ทริปเติมพลังใจ เที่ยวเขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน นอนเต็นท์หรู เช็คอินคาเฟ่ งบไม่แพงเที่ยวได้ครบ!
- สกู๊ป > ทริปตัวอย่าง โพสเมื่อ : 7/07/2563
ได้เวลาพาตัวเองไปสูดอากาศบริสุทธิ์ ไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ กันแล้ว สุดสัปดาห์นี้เรากับเพื่อนตัวแสบปักหมุดไปเที่ยวเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา จังหวัดที่อากาศดีใช้ระยะเวลาเดินทางจากกรุงเทพแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ก็จะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย แถมยังมีแหล่งธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ด้วย จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือการเช็คอินที่พักสุดเก๋ ตะลุยถ่ายรูปตามคาเฟ่และพิกัดท่องเที่ยวสุดฮิป ถ้าอยากรู้ว่ามีที่ไหนบ้างนั้นเก็บกระเป๋าแล้วตามไปเที่ยวพร้อมๆ กันเลย
DAY 1
เติมน้ำมันเต็มถังก็ได้เวลาเดินทางกันแล้ว ทริปนี้พวกเราใช้รถส่วนตัวนะคะ ทานอาหารเช้าที่บ้านแล้วก็ออกเดินทางตอน 9 โมงเช้า ประมาณสองชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึงเขาใหญ่แล้วค่ะ โดยจุดหมายแรกที่เราแวะไปคือ น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง (บ่อน้ำผุดปากช่อง) ตั้งอยู่ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นบ่อน้ำขนาดกลางที่มีน้ำผุดออกมาโดยธรรมชาติ ซึ่งน้ำที่ผุดขึ้นมานั้นคือน้ำฝนที่ตกไปอยู่ในใต้ดินทำให้ได้รับการกรองจากก้อนหินที่มีแคลเซียมคาร์บอเนตสูง เกิดเป็นด่าง น้ำในบ่อจึงมีความใสและมีสีฟ้าอมเขียวคล้ายกับสระมรกตที่กระบี่นั่นเอง
ไฮไลท์ของที่นี่นอกจากสีสันของน้ำที่สวยงามแล้ว ตัวบ่อจะเป็นชั้นที่ลดหลั่นกันไป อีกทั้งยังมีการสร้างฝายกันน้ำเป็นน้ำตกให้นักท่องเที่ยวอย่างเราๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ ท่ามกลางบรรยากาศที่ร่มรื่นเพราะโอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาคอยปกคลุม บอกเลยว่าเป็นที่เที่ยวเขาใหญ่ที่เหมาะแก่การมาพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติจริงๆ
น้ำพุธรรมชาติบ้านท่าช้าง (บ่อน้ำผุดปากช่อง)
ที่ตั้ง : ซอยโยธาธิการ ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/tuzaxwTGFN3hUpBq7
ชื่นชมธรรมชาติกันพอประมาณ เกือบบ่ายโมงเราก็แวะไปเติมพลังที่ ชนบท Cafe’ เขาใหญ่ อยู่ติดถนนธนะรัชต์ (ถนนเส้นเดียวกันกับเส้นขึ้นเขาใหญ่) เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ดีไซน์สวยรายล้อมด้วยบรรยากาศเขียวขจีของต้นไม้น้อยใหญ่ที่ประดับรายล้อมรอบร้าน แถมด้านหลังร้านยังเป็นส่วนที่พักที่ขนาบด้วยทุ่งหญ้าขนาดย่อม ฉากหลังเป็นวิวภูเขากลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม ซึ่งหากไม่ได้เข้าพักก็สามารถเข้าไปเดินเล่นได้ เรียกว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การมาทานอาหาร จิบเครื่องดื่ม และถ่ายรูปกันแบบเก๋ๆ
ในส่วนของคาเฟ่และร้านอาหารตัวอาคารจะตั้งอยู่ด้านหน้ามีพุ่มไม้ประดับสีเขียวปกคลุมอยู่ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นเลือกใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหลัก แบ่งที่นั่งหลากหลายโซนทั้งที่นั่งด้านในแบบห้องแอร์และด้านนอกเป็นแบบโอเพนแอร์ มองเห็นวิวทิวเขาชัดเจน
สำหรับมื้อนี้พวกเราสั่งอาหารจานเดียวง่ายๆ มาทาน เริ่มกันที่ข้าวกะเพราหมู เมนูธรรมดาที่ทางร้านนำหมูมาผัดคลุกเคล้ารสชาติด้วยเครื่องแน่นๆ อย่างกระเทียม พริก ใบกะเพราให้รสหอมกลมกล่อม อร่อยแบบเต็มคำ
อีกจานนึงเพื่อนเราสั่งยำหมูสับต้นอ่อนทานตะวันที่ทางร้านนำหมูสับมาผสมกับน้ำยำให้รสชาติจัดจ้านกลมกล่อมแบบไทยๆ อีกทั้งยังจัดเต็มกับวัตถุดิบอย่างต้นอ่อนทานตะวัน ตัดรสชาติให้จานนี้ลงตัวมากยิ่งขึ้น
อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาเคลียร์ค่าใช้จ่ายและไปถ่ายรูปเล่นที่ทุ่งหญ้าด้านหลังแล้วค่ะ สนนมื้อนี้พวกเราจ่ายไป 262 บาทเท่านั้นเอง และอย่างที่บอกไปตอนต้นว่าร้านชนบท Cafe’ เขาใหญ่ บรรยากาศดีมีมุมเก๋ให้ได้ถ่ายรูปสวยเยอะมาก โดยเฉพาะสะพานทางเดินไม้ที่มองเห็นวิวภูเขาอยู่เบื้องหน้า
ชนบท Cafe’ เขาใหญ่
ที่ตั้ง : บ้านเขาแคบ ถนนธนะรัชต์ กม.9 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0930945415
GPS : https://goo.gl/maps/8hDEDs5H3BsyMqju8
บ่ายสามนิดๆ ก่อนจะเข้าที่พักเราก็ขอแวะมาแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของเขาใหญ่กับพุทธอุทยาน อาณาจักรหลวงพ่อทวด เขาใหญ่ บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งที่นี่มีองค์หลวงปู่ทวด พระเกจิอาจารย์ที่มหาชนเคารพศรัทธา โดยนับเป็นองค์หลวงปู่ทวดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงถึง 59 เมตร หน้าตักกว้าง 40 เมตร เป็นเนื้อปูนปั้นสีทองอร่ามโดดเด่นท่ามกลางขุนเขาเขียวขจี สร้างความเลื่อมใสศรัทธาให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
นอกจากมีหลวงปู่ทวดให้สักการะขอพรแล้วภายในพื้นที่ยังมีองค์พระนารายณ์ทรงครุฑ และองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่ แต่ละองค์ล้วนมีศิลปะเฉพาะตัว สีสันสวยงาม ควรค่าแก่การมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลมากๆ แถมบรรยากาศยังสวยงาม มีสวนดอกไม้และต้นไม้ร่มรื่น นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาและสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีความงดงามทั้งศิลปวัฒนธรรมและธรรมชาติอย่างแท้จริง
หลวงพ่อทวดเขาใหญ่ องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่ตั้ง : ถ.ธนะรัชต์ กิโลเมตร ที่ 12 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 07.00 - 18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0892222282
GPS : https://goo.gl/maps/c8XVcpjEEvaeorDW6
หลังจากการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลกับชีวิตแล้ว เราก็มุ่งตรงไปยังที่พักที่เราจองไว้ นั่นก็คือ ลาลา มูก้า เต้นท์ รีสอร์ต เขาใหญ่ (Lala Mukha Tented Resort Khao Yai) ที่พักสุดชิลท่ามกลางธรรมชาติซึ่งที่นี่เป็นหนึ่งในโลเคชันถ่ายทำละครฮิตอย่างอกเกือบหักแอบรักคุณสามีด้วยนะ การเดินทางมาที่นี่ถ้าขับรถส่วนตัวมาเองให้ใช้ถนนธนะรัชต์ ขับเลยปาลิโอเขาใหญ่มา จะพบสามแยกกุดคล้าและเลี้ยวขวาทางที่จะไปมวกเหล็ก จากนั้นขับมาประมาณ 200-300 เมตรก็จะพบที่พักแล้วค่ะ ส่วนใครที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งรถประจำทางมาลงตัวเมืองปากช่องโดยจะมีรถรับส่งจากตัวเมืองปากช่องมายังที่พักวันละ 2 รอบคือรอบเวลา 11.30 น. และ เวลา 14.30 น.
เมื่อเดินเข้ามาบริเวณล็อบบี้ก็รู้สึกตื่นตากับการตกแต่งสไตล์ซาฟารีที่โอบล้อมด้วยทิวเขาท่ามกลางธรรรมชาติจริงๆ เลยล่ะค่ะ สอบถามพนักงานถึงความหมายของชื่อรีสอร์ทก็ได้คำตอบว่าลาลา มูก้า แปลว่าผ่อนคลาย มาจากภาษาของชนเผ่าในแอฟริกาใต้ การตกแต่งของรีสอร์ทจะเน้นให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติทั้งสีสันและวัสดุที่นำมาใช้ การมาพักผ่อนที่นี่จึงเป็นการเข้าพักสไตล์ซาฟารี ในรูปแบบ Glamping ซึ่งก็คือการเข้าไปอยู่ในถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัตว์ แต่ยังเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากกว่าการไปแคมป์ปิ้งในรูปแบบปกติทั่วไปนั่นเอง
ที่พักของที่นี่เขาจะมี 3 แบบคือ Eco Safari Tents เต็นท์แบบห้องน้ำรวมจำนวน 18 หลัง, Deluxe Savana Tents เต็นท์ห้องน้ำส่วนตัวจำนวน 9 หลัง และ Loft Tree House บ้านบนต้นไม้จำนวน 4 หลัง ทริปนี้ของเราจองเต็นท์แบบ Eco Safari Tents ผ่าน agoda มาในราคา 2,500 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่จะพาเรานั่งรถกอล์ฟเพื่อเข้าไปยังโซนห้องพักผ่านระบบประตูอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้เข้าพัก
เต็นท์ที่เราพักจะเป็นแบบใช้ห้องน้ำรวมนะคะ แต่ละเต็นท์จะตั้งเป็นกลุ่มล้อมรอบลานแคมป์ไฟ สามารถพักได้ 2 ท่านและเสริมเพิ่มได้ 1 ท่าน สิ่งอำนวยความสะดวกภายในเต็นท์มีทั้ง ทีวี แอร์ ตู้เย็น และยังมี มินิบาร์และของว่างที่ทางรีสอร์ทจัดเตรียมไว้ให้ทานฟรีทั้งหมดเลยคะ ส่วนของใช้ส่วนตัวภายในห้องมีให้ครบครันแทบจะไม่ต้องนำอะไรมาเลยคะ
ถึงไม่มีห้องน้ำในตัวแต่ก็ยังสพดวกสบายนะคะ เพราะห้องน้ำรวมอยู่ไม่ไกลเต็นท์เลย แถมยังแยกฝั่งหญิงชาย และแยกโซนแห้งและเปียกไว้อย่างชัดเจน ภายในสะอาดสะอ้าน มีไดร์เป่าผม แชมพู ครีมอาบน้ำพร้อมเลยค่ะ
หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว เรากับเพื่อนก็ออกไปเดินเล่นชมวิวเรื่อยๆ ก่อนจะไปหยุดผ่อนคลายด้วยการว่ายน้ำชมวิวภูเขาที่สระว่ายน้ำส่วนกลางสวยงามประทับใจมากๆ
ว่ายน้ำกันไปสักพักพวกเราก็รีบไปอาบน้ำ เพราะถึงเวลาดินเนอร์แล้วค่ะ มื้อนี้พวกเราตัดสินใจฝากท้องที่ Jabulani ร้านอาหารหนึ่งเดียวภายในรีสอร์ท ตัวร้านอาหารจะแบ่งเป็นสองโซนค่ะ คือโซนห้องแอร์ และโซนเอาท์ดอร์ ที่มีวิวภูเขาล้อมรอบให้ชมกันแบบฟินๆ ซึ่งเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 7.00-21.30 น. ในวันอาทิตย์-วันพฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์-วันเสาร์ เปิดตั้งแต่เวลา 7.00-22.00 น. ให้บริการกับทั้งกับลูกค้าที่พักภายในรีสอร์ทและลูกค้าทั่วไป เพราะฉะนั้นใครที่ไม่ได้พักที่นี่ก็สามารถมานั่งทานอาหารได้เลยค่ะ แค่ได้นั่งทานอาหารชมวิวชิลๆ ของที่นี่ก็คุ้มแล้วล่ะค่ะ
ที่นี่เขามีเมนูให้สั่งมากมายทั้งอาหารไทยและอาหารต่างชาติ เมนูที่เราสั่งมาทานในวันนี้ได้คือ ข้าวผัดเนื้อเค็มไข่ดาว ข้าวผัดรสชาติไทยๆ อร่อยด้วยเนื้อเค็มที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ทอดกรอบ ทานกับไข่ดาวอร่อยมากๆ และสปาเก็ตตี้ปลาสลิด รสชาติจัดจ้าน มีเนื้อปลาสลิดทอดเหลืองกรอบ เป็นการผสมผสานอาหารอิตาเลียนและอาหารไทยเข้ากันได้อย่างดี หมดค่าเสียหายมื้อนี้ไป 320 บาท
วันที่พวกเราเขาพักตรงกับเทศกาลวันหยุดพอดี ทางที่พักได้มีการจัด Boma Drink โดยเนรมิตรบริเวณแคมป์ไฟให้กลายเป็นสถานที่นั่งจิบเครื่องดื่มสุดโรแมนติก มีบีนแบ็กให้เอนกายนอนชมดาว หรือจะมานั่งมองตาสวีตกับคู่รักก็โรแมนติกมากๆ เลยค่ะ ใครที่อยากจะมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้มาได้ในช่วงวันหยุดตามเทศกาลหรือโทรสอบถามกับทางที่พักได้เลยค่ะ
DAY 2
เช้าวันใหม่เราตื่นมาสัมผัสอากาศเย็นๆ ยามเช้าและหมอกขาวที่เข้ามาปกคลุม ก่อนจะลุกไปอาบน้ำแต่งตัว เก็บของ ทานอาหารเช้าและทำการเช็คเอ้าท์
สำหรับอาหารเช้าจะพร้อมบริการที่ห้องอาหาร Jabulani เป็นแบบเซ็ตมีให้เลือกสั่งมากมายทั้งชุดอเมริกันเบรคฟาสท์ หรือใครจะสั่งผัดไทยมาทานยามเช้าก็สั่งได้เลย นอกจากนี้ยังมีชา กาแฟ โยเกิร์ต นม คอนเฟลก น้ำผลไม้ ผลไม้สด แพนเค้ก ให้ทานกันอย่างไม่อั้นอีกด้วย
ลาลา มูก้า เต้นท์ รีสอร์ต เขาใหญ่
ที่ตั้ง : 515 หมู่ 5 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ราคา : เริ่มต้น 2,835 - 9,600 บาท
โทร : 044300691
เว็บไซต์ : http://lalamukha.com
เมื่ออิ่มท้องและเช็คเอ้าท์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็ได้เวลาออกเดินทางแล้วค่ะ สำหรับแพลนวันนี้คือท่องเที่ยวใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เริ่มต้นที่น้ำตกเหวนรก น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดของอุทยานฯ เลยก็ว่าได้ เพราะมีสายน้ำไหลตกลงจากผา อีกทั้งยังมีความสูงชันราว 90 องศา ถึง 3 ชั้นใหญ่ๆ ด้วยกัน โดยชั้นแรกมีความสูงประมาณ 60 เมตร และไหลลงไปสู่ผาน้ำตกชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 มีความสูงรวมกันกว่า 100 เมตร ตกลงสู่หุบธารที่ขนาบด้วยผาสูงชัน ทำให้มีปริมาณของน้ำมากมายมหาศาล เมื่อเมื่อสายน้ำไหลตกลงกระทบแผ่นผาเบื้องล่างจึงเกิดเสียงดังสนั่น ก้องไปทั้งหุบเขา และเกิดละอองไอลอยคลุมไปทั่วบริเวณนั้น ดูลึกลับน่าเกรงขาม จนผู้คนขนานนามว่า 'น้ำตกเหวนรก' นั่นเอง ส่วนการการเดินทางไปน้ำตกเหวนรกนั้นเพื่อนๆ ต้องเดินเท้าเข้าไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางจะพบกับธรรมชาติที่สวยงาม เดินไปเรื่อยๆ จนไปถึงน้ำตกชั้นที่ 1 จากชั้นนี้จะมีทางเดินลงไปจุดชมทิวทัศน์ในบริเวณชั้นที่ 2 เป็นบันไดทางเดินลงสูงชันระยะประมาณ 100 เมตร ก็ถึงจุดชมวิวน้ำตกเหวนรกแล้วจ้า
น้ำตกเหวนรก (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)
ที่ตั้ง : ตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 - 17.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 08 6092 6529 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
GPS : https://goo.gl/maps/nPg4YAeGHy3po7p36
จากน้ำตกเหวนรก พวกเรามูฟออนไปต่อที่ หอดูสัตว์หนองผักชี (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ได้สมญานามว่าภัตตาคารของสัตว์ป่า พื้นที่ลึกเข้าไปจะมีหอดูสัตว์เป็นอาคารสูงตั้งอยู่จุดเด่นคือสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้โดยรอบ สำหรับการท่องเที่ยวจุดนี้นักท่องเที่ยวต้องจอดรถที่บริเวณกิโลเมตร 35 ถนนธนะรัชต์และเดินเท้าผ่านทุ่งหญ้ากว้างใหญ่เข้าไประยะทาง 900 เมตร ใช้เวลาเดินประมาณ 30 นาที ระหว่างทางนอกจากจะได้ใกล้ชิดธรรมชาติสีเขียวขจีแล้วยังมีโอกาสได้พบเห็นสัตว์ป่าอย่าง ช้าง กวาง หมูป่า และกระทิง ที่มักจะลงมากินดินที่โป่งเทียมและกินน้ำที่แหล่งน้ำด้วยนะ
หอดูสัตว์หนองผักชี (อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)
ที่ตั้ง : ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 - 18.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0860926529 (ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว)
GPS : https://goo.gl/maps/CrDMsk25YJJ6bRpz6
หลังจากสัมผัสธรรมชาติกันแบบจุใจแล้ว ตกบ่ายเราก็ขับรถออกมาหาก๋วยเตี๋ยวทานง่ายๆ หน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมดค่าเสียหายไป 104 บาท จากนั้นก็เปิด GPS มุ่งตรงไปยัง TARA CAFE' Khaoyai (ธารา คาเฟ่ เขาใหญ่) คาเฟ่สุดชิลริมน้ำ ถ้ามาจากถนนมิตรภาพ ขับรถเลยวัดขนงพระใต้มานิดเดียวก็ถึงแล้วจ้า
ตัวร้านตั้งอยู่ในที่พักบ้านหนึ่งธารา เขาใหญ่ เป็นร้านอาหารกึ่งโฮมคาเฟ่ ที่ดูเข้าถึงง่าย ไม่เป็นทางการ ไม่ว่าจะมากันแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อนหรือมาคนเดียว ทางร้านก็พร้อมเสิร์ฟเมนูทานง่ายให้อิ่มอร่อยกันได้ทุกวัน บรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยร่มไม้เขียวขจี มีที่ให้นั่งพักผ่อนเอนกายได้ชิลๆ หลายมุม ทั้งใต้ต้นไม้ใหญ่ไปจนถึงริมน้ำใกล้น้ำตกเล็กๆ ที่บริเวณโดยรอบตกแต่งไว้อย่างน่ารักลงตัวด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และดอกไม้นานาชนิด สามารถนั่งตากลมชมวิวเพลินๆ ได้ เพราะมีลมพัดทำให้อากาศเย็นสบายตลอดทั้งวัน
บ้านหนึ่งธารา เขาใหญ่
ที่ตั้ง : หมู่ที่ 5 ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เวลาเปิดบริการ : จ.-ศ. เปิด 10.00-18.00 น. (ร้านปิดทุกวันอังคาร), ส.-อา. เปิด 09.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0821409310
GPS : https://goo.gl/maps/afFnjgQ4uC7ax7U58
นั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ เคล้าบรรยากาศชิลๆ กันเพลินๆ ตกบ่ายแก่ๆ ก็ได้เวลากลับบ้านกันแล้วค่ะ แต่ระหว่างทางเราขอแวะร้านข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่าศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งที่นี่เป็นพิกัดช้อปปิ้งซื้อของฝากยอดนิยมเพราะผลิตภัณฑ์ข้าวโพดของไร่สุวรรณมีคุณภาพสูง เนื่องจากเป็นพันธุ์ที่ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์คิดค้นขึ้นมาโดยมีสัญญากับเกษตรกรให้นำเมล็ดข้าวโพดไปปลูกและส่งผลผลิตกลับมายังไร่สุวรรณ ภายในร้านจึงมีทั้งผลิตภัณฑ์ข้าวโพด ไม่ว่าจะเป็นข้าวโพดต้ม ข้าวโพดหวานฝักสด น้ำนมข้าวโพดที่ขายดีมากกกกกก รวมถึงของฝากอื่นๆ ให้เลือกสรร นอกจากนี้บริเวณรอบๆ ร้านยังมีสวนดอกไม้และไร่เกษตรให้ถ่ายรูปเล่นด้วย ใครที่มาเที่ยวเขาใหญ่ก่อนกลับกรุงเทพฯ ห้ามลืมแวะเด็ดขาด!
ร้านข้าวโพดหวานไร่สุวรรณ
ที่ตั้ง : 298 ม.1 ถ.มิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
วันและเวลาเปิด - ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 - 17.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ : 0615585280
GPS : https://goo.gl/maps/Yy3EZdc3kMLcVtVr9
เขาใหญ่ 2 วัน 1 คืน ของเรากับเพื่อนตัวแสบเป็นอะไรที่เต็มอิ่มครบครันทั้งที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ ผจญภัย ตลอดจนช้อปปิ้ง ซื้อของฝาก สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในระยะทางใกล้กรุงแค่ 2 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าเพื่อนๆ คนไหนกำลังมองหาที่เที่ยวสำหรับวันหยุดนี้อยู่ล่ะก็ 'เขาใหญ่' เป็นตัวเลือกที่ครบรสจริงๆ
ค่าใช้จ่าย
ค่าน้ำมัน 1,000 บาท
ค่าอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม 800 บาท
ค่าดอกไม้ธูปเทียน 40 บาท
ค่าที่พัก 2,500 บาท
ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 80 บาท
ค่าของฝาก 300 บาท
รวม 4,720 บาท
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
15 จุดเช็คอินเขาใหญ่จัดมาให้แบบจุกๆ อัพเดทใหม่ล่าสุดปี 2020! : https://www.chillpainai.com/scoop/10886
10 ที่พักเขาใหญ่สไตล์ยุโรป ถ่ายรูปสวยปัง บรรยากาศเหมือนอยู่ต่างประเทศ อัพเดทใหม่ 2020 : https://www.chillpainai.com/scoop/11940
10 คาเฟ่เขาใหญ่ ถ่ายรูปสวย นั่งชิล ชมวิวธรรมชาติ อัพเดทใหม่ 2020 : https://www.chillpainai.com/scoop/11979

เรื่องโดย
พอสอพอจอ
ผู้เติบโตมาเพื่อปวดหลัง และทำกายภาพบำบัดวนไป