เที่ยวตราดให้ครบจบที่ Check in Trat Farm Outlet

calendar_month 04 มี.ค. 2020 / stylus Admin Chillpainai / visibility 13,917 / รีวิวที่กิน

ในยุคโซเชียลแบบนี้เวลาไปเที่ยวหรือกินอาหารที่ไหน ใครๆ ต่างก็พากันเช็คอิน แต่จะดีกว่าไหม...ถ้ามีสถานที่หนึ่งที่รวมทุกอย่างมาไว้ให้เราแบบที่เดียวครบ ทั้งคาเฟ่บรรยากาศชิคๆ เมนูอาหารอร่อยๆ พร้อมของฝากให้เลือกมากมาย ทั้งหมดที่ว่ามานี้รวมให้คุณอยู่ที่นี่ Check in Trat Farm Outlet

Check in Trat Farm Outlet เกิดจากโครงการที่กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ (YEC) คิดจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นร้านจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตราด จึงเป็นที่มาของชื่อร้านที่เป็นศูนย์รวมของดีของจังหวัดตราด เมื่อมาถึงเมืองตราดจะต้องมา Check in ที่ร้านนี้ตามสโลแกนที่ว่า “เที่ยวตราดให้ครบ ต้องจบที่ Check in Trat Farm Outlet” นั่นเอง

ภายในร้านแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนร้านขายของฝากด้านหน้า และโซนในร้านที่เป็นโซนเครื่องดื่มและอาหาร ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูอบอุ่น บรรยากาศภายในดูโปร่งโล่ง ด้วยหน้าต่างกระจกใสและเพดานสูงที่เชื่อมต่อกับที่นั่งชั้นลอยด้านบน ซึ่งเราจะพาไปสำรวจทีหลัง แต่ตอนนี้ขอไปเติมพลังด้วยอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ก่อนดีกว่า!

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งสเต็ก,สปาเกตตี,สลัด ไปจนถึงอาหารจานเดียวแบบไทยๆ ที่สำคัญ ให้ปริมาณจานใหญ่มากกก...แถมราคายังไม่แพง อาหารจานเดียวเริ่มต้นที่ 39 บาทเท่านั้นเองค่ะ

ประเดิมด้วยเมนูของกินเล่นเรียกน้ำย่อยกันก่อนกับ ชีสบอลมันม่วง ที่ใช้มันม่วงห่อชีสแล้วนำไปทอดจนกรอบนอกนุ่มใน นอกจากนี้ ยังมีเมนูไก่สติ๊กที่คัดเฉพาะเนื้อไก่ล้วนๆ นำไปชุบแป้งทอด เสิร์ฟพร้อมกับมายองเนสและซอสมะเขือเทศ รสชาติเด็ดไม่แพ้กันเลย

มาถึงเมนูจานหลักกันบ้างกับ “สเต็กหมูพริกไทยดำ” หมูหมักสูตรของทางร้านนำมากริลล์จนหอมน่ากิน จากนั้นจะเสิร์ฟพร้อมมันฝรั่งทอด สลัดและขนมปัง ราคาเริ่มต้นที่ 129 บาท ส่วนสาวๆ คนไหนกลัวอ้วน ก็มีเมนูสลัดผัก สามารถเลือกได้ทั้งสลัดทูน่าหรือสลัดปูอัด โดยผักที่นี่จะเป็นสลัดผักออร์แกนิกสดๆ ของจังหวัดตราดที่ได้รับมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ว่าผักสดที่นำมาปรุงอาหารที่ร้านทุกจาน สะอาด ปลอดสารเคมีแน่นอน

ตบท้ายด้วยของหวานจานเด็ดที่พลาดไม่ได้อย่าง ขนมเค้กหน้าฝอยทอง ความพิเศษคือเนื้อเค้กจะเป็นเค้กใบเตยนุ่มหอม ท็อปปิ้งด้วยฝอยทองซึ่งทางร้านทำเอง นอกจากนี้ ยังมีเค้กใบเตยหน้ามะพร้าวอ่อน ซึ่งเป็นเมนูขายดีของที่ร้าน รสชาติหอมหวานมันลงตัว

มาถึงเมนูเครื่องดื่มกันบ้าง แน่นอนว่าพระเอกของร้านหนีไม่พ้นกาแฟ ซึ่งกาแฟที่ร้านใช้นั้นเป็นกาแฟของตราดแท้ๆ นั่นหมายถึงทั้งปลูกและคั่วที่ตราดเลยค่ะ โดยที่ร้านใช้เมล็ดกาแฟโรบัสต้า ปลูกที่อำเภอบ่อไร่ นำมาเบลนด์กับอะราบิกา จุดเด่นของกาแฟที่นี่คือจะเข้มและรสชาติหอมเป็นพิเศษ บอกเลยว่าใครเป็นคอกาแฟต้องมาลอง

แต่ถ้าใครชอบเมนูแปลกใหม่ ขอแนะนำ 3 แก้วนี้เลย! เริ่มจาก “กาแฟสับปะรดตราดสีทอง” โดยทางร้านจะใช้น้ำสับปะรดตราดสีทองที่เป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดตราดมาผสมกับกาแฟของจังหวัดตราดเช่นกัน ได้ทั้งรสกาแฟเข้มข้นและกลิ่นหวานหอมของน้ำสับปะรด ส่วนอีกแก้วจะเป็น “กาแฟมะปี๊ด” หรือที่คนภาคอื่นเรียกว่าส้มจี๊ด ซึ่งทางร้านจะใช้ส้มจี๊ดแทนมะนาวในการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดเพราะเป็นผลไม้ท้องถิ่นของจังหวัดตราด เมื่อนำมาผสมกับกาแฟตราดจึงได้ทั้งรสชาติเข้มของกาแฟและความเปรี้ยวของน้ำส้มจี๊ดตัดกัน ดื่มแล้วช่วยกระตุ้นความสดชื่นได้อย่างดี ปิดท้ายด้วย “สละลอยแก้วปั่น” ที่ส่วนมากเรามักเห็นเป็นเมนูของหวาน แต่ทางร้านได้ครีเอทนำเอามาปั่นเป็นเครื่องดื่ม ซึ่งดื่มแล้วสดชื่นเข้ากับอากาศร้อนๆ ของบ้านเราจริงๆ ค่ะ

อิ่มแล้วเราไปเลือกซื้อของฝากกันที่โซนด้านหน้า บอกเลยว่าละลานตามากจริงๆ ค่ะ เพราะที่ร้านเค้าคัดสรรของดี ของเด็ดจังหวัดตราดทุกอย่างมารวมไว้ที่นี่ ของฝากที่ไม่ควรพลาดเลย อาทิ ทุเรียนทอด-ทุเรียนอบกรอบชิ้นใหญ่คุณภาพดี, กะปิตราดแท้ๆ หรือใครติดใจกาแฟตราดทางร้านก็มีขาย นอกจากนี้ ยังมีพริกไทยดำ พริกไทยขาว พริกไทยป่นและแบบเมล็ด ฯลฯ รวมทั้งของฝากของที่ระลึกเมืองตราดให้เลือกอีกมากมาย ซึ่งร้านนี้นับว่าเป็นร้านของฝากสุดท้ายของจังหวัดตราดก็ว่าได้ เพราะว่าถ้าข้ามสะพานแม่น้ำเวฬุไปก็จะเป็นฝั่งจังหวัดจันทบุรีแล้ว ใครลังเลไม่รู้ว่าจะซื้ออะไรดี...มาเช็คอินที่นี่รับรองมีให้เลือกครบจบทุกความต้องการจริงๆ ค่ะ