พิกัด GPS : ศาลเจ้าอาโอชิมะ 


โอบิ (Obi Castle Town) : เมืองแห่งความสุขอย่าพลาดกับการลิ้มรสเนื้อมิยะซะกิที่นุ่มละลายในปาก

มาสัมผัสความสุขจากภูเขาและท้องทะเลกันที่เมืองโอบิ เมืองเก่าที่เหมาะกับการมาเดินเล่นมากๆ ค่ะ ซึ่งที่นี่มีบ้านซามูไรมากมายให้เราได้เข้าไปเยี่ยมชม เหมือนกำลังย้อนไปในยุคอดีต บริเวณท่อระบายน้ำทั่วเมืองก็จะได้พบกับน้องปลาคาร์พสีสันสดใสมากมาย นอกจากนี้ยังมีปราสาทโอบิซึ่งถึงแม้ตัวปราสาทจะไม่มีแล้วแต่ภายในปราสาทมียังป่าต้นสนที่เป็นเหมือนจุด Power spot ที่ให้เรามาอ้าแขนโอบกอดความสุขที่นี่กันค่ะ

เดินเล่นกันจนเพลินแล้วเราขอแนะนำว่าไปทานเนื้อวัวมิยะซะกิกันไหมคะ ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของเมืองมิยะซะกิ ที่โอบินี้ก็มีร้านเนื้อมิยะซะกิให้เราได้ลิ้มลอง ขอแนะนำร้าน“Bukeyashiki Itotei” ที่มีอาหารเซ็ตสไตล์ญี่ปุ่นชุดเนื้อสไลด์มิยาซากิ ซึ่งการทานเนื้อมิยะซะกิให้อร่อยนั้นมีให้เลือก 3 วิธี วิธีแรกจิ้มแค่เกลือกับวาซาบิดองแล้วลิ้มรสรสชาติเนื้อนุ่มๆ อร่อยฟินมากๆ หรือจะสั่งมาเป็นเซ็ตข้าวที่เขาจะเสิร์ฟมาพร้อมไข่แดงดิบ สาหร่าย และซอสรสหวาน วิธีกินก็นำเนื้อไปโปะบนข้าว โรยด้วยสาหร่ายและไข่แดงดิบ ราดด้วยซอสโอยยยฟินสุดๆ วิธีสุดท้ายทานแบบ Ochazuke หรือข้าวราดน้ำชา เอาเนื้อและสาหร่ายไปโปะบนข้าวสวยร้อนๆ แล้วราดซุปจากกาลงไป อร่อยจนน้ำตาไหลเลยทีเดียว

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางมายังเมืองโอบิ : แนะนำให้นั่งสรถไฟท่องเที่ยว Umisachi Yamasachi มาลงที่สถานี Obi  ซึ่งรถไฟขบวนนี้มีความหมายว่าความสุขของทะเล และ ความสุขของภูเขา ซึ่งส่วนหน้าขบวนนั้นจะถูกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยลายทะเล และส่วนท้ายขบวนจะถูกตกแต่งด้วยลายภูเขา ซึ่งระหว่างที่เรานั่งเราก็จะได้พบความสวยงามทั้งวิวทะเลและภูเขาเป็นที่มาของชื่อขบวนรถไฟขบวนนี้ค่ะ

พิกัด GPS : เมืองโอบิ


จังหวัดคะโงะชิมะ (Kagoshima)

เดินทางมาถึงจังหวัดสุดท้ายแล้วนะคะกับจังหวัดคะโงะชิมะจังหวัดที่อยู่ใต้สุดของเกาะคิวชู ตามไปชมกันค่ะว่าจังหวัดนี้จะมีไฮไลท์เด็ดๆ อะไรบ้าง

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางมายังคะโงะชิมะ

นั่งรถไฟชินกันเซ็นจากฟุคุโอกะมายังคะโงะชิมะใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่ง

3 ไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดในคะโงะชิมะ (Kagoshima)

Ibusuki : มานอนแช่ตัวในอนเซ็นบ่อทรายชมวิวทะเล

แช่อนเซ็นในน้ำร้อนมันธรรมดาไป กับเมืองริมทะเลแบบนี้ก็ต้องแช่ด้วยทรายสิ ใครอยากมาสัมผัสประสบการณ์การแช่อนเซ็นบ่อทราย (Saraku Sand Bath) ต้องมาที่เมืองอิบุซึกิกันค่ะ โดยวิธีแช่อนเซ็นเขาจะให้เราถอดเสื้อผ้าหมด แล้วสวมชุดยูกาตะที่เขาเตรียมให้จากนั้นก็เลือกเลยว่าจะไปนอนแช่แบบอินดอร์ หรือเอาท์ดอร์ โดยเวลาแช่จะอยู่ที่ประมาณ 10-15 นาทีค่ะ ซึ่งอนเซ็นจากทรายนั้นจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางไปยังอิบุซึกิ : เราสามารถนั่งรถไฟ Ibutama จากสถานี Kagoshima-Chuo ได้ ใช้เวลาเพียง 55 นาที
พิกัดGPS : สถานีอิบุซึกิ
 

ชิโรคุมะ (Shirokuma) : น้ำแข็งใสสีขาว รูปเจ้าหมีขาวตัวน่ารัก

หลังจากแช่ตัวด้วยทรายกันแล้วก็มาเติมความสดชื่นกับน้ำแข็งใสพี่หมีสีขาวชิโรคุมะ (Shirokuma) ที่ร้าน Mujaki ซึ่งมีประวัติยาวนานกว่า 71 ปี โดยเมนูของทางร้านทำเป็นรูปหมีสุดน่ารักที่มองจากด้านบนจะเป็นรูปหมีสีขาวค่ะ รสชาติหวานเย็นชื่นใจ และเนื่องด้วยมาตรการโควิดทางร้านยังจัดโต๊ะแบบ Social distancing แต่ไม่ต้องกลัวเหงาค่ะเพราะมีตุ๊กตาพี่หมีสีขาวตัวใหญ่ที่มานั่งเป็นเพื่อนเราด้วย

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะการเดินทางไปร้าน Mujaki : ตัวร้านตั้งอยู่ในเมืองคะโงะชิมะค่ะสามารถนั่งรถรางมาลงสถานี Temmonkandori แล้วเดินมายังร้านได้

พิกัด GPS : ร้าน Mujaki 

สวน Sengan-en : สวนญี่ปุ่นสวยๆ ที่มีฉากหลังเป็นทะเลและภูเขาไฟ

ที่สุดท้ายเราจะพาเพื่อนๆ ไปนั่งชมสวนสวยญี่ปุ่นที่มีฉากหลังเป็นทะเลและภูเขาไฟกันที่ สวน Sengan-en เป็นอีกหนึ่งสวนที่สวยมากๆ ตัวสวนนั้นตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองคะโงะชิมะเท่าไรนั่งรถบัสไปได้เพียง 20 นาที พอมาถึงเราก็จะได้พบกับความสวยงามของสวนสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่ฉากหลังจะเป็นภูเขาไฟ Sakurajima ซึ่งยังคุกรุ่นและอ่าว Kinko ราวกับว่าเป็นส่วนหนึ่งของสวนแห่งนี้เลยค่ะ ภายในสวนยังมีบ้านโบราณของตระกูลชิมัทสึ  ตระกูลผู้ปกครองจังหวัดคาโกชิมะที่สร้างพร้อมกันกับสวนและยังคงสภาพเดิมเอาไว้ได้อย่างงดงาม อ๊ะแล้วใครเป็นทาสแมวอย่าลืมเดินไปไว้ศาลเจ้าแมวโดยจะต้องเดินลึกจากตัวสวนเข้าไปอีกค่ะ ให้เทพเจ้าแมวช่วยคุ้มครองให้เรามีสุขภาพดีกันนะคะ

คู่มือเที่ยวเกาะคิวชู ญี่ปุ่น เช็คอิน เที่ยว กิน ฟินรอบเกาะ

การเดินทางไป สวน Sengan-en : การเดินทางนั่งรถบัส 20 นาทีจากสถานี JR Kagoshima-chuo และลงที่ป้าย Sengan-en Mae
พิกัด GPS : สวน Sengan-en 


แคมเปญคิวชู x ชิลไปไหน
การท่องเที่ยวคิวชูร่วมกับชิลไปไหน ทำกิจกรรม "บอกเราหน่อย อยากไปเที่ยวที่ไหนในคิวชู"
กติกาขั้นตอนการร่วมสนุก
หลังจากอ่านบทความ "คิวชู x ชิลไปไหน" บอกเราว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน เมื่อไหร่ เพราะอะไร ในคิวชู ร่วมทำกิจกรรมที่นี่


เรื่องเที่ยวของใครโดนใจกรรมการรับรางวัลไปเลย
1.รางวัลที่ 1 JR Kyushu Rail pass (Northern Area) 3 วัน มูลค่า 9,500 เยน จำนวน 3 รางวัล รางวัลละ 1 ใบ
2.รางวัลที่ 2 ที่พักใกล้สถานี Hakata จังหวัด Fukuoka จำนวน 1 คืน มูลค่า 9,000 เยน จำนวน 5 รางวัล รางวัลละ 1 ท่าน
ร่วมสนุกได้ตั้งแต่ 1 ก.พ 2564 ถึง 15 มีนาคม 2564 (สิ้นสุดการร่วมกิจกรรมเวลา 22.00 น. ของวันที่  15 มีนาคม 2564)
ประกาศผลโดยการคัดเลือกคำตอบที่โดนใจกรรมการที่สุดในวันที่ 18 มีนาคม 2564 เวลา 17.00 น. หน้าเพจเฟสบุ๊คการท่องเที่ยวคิวชู 
https://www.facebook.com/onsenislandkyushuth


ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคิวชูได้ที่
การท่องเที่ยวคิวชู (Kyushu Tourism Promotion Organization)
- https://th.welcomekyushu.com/journey-through-kyushu/
- https://www.facebook.com/onsenislandkyushuth



เขียนโดย
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
close