bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เปรียบเทียบวัคซีนโควิด-19 ทั้ง 3 ชนิด ที่กำลังจะถูกนำมาใช้

calendar_month 07 ม.ค. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 8,613 / ข่าวท่องเที่ยว

มาทำความรู้จักกลุ่มประเภทของวัคซีน โควิด-19 ที่กำลังจะถูกนำมาใช้ โดย ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ข้อมูลเปรียบเทียบวัคซีนทั้ง 3 ชนิด ที่ได้รับอนุมัติให้ใช้แล้ว รวมทั้งข้อดี ข้อเสีย ของแต่ละชนิด ไว้ดังนี้


วัคซีนมีหลายชนิด ขณะนี้ที่อนุญาตให้ใช้ในมนุษย์ในภาวะปกติและฉุกเฉินที่ผ่านการทดลองมี 3 กลุ่ม

1.mRNA วัคซีน เช่น วัคซีนของบริษัท Pfizer, Moderna

วัคซีนชนิดนี้จะเป็น mRNA ที่ถูกห่อหุ้มด้วย Lipid Nanoparticle เมื่อฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อ Particle จะเข้าสู่ เซลล์กล้ามเนื้อ mRNA จะถูกถอดออกใน Cytoplasm หรือของเหลวในเซลล์ แล้ว mRNA จะเข้าสู่ Ribosome ทำการสร้างโปรตีนตามรูปแบบที่กำหนด messenger RNA ดังนั้น RNA ที่ใส่เข้าไปจะต้องมี Cap, 5’ UTR, Spike RNA, 3’UTR และ Poly A tail อยากให้พวกเราสนใจวิทยาศาสตร์ จะเข้าใจง่ายขึ้น ในรูปแบบที่กล่าวถึงโรงงาน Ribosome จะสร้างโปรตีนตามกำหนดและส่งผ่านออกทาง Golgi ออกสู่นอกเซลล์ โปรตีนที่สร้างออกมาจะเป็นแอนติเจนไปกระตุ้นร่างกายสร้างแอนติบอดีที่เป็นภูมิต้านทานต่อโรคโควิด-19

ข้อดี

  • ทำได้ง่ายและเป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็วเพราะทำในโรงงาน กระตุ้นภูมิต้านทานได้สูง

ข้อเสีย

  • อยู่ที่ว่า RNA สลายตัวได้ง่าย เก็บที่อุณหภูมิต่ำมากๆ
  • วัคซีนชนิดนี้เป็นชนิดแรกที่ใช้ในมนุษย์ อาการข้างเคียงหลังฉีดพบได้บ่อยกว่าวัคซีนที่ทำโดยชนิดเก่า เช่นมีไข้ ปวดเมื่อย และผลระยะยาวคงต้องรอการศึกษาต่อไปเช่นติดตามเป็นปีหรือหลายปี



2. ไวรัส Vector (ของอังกฤษ AstraZineca และรัสเซีย Spuknic V)

วัคซีนนี้จะใช้วิธีการเอาสารพันธุกรรมของไวรัสใส่เข้าไปในไวรัสที่จะเป็น Vector หรือตัวฝากนั่นเองที่ใช้อยู่เป็น Adenovirus, Vesicula stomatitis virus ไม่ก่อโรคในคน การใส่เข้าไปเข้าใจว่าเป็น cDNA ของโควิด-19 เพื่อให้ไวรัส Vector ส่งสารพันธุกรรมของโควิด-19 เข้าไปในเซลล์มนุษย์ เมื่อเข้าไปแล้วไวรัสจะถอดรูปพันธุกรรมที่ส่งเข้าไป จะต้องเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์เพื่อลอกแบบและเปลี่ยนให้เป็น mRNA ออกมาในไซโตพลาสซึม แล้วส่วนของ mRNA จะไปที่ Ribosome เพื่อทำการสร้างโปรตีนตามรูปแบบที่กำหนดไว้คือ Spike โปรตีน ส่งผ่านออกมาทาง Golgi ออกนอกเซลล์เช่นเดียวกับ mRNA โปรตีนที่ส่งออกมาจะทำหน้าที่เป็นแอนติเจนกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อเชื้อโควิค 19

ข้อดี

  • ผลิตได้จำนวนมากได้ง่ายเพราะทำจากโรงงานเป็น DNA จะมีความคงทนกว่า จึงสามารถเก็บได้ในอุณหภูมิ 2-8 องศา ราคาจะถูกเพราะทำได้จำนวนมาก

วัคซีนนี้เป็นชนิดใหม่เช่นเดียวกัน ผลระยะยาวจึงยังไม่ทราบและจะต้องคำนึงอีกประการหนึ่งคือขั้นตอนที่ผ่านนิวเคลียสของเซลล์ เราไม่ทราบว่าจะมีการรวมตัว Integrate กับ DNA ของมนุษย์หรือไม่ หวังว่าคงไม่ ผลระยะยาวก็คงต้องติดตามต่อไป


3.วัคซีนเชื้อตาย (ของจีน Sinovac, Sinopharm)

วิธีการผลิตจะใช้หลักการกับวัคซีนที่ทำมาแต่ในอดีตเช่น วัคซีนตับอักเสบเอ  วัคซีนโปลิโอ พิษสุนัขบ้าและอื่นๆอีกหลายชนิด นักวิทยาศาสตร์จะใช้เชื้อโควิด-19 เพาะเลี้ยงบน Vero cell เซลล์ชนิดนี้ใช้ทำวัคซีนหลายชนิดเช่นวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าและใช้กันมานานมาก อย่างที่เราฉีดวัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า เมื่อเพาะได้จำนวนไวรัสจำนวนมากก็จะเอามาทำลายฤทธิ์หรือฆ่าเชื้อให้ตายแล้วนำมา Formulation ใส่สารกระตุ้นภูมิต้านทาน

ข้อดี

  • วิธีการทำเป็นวิธีที่เรารู้กันมาแต่โบราณ ในเรื่องความปลอดภัย เป็นเชื้อตายสามารถให้ในคนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้ ภูมิคุ้มกันต่ำ เชื้อไม่ไปเพิ่มจำนวน การกระตุ้นภูมิต้านทานจะได้ระดับต่ำกว่าวัคซีนที่กล่าวมาจากข้างต้น

ข้อเสีย

  • การผลิตจำนวนมากจะทำได้ยาก เพราะไวรัสชนิดนี้เป็นไวรัสก่อโรคจะต้องเพาะเลี้ยงในห้องชีวนิรภัยระดับสูง ต้นทุนในการผลิตจะมีต้นทุนสูง เราจะเห็นว่าวัคซีนไวรัสตับอักเสบ เอไม่สามารถลดราคาลงให้ถูกลงได้ ในทำนองเดียวกันการผลิตจำนวนมากของวัคซีนโควิด-19 ชนิดเชื้อตายก็จะมีขีดจำกัด


ขอบคุณข้อมูลจาก : นพ.ยง ภู่วรวรรณ

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close