bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

10 จุดเช็คอินเที่ยวตรัง ที่ไม่ได้ปังแค่ทะเล!

calendar_month 26 พ.ค. 2019 / stylus Admin Chillpainai / visibility 692,481 / สถานที่ยอดนิยม

Tips เที่ยวตรัง 

จังหวัดตรังเที่ยวได้ทั้งปี แต่ถ้าหากอยากเที่ยวแบบครบๆ ทั้งทะเลและบนฝั่ง แนะนำไปเที่ยวช่วงระหว่างเดือนตุลาคมไปจนถึงพฤษภาคม เพราะหลังจากนั้นจะเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมซึ่งแหล่งท่องเที่ยวทะเลตรังอย่างถ้ำมรกตและเกาะที่อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหมอย่างเกาะมุก เกาะกระดาน เกาะแหวน และเกาะเชือก จะเริ่มปิดเกาะตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.-30 ก.ย. แต่เกาะสุกร เกาะลิบง และเกาะไหงยังเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ไปพักผ่อนตลอดทั้งปี


 

089f031ceee2ee0b26a1c1c50e2785ebe2d2a8a9.jpg

 

หากใครอยากเที่ยวทะเลใต้แบบไม่ซ้ำ ได้ครบทุกรสชาติ ทั้งถ้ำ ทะเล ภูเขา น้ำพุร้อนธรรมชาติ ทริปนี้เราจะพาไปตะลุย 10 จุดเช็คอินเที่ยวตรัง...แบบสวยปัง เป๊ะเว่อร์! บอกเลยว่าตรังไม่ได้มีดีแค่ทะเลเท่านั้นนะเธอ

 

Navy01.jpg

1. ล่องเรือเที่ยวชุมชนบ้านน้ำราบ

ชมวิวเขาจมป่า ดูพระอาทิตย์ตกที่ทะเลแหวก

 

เรียกได้ว่าที่นี่คืออันซีนจังหวัดตรังอย่างแท้จริง กับ “เขาจมป่า” จุดชมวิว 360 องศาที่ชุมชนบ้านน้ำราบ ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ที่มาพร้อมกับวิวสุดอลังการ สามารถมองเห็นวิวของผืนป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์กว้างใหญ่สุดสายตา พร้อมท้องทะเลเป็นฉากหลังและยังสามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาของเกาะต่างๆ ที่อยู่ล้อมรอบ

18b0cc32f8c7c8a8081c0bb712bfd55047c34bd0.jpg

 

เราใช้บริการเรือนำเที่ยวของชุมชนบ้านน้ำราบ ค่าเหมาเรือหางยาวลำละ 1,500 บาท นั่งได้ทั้งหมด 10 คน นอกจากนี้ชุมชนบ้านน้ำราบยังมีบริการท่องเที่ยวด้วยแพ ค่าเช่าเหมาอยู่ที่ลำละ 2,000-3,000 บาท นั่งได้ตั้งแต่ 15-40 คน หรือจะใช้บริการเที่ยวพร้อมอาหารสนนราคาคนละ 450-650 บาท โดยเรือจะพาเราล่องไปตามคลองตาเป๊ะ ลัดเลาะผืนป่าโกงกางเขียวขจีไปจนถึงเขาจมป่า จากนั้นต้องเดินขึ้นเขาไปอีกประมาณ 300 เมตรเพื่อไปชมวิวที่ยอดเขาด้านบน ทางเดินไม่ชันมาก แต่มีบางจุดที่ต้องปีนบันไดหรือไต่เชือกไปตามแนวผา แนะนำว่าใครจะมาควรใส่ชุดทะมัดทะแมงพร้อมสำหรับปีนป่ายกันด้วย

3d0e75c42ae11d39fd86bb72331cef86a32362ae.jpg

7901bb55faaa936c965d21dfe95637180c51789e.jpg

 

แต่พอขึ้นมาเห็นวิวสวยๆ ด้านบนแล้วบอกเลยว่าประทับใจมากๆ เห็นแล้วหายเหนื่อยกันเลยทีเดียว เพราะนอกจากผืนป่าโกงกางเขียวขจีสุดสายตาแล้ว เรายังมองเห็นวิวของทะเลตรังทั้งเกาะลิบง เกาะมุก และยังมองเห็นได้ไกลถึงเกาะลันตา กระบี่เลยทีเดียว

f4196e8a23212f431deb15942ba03be517e9e5a0.jpg

 

พอถ่ายรูปชมวิวเสร็จ เราล่องเรือไปเที่ยวกันต่อที่ทะเลแหวกบ้านน้ำราบ อีกหนึ่งที่เที่ยวอันซีนของชุมชนแห่งนี้ที่ยังไม่ค่อยมีคนรู้จักมากนัก เพื่อมารอชมพระอาทิตย์ตกกันที่นี่ หากโชคดีบางวันที่น้ำลงอาจได้เจอปลาดาวตามชายหาดอีกด้วย โดยเฉพาะช่วงขึ้น 15 ค่ำที่จะเห็นทะเลแหวกสวยที่สุด เสียดายตอนที่เราไปนั้นเป็นช่วงน้ำตายพอดี คือน้ำลงไม่มากนัก เลยไม่ได้เห็นทะเลแหวกเต็มที่ แต่ก็ชดเชยด้วยวิวสวยๆ ให้เราได้ไปวิ่งเล่นบนหาดทรายที่โผล่พ้นน้ำกลางทะเลแทน แถมวันนั้นไม่มีนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ เลย จึงสงบเงียบเหมือนเป็นหาดส่วนตัวเลยทีเดียว

ee4da7dceb4deffaba7aeb46128468c493ee9075.jpg

 

ใครสนใจอยากมาสัมผัสความอะเมซิ่งแบบนี้ แนะนำให้เช็คช่วงเวลาน้ำขึ้นน้ำลงก่อน เพราะแต่ละเดือนจะมีช่วงเวลาที่ทะเลแหวกสวยที่สุดไม่ตรงกัน หรือติดต่อสอบถามข้อมูลล่องเรือเที่ยวบ้านน้ำราบ  084-6297971 บังเดียะ กันได้เลย

d7ef3cf495148566db7dc452d4db13967471b92a.jpg

 

Navy02.jpg

2. สถานีรถไฟกันตัง

ใครมาเที่ยวตรัง ต้องไม่พลาดแวะมาถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คสุดคลาสสิคอย่างสถานีรถไฟกันตังกันสักครั้ง ที่นี่เป็นสถานีรถไฟเก่าแก่อายุกว่า 106 ปี ซึ่งได้รับประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของจังหวัดตรังโดยกรมศิลปากร และถูกปรับปรุงให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 6 ตัวสถานีเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวทรงปั้นหยาทาสีเหลืองมัสตาดตัดกับสีน้ำตาล มีลวดลายไม้ฉลุประดับดูงดงามทรงคุณค่า และยังถือเป็นสถานีปลายทางของทางรถไฟสายชุมทางทุ่งสง–กันตัง สถานีสุดท้ายของทางรถไฟสายใต้ฝั่งทะเลอันดามันอีกด้วย

85633bd0d0afcc6cd974f8d29692e404b4e134d7.jpg

 

ในบริเวณสถานียังมีร้านกาแฟน่ารักๆ ให้เรานั่งแวะพักจิบกาแฟชิลๆ กันด้วย ตัวร้านออกแบบตกแต่งสไตล์วินเทจได้อย่างกลมกลืนกับตัวสถานีรถไฟ แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ หน้าร้านที่ใครมาก็ต้องแวะมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

008e08faa58dde6f0c2eeae1095af37ba771d2ca.jpg

 

นอกจากนี้ ยังมีหัวรถจักรรถไฟเก่าที่อนุรักษ์ไว้และตู้โบกี้ที่ปรับเป็นห้องสมุดรถไฟ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมและถ่ายรูปได้ เรียกว่าเป็นที่เที่ยวห้ามพลาดสำหรับคนรักรถไฟ ได้ทั้งเรียนรู้ประวัติศาสตร์และถ่ายรูปสวยๆ กลับไปกันแน่นอน

863d0524aed12d3582c2b64ec4832538c6e8cd6c.jpg

 

Navy03.jpg

3. สตรีทอาร์ทเมืองกันตัง

 

จากสถานีรถไฟกันตัง เราไปตามล่าหาสตรีทอาร์ทในตัวเมืองกันต่อ หลายคนอาจไม่รู้ว่าที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ก็มีสตรีทอาร์ทให้เราได้ไปแช๊ะภาพชิคๆ กับผลงานศิลปะบนกำแพงกันด้วย เรียกว่าเป็นจุดเช็คอินใหม่ที่ใครมาเที่ยวกันตังต้องไม่พลาด ความสนุกอยู่ที่เราจะได้ตามหาสตรีทอาร์ทจุดต่างๆ พร้อมเที่ยวชมเมืองไปด้วย ประเดิมด้วยรูปสตรีทอาร์ทแรกที่ปากซอยถนนรัษฎาอุทิศ 1 ใกล้ห้างสหมิตร ช้อปปิ้งมอลล์

e66ac3d17b1995c39f1c91c8b2609a17d555da6f.jpg

 

ไปต่อกันที่จุดที่ 2 ภาพนี้พิกัดอยู่ที่ผนังร้าน Ice cafe Kantang อยู่ตรงหัวมุมระหว่างถนนรัษฎาอุทิศ 1 ตัดกับถนนรัษฎาอุทิศ 5 โดดเด่นด้วยภาพสตรีทอาร์ทสีสันคัลเลอร์ฟูลเป็นรูปรถตุ๊กตุ๊กหัวกบสีสันสดใส

0e496f3b7eb165f0308839f64d8d926eb804a660.jpg

 

ไม่ไกลในซอยเล็กๆ ข้างร้านฮวดการไฟฟ้า บนถนนเทศบำรุง (เดินทะลุไปถนนรัษฎาได้) ในซอยยังมีภาพวาดสตรีทอาร์ทอีกหลายจุด ชิ้นเด่นๆ เช่น รูปบ่าวแดงลอยแพ, สลอธตกปลา รับรองว่าถ่ายรูปสนุกกันแน่นอน!

3c426c7d923f93286237dce65eb3cee85758c1e7.jpg

665b0505fdeb35151c945c7628018a2d80b93b58.jpg

01b5b5dcfe897b04b083069a3afbacb333fb18ae.jpg

 

ไปต่อกันที่อีกจุดหนึ่งไม่ไกลกันมากนัก  มีอาคารห้องแถวไม้เก่าบนถนนรัษฎาเป็นภาพสตรีทอาร์ทเจ้าสาวในชุดย่าหยา ในประเพณีแต่งงานบาบ๋า หรือลูกผสมระหว่างคนจีนฮกเกี้ยนและคนพื้นเมืองในท้องถิ่น

5ac1dcba57902768c1095e11b2761e476b65876a.jpg

 

ถัดไปที่หัวมุมถนนรัษฎาอุทิศ 6 ตัดกับถนนเทศบำรุง (ทางเข้าตลาดสดเทศบาลเมืองกันตัง) จะมีสตรีทอาร์ทสองจุดบนกำแพงผนังตึกเก่าเป็นรูปมังกรแดง และท่านผู้หญิงในชุดย่าหยาแบบพื้นเมือง หากใครมีเวลาน้อย แวะมาจุดเดียวก็เก็บได้ครบทั้งสองรูปเลยล่ะ

d7be245a4ae89ff6ae1cbef4cbcc28313cae806a.jpg

 

ปิดท้ายด้วยสตรีทอาร์ทภาพจอมยุทธล่องทะเลลอยแพ พิกัดบริเวณตรงข้ามร้านกาแฟดำติ่มซำ ใกล้ๆ ร้านข้าวต้มโกสุทธิ์ ซึ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ไฮไลท์เท่านั้น ยังมีสตรีทอาร์ทอีกหลายจุดรอให้เราไปตามหาและถ่ายรูปกันเพียบ!

ec4c21edd9e64159ba19b7a8a8f24046b7b8e9d4.jpg

 

Navy04.jpg

4. วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง

ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่น ที่ตรังก็มีน้ำพุร้อนธรรมชาติให้เรามาแช่ผ่อนคลายกันได้ฟินๆ ที่วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง แหล่งท่องเที่ยวของเมืองตรัง และยังเป็นจุดพักผ่อนของคนท้องถิ่นในอำเภอกันตังที่นิยมมาแช่น้ำพุร้อนกันตอนเช้าๆ ทุกวัน เราจะเห็นทั้งเด็กๆ หนุ่มสาว และคนสูงอายุขับรถมาจอดด้านหน้า แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปแช่น้ำพุร้อนกลางแจ้งในบ่อกันเป็นประจำ

e0400572bfb7c0c2752e9f7f9c71a776c3593226.jpg

 

จากพื้นที่บางส่วนของวนอุทยานฯ เป็นพรุน้ำร้อน มีน้ำร้อนไหลผุดจากใต้ดินตลอดเวลา จึงได้พัฒนาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเรียกว่าบ่อน้ำร้อนควนแดง โดยบ่อน้ำพุร้อนที่นี่มีทั้งหมด 3 บ่อด้วยกัน แต่สามารถลงแช่ได้ 2 บ่อเท่านั้น แบ่งออกเป็นบ่อแช่เท้ารวม 1 บ่อ และบ่ออาบน้ำรวมอีก 1 บ่อ อุณหภูมิน้ำแต่ละบ่อจะแตกต่างกันไปในแต่ละวัน อยู่ระหว่างตั้งแต่ 70/ 40 /20 องศาเซลเซียส โดยอีกบ่อหนึ่งมีอุณหภูมิร้อนจัดลงแช่ไม่ได้ สงวนไว้สำหรับเป็นบ่อที่ส่งน้ำพุร้อนไปยังห้องแช่ส่วนตัวอีกทีหนึ่ง โดยทางวนอุทยานฯ มีบริการแช่เท้าและอาบน้ำร้อนเพื่อสุขภาพ โดยมีห้องอาบน้ำและห้องแช่น้ำร้อนเพื่อความเป็นส่วนตัวจำนวน 9 ห้อง

06db9d15c35dceaa0689ae9a9543a670aa42ead2.jpg

 

ข้อแนะนำสำหรับการแช่น้ำพุร้อนที่มีอุณหภูมิสูงเกินกว่า 35-40 องศา สามารถแช่เท้าได้ครั้งละไม่เกิน 10-15 นาที และไม่ควรแช่เกินวันละ 2 ครั้ง สีของน้ำพุร้อนที่นี่สะอาดเนื่องจากเป็นน้ำที่ขึ้นมาจากใต้พื้นดิน น้ำใสจนสามารถมองเห็นตะไคร่น้ำชนิดหนึ่งที่เจริญเติบโตได้ในน้ำร้อนด้วยค่ะ

f7f869c5dc3b215a5f3d7851762b8c813addbd59.jpg

 

ถ้าใครไม่ได้เอาชุดมาเปลี่ยนก็สามารถลงไปนั่งเอาเท้าแช่น้ำร้อนได้ที่บ่อเล็กๆ ด้านหลังได้ หลังจากเดินเที่ยวมาทั้งวันได้เอาเท้าจุ่มน้ำพุร้อนแบบนี้ ช่วยผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อย่างดีเลยทีเดียว หรือใครติดใจบริเวณด้านหน้าวนอุทยานฯ ก็ยังมีสปา นวดเพื่อสุขภาพ และบริการแช่เท้าด้วยสมุนไพรของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพบ่อน้ำร้อนกันตัง รวมทั้งผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรและน้ำแร่ให้เลือกซื้อกลับบ้านได้อีกด้วย

2989e006e4e660d4e9373c52f988e7357b025d40.jpg

c3bcdfc40fd78769300fc3152136ed0beda9bf8c.jpg

 

นอกจากนี้ ภายในวนอุทยานยังมีทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะทาง 790 เมตร ให้เราเดินเล่น ชมธรรมชาติกันเพลินๆ ท่ามกลางพันธุ์ไม้ทั้งต้นยาง ตะเคียน หว้า ชมพู่ป่า แดงควน ฯลฯ โชคดีอาจได้เจอนกชนิดต่างๆ ออกมาโชว์ตัวทักทายให้เราเห็นบนยอดไม้กันอีกด้วยล่ะ

332c1b284f7fa7dc7f04898a1094e9fe3b95e489.jpg

 

วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง

ที่ตั้ง บ้านควนแคง ตำบลบ่อน้ำร้อน อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง

เปิด ทุกวัน 08.00 - 18.00 น.

 

Navy05.jpg

5. ถ้ำเขาช้างหาย

 

ใครเป็นสายแอดเวนเจอร์อยากได้ฟีลผจญภัย เที่ยวสไตล์ลุยๆ ล่ะก็...ขอแนะนำที่นี่เลย! “ถ้ำเขาช้างหาย” สถานที่ท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดตรัง ที่เราจะได้สวมบทของอินเดียน่า โจนส์ พกไฟฉายเดินสำรวจความสวยงามภายในถ้ำ พื้นที่ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

b732ff6d72facb2f41dd35a2ac92d402279788a6.jpg

 

ถ้ำเขาช้างหายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความยาวประมาณ 850 เมตร ภายในมีโถงถ้ำเล็กใหญ่อยู่ทั้งหมด 6 ห้อง เช่น ถ้ำทวดชัยหาญ, วังจระเข้, ถ้ำเพชรพลายพญา ฯลฯ ไฮไลท์ห้ามพลาดคือ “ถ้ำประกายเพชร” ที่มีหินงอกหินย้อยที่ยังมีความสมบูรณ์อยู่มากเป็นพิเศษ นอกจากเราจะได้สำรวจความงดงามแล้ว ยังได้ความตื่นเต้นที่แตกต่างจากโถงถ้ำอื่นๆ เพราะทางเดินเข้าไปยังตัวถ้ำนี้มืดมาก ต้องอาศัยไฟฉายส่องทางอย่างเดียวเท่านั้น

91a2d28f444f618df1019bc44cd76c070de8f399.jpg

05314fc0ef628c5a14735d833131f2c165c396e9.jpg

 

อีกหนึ่งจุดที่แนะนำสำหรับคนชอบผจญภัย คือทางออกของถ้ำที่เตือนไว้ก่อนเลยว่าอาจไม่ค่อยเหมาะกับคนที่สุขภาพไม่แข็งแรงหรือผู้สูงอายุ เพราะเราต้องค่อยๆ เดินยอบตัวไปเรื่อยๆ จนถึงจุดพีคที่สุดคือเพดานถ้ำที่ต่ำมาก ต้องก้มหรืออาจคลานหมอบออกมาเท่านั้น ใครไม่ชอบที่แคบๆ อาจเดินกลับทางเดิมก็ได้ แต่ไหนๆ ก็เดินมาถึงที่นี่แล้วแนะนำว่าควรไปต่อให้สุดดีกว่า!

785a7c875acf813890bda126513c44f7e4fd36e1.jpg

 

บอกเลยว่าใครชอบความท้าทายไม่ควรพลาดที่นี่ แถมค่าเข้ายังไม่แพง โดยคิดเหมารถยนต์คันละ 20 บาท รถตู้ 50 บาท จะพกไฟฉายไปเองหรือเช่าด้านหน้าในราคาอันละ 20 บาทก็ได้ รับรองได้ว่าความตื่นเต้น สนุก ประทับใจคุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายไปแน่นอน

 

ถ้ำเขาช้างหาย

ที่ตั้ง ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง

เปิด ทุกวัน 09.00-16.30 น. (ประตูปิด 16.00 น.)              

บริการท่องเที่ยว ติดต่อ อบต.นาหมื่นศรี โทร.075-299556

 

Navy06.jpg

6. วังเทพทาโร

 

ไปเยือนดินแดนมังกรที่ “วังเทพทาโร” ที่คุณจะต้องตะลึงกับพญามังกร งานศิลปะที่เกิดจากเศษไม้และรากไม้เทพทาโร ที่ถูกนำมารังสรรค์ให้กลายเป็นมังกรขนาดเล็กใหญ่จำนวนมากถึง 89 ตัว ท่ามกลางความร่มรื่นของไม้หอมและเสียงลำธารที่ขับกล่อม เหมือนได้หลุดเข้าไปในอีกดินแดนหนึ่ง

50fed30a34df7733fb810b8f0bcceb046d88db84.jpg

 

เทพทาโร แปลว่า ท่อนไม้แห่งเทวดา ที่นี่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน ที่เกิดจากความตั้งใจของอาจารย์จรูญ แก้วละเอียด อดีตข้าราชการครูและศิลปินพื้นบ้านจังหวัดตรัง ที่น้อมนำพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงของรัชกาลที่ 9 มาปรับใช้ และเนรมิตพื้นที่กว่า 25 ไร่ ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านเกษตรและปลูกต้นเทพทาโร พันธุ์ไม้ท้องถิ่นหายากในภาคใต้ นำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งครีมทาผิวกันยุง, สบู่เหลว, น้ำยาเอนกประสงค์, น้ำส้มควันไม้ ฯลฯ

59d9c7189421eaf562b4865415a39a1aaeb47fe6.jpg

86db58ae6936d02d0ad98790ac8c4dfce3b52f52.jpg

 

บางคนอาจแค่ไปเดินเที่ยว ถ่ายรูปกับพญามังกรเสร็จแล้วก็กลับ แต่เราอยากแนะนำให้เดินรอบๆ ให้ทั่วบริเวณซะก่อน เพราะที่นี่มีฐานเรียนรู้ถึง 7 ฐานให้เราได้สำรวจพร้อมเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติรอบตัว และหากโชคดีอาจได้พบกับอาจารย์จรูญถือไม้เท้าคอยออกมาต้อนรับและอธิบายให้นักท่องเที่ยวฟังด้วยตัวเอง

c1ae1414cbe5aefb14b8dec849f768a804a96368.jpg

 

เชื่อหรือไม่ว่าเมล็ดของเทพทาโรนั้นมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1.7 หมื่นบาท สามารถนำมาบีบทำเป็น Release Massage สำหรับนวดผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทาแก้ผื่นพิษแมลง ฯลฯ โดยเมล็ดต้นเทพทาโรแต่ละต้นนั้นจะมีกลิ่นหอมแตกต่างกันออกไป อาทิ พริกไทย, กลิ่นดอกไม้ หรือกลิ่นตะไคร้ ฯลฯ ส่วนของรากยังนำมาสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยเทพทาโรที่มีสรรพคุณมากมายได้อีกด้วย แก่นของรากสามารถนำมาแกะสลักทำเป็นสิ่งของเครื่องใช้ ส่วนใบก็สามารถนำมาประกอบอาหารหรือดื่มเป็นชาได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นไม้ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงและสามารถใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วนเลยจริงๆ

087173f810ac501697ab1491469ffb01280c27e3.jpg

9b578bdb74c2e51837dd71a571db88aefe5b80b4.jpg

 

ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งของที่นี่ คือ งานศิลปะครอบครัวมังกร ที่อาจารย์จรูญรวบรวมซื้อรากไม้เทพทาโรนำมาสร้างเป็นมังกรขนาดยักษ์ ตัวแม่ใช้รากไม้เทพทาโรจำนวน 6 ตัน ส่วนมังกรตัวพ่อนั้นใช้รากไม้เทพทาโรมากถึง 18 ตัน ใช้เวลาทำนานถึงกว่า 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้คนทั่วไปได้มาเรียนรู้กันได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใครผ่านมาแถวอำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง แวะมาสัมผัสความยิ่งใหญ่ของพญามังกรและดินแดนเทพเจ้าแห่งไม้หอมที่นี่กันได้เลย

 

วังเทพทาโร

ที่ตั้ง ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง 

เปิด ทุกวัน 8.00–18.00 น.

โทร. 089-6450447

 

Navy07.jpg

7. ดูพะยูนที่เกาะลิบง 

 

หลายคนถามว่าถ้าจะไปเที่ยวทะเลตรังควรเลือกไปเกาะไหนดี? เราขอบอกตามตรงเลยว่าทะเลตรังสวยทุกที่ แต่เกาะที่ทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ยืนหนึ่งคือเกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปสัมผัสมากๆ นอกจากทะเลจะสวยแล้ว ยังเป็นแหล่งรวมนกหลายสายพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของพะยูนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเรือพาเที่ยวชมทัศนียภาพสวยๆ รอบเกาะ และอาจได้ลุ้นเจอพะยูนที่จะขึ้นมากินหญ้าทะเลที่อุดมสมบูรณ์บริเวณรอบเกาะลิบงอีกด้วย

790e1a5d98592d9e0ae64c2ddbf2a807c5a72bcf.jpg

 

สำหรับการชมพะยูนทางเรือ จะมีกฎห้ามเข้าไปใกล้พะยูนเกิน 5 เมตร เพื่อไม่ให้รบกวนวิถีชีวิตตามธรรมชาติของพะยูนจนเกินไป นักท่องเที่ยวสามารถชมพะยูนไกลๆ ได้จากบนเรือ หรือจะขึ้นไปชมจากมุมสูงที่เขาบาตูปูเต๊ะก็ได้ค่ะ แต่ต้องฟิตร่างกายเพื่อปีนเขาเพราะทางเดินขึ้นไปชมด้านบนยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ล่าสุดตอนนี้มีข่าวดีว่าพะยูนที่เกาะลิบงได้เพิ่มจำนวนขึ้นจากเดิมกว่า 50 ตัวแล้ว ซึ่งวันที่เราไปโชคดีได้เจอ 2 ตัวที่เข้ามากินหญ้าทะเลฝั่งท้ายเกาะพอดี

88675119d7c0c46d03456de736846db2120e2571.jpg

 

นอกจากการล่องเรือรอบเกาะแล้ว บนเกาะลิบงยังมีจุดชมพะยูนอีกแห่งหนึ่งคือที่ หอชมวิถีชีวิตสัตว์น้ำ ตั้งอยู่ปลายสุดของสะพานหลักภัย เป็นสะพานที่ทอดยาวยื่นลงไปในทะเล เพื่อให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงได้ และถ้าหากใครไปช่วงเช้าๆ ยังจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ท่ามกลางหมู่บ้านชาวประมงเป็นฉากหลังอีกด้วยค่ะ

ca9d1ac6c3ed9b6194eaf885d964c57e81a495d1.jpg

ee6e2c542ba1506434bd71331939f4b318612405.jpg

38816b8d9857d5ee66a57cfb731b199acaa999b6.jpg

 

Navy08.jpg

8. พักผ่อนสุดฟินกับน้ำทะเลใสๆ ที่เกาะมุก

 

ใครอยากมาเที่ยวทะเลตรัง แต่ได้ฟิลหาดสวยน้ำใสไม่แพ้มัลดีฟส์ แนะนำปักหมุดมาที่ “เกาะมุก” รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะหาดทรายที่นี่ขาวละเอียด น้ำทะเลใสแจ๋วน่าลงเล่นเป็นที่สุด ซึ่งบนเกาะมุกก็มีที่พักมากมาย ตั้งแต่รีสอร์ทริมทะเลระดับ 4 ดาว ไปจนถึงบังกะโลบนเขาราคาไม่แพง

8a09f8ba4da4a7c8634ee1640303d49b0d2706d0.jpg

 

และถ้าใครมาเที่ยวที่เกาะมุก ต้องไม่พลาดไปเล่นน้ำที่หาดฝรั่ง อีกหนึ่งชายหาดที่สวยขึ้นชื่อของเกาะมุก ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติมาพักผ่อน เล่นน้ำ อาบแดดกันที่นี่สมชื่อหาด รวมทั้งยังมีร้านอาหารทะเล, บีชบาร์ริมชายหาด รวมทั้งที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

7fbc5457d246098d03805d8bd1bcad7c35208cdd.jpg

bec42da159c411225d34c04286351900b5cff25a.jpg

 

Navy09.jpg

9. นั่งรถตุ๊กตุ๊ก หัวกบเที่ยวเมืองตรัง

มาเที่ยวตรังทั้งที ต้องไม่พลาดนั่งตุ๊กตุ๊กหัวกบ พาหนะท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองตรังสักครั้ง เราสามารถเลือกนั่งรถตุ๊กตุ๊กชมเมืองเป็นรอบแล้วจ่ายค่าโดยสารตามระยะทาง หรือจะเลือกเหมาเที่ยวทั้งวันเลยก็ได้ สามารถให้คนขับช่วยแนะนำจุดที่เที่ยวไฮไลท์ต่างๆ ในเมืองหรือเราจะเลือกแวะตามใจก็ได้เหมือนกัน

4e7b6d76701dd0e9cc5c14a72c2d1650e0ee8f66.jpg

 

แลนด์มาร์คหลักๆ ก็หนีไม่พ้นวงเวียนพะยูน, สตรีทอาร์ทในเมืองตรังที่มีทั้งหมด 4 จุด ทั้งถ้ำมรกต, ต้นยางพารา, ต้นศรีตรัง, พะยูน รวมทั้งตึกเก่าสวยๆ ในเมืองตรังที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อย่างมีชีวิตชีวาและกลมกลืนไปกับท้องถิ่น

13d2c4eda91cc5dd84afeffcbe6f64afb21b7b60.jpg

7c86ff1083b2464eb0714a730137ce9315dd4090.jpg

9f0e137819d3f0391a314d920287f6eac21f370a.jpg

 

“ร้านสิริบรรณ” ร้านเครื่องเขียนเก่าแก่ของ จ.ตรัง ซึ่งจำลองรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารสไตล์ชิโนโปรตุกิสมาจากเมืองปีนังในยุคก่อน ได้รับรางวัลอนุรักษ์สถาปัตยกรรมดีเด่น ประเภทอาคารพาณิชย์ จากสมาคมสถาปนิกสยาม ปัจจุบันนี้ยังคงเปิดกิจการอยู่มายาวนานกว่า 70 ปีแล้ว

1073a41c71b2ba58489f80bf2bf662b619664fdc.jpg

57f80aa9521e4965df49a603ed5086a179c8c313.jpg

 

ส่วนใครเป็นสายบุญอาจเลือกไปไหว้พระที่วัดกะพังสุรินทร์ พระอารามหลวงเก่าแก่อายุกว่า 120 ปี ภายในวัดมีพระอุโบสถซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมท้องถิ่นภาคใต้ ต่อด้วยศาลเจ้าท่ามกงเยี่ย ศาลเจ้าศักดิ์สิทธิ์ประจำเมืองตรัง เรียกว่านั่งรถตุ๊กตุ๊กหัวกบคันเดียวสนุกเฟี้ยวได้ทั้งวัน จะสายชิค สายบุญ หรือสายแช๊ะ...ก็แฮปปี้แน่นอน!

d57153904569ce47f393625df1e50df502730bd2.jpg

 

Navy10.jpg

10. ดำน้ำทะเลตรัง ดูปะการัง 7 สีที่เกาะแหวน

แวะเที่ยวเกาะกระดาน-ถ้ำมรกต

ถึงแม้จังหวัดตรังจะไม่ได้มีที่เที่ยวสวยๆ แค่ทะเล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทะเลตรังมีเสน่ห์สุดๆ โดยเฉพาะเกาะชื่อดังที่ยังคงสวยบริสุทธิ์อย่างเกาะเหลาเหลียง เกาะรอก และเกาะกระดาน ฯลฯ ซึ่งถ้าหากใครมีเวลาไม่มาก แนะนำซื้อทัวร์ดำน้ำทะเลตรัง แวะเที่ยวตามเกาะต่างๆ แบบวันเดย์ทริป ซึ่งมีแพ็คเกจให้เลือกหลากหลายแบบ

6cebc4f0aeb4c5f2ccb9d5c23f111a21204a3073.jpg

 

ทริปนี้เราใช้บริการทัวร์ดำน้ำทะเลตรังกับทางมดตะนอยรีสอร์ท ซึ่งเป็นโปรแกรมดำน้ำ 4 จุด เริ่มต้นจากท่าเรือหาดยาวไปยังจุดดำน้ำจุดแรกที่เกาะกระดาน ใช้เวลาดำน้ำแบบ snorkeling ที่จุดนี้ประมาณ 30-40 นาที ส่วนใหญ่บริเวณนี้จะเป็นปะการังแข็งเกือบทั้งหมด โชคดีที่เราได้เจอรังนีโม่ด้วย น่ารักมากๆ เลยไม่พลาดที่จะแชะภาพเป็นที่ระลึกซะหน่อย

6c63867aa19785736d138833c2caddaa56b14ef8.jpg

da11f7dfb20d097500f903e888baacab13881a75.jpg

 

จากนั้นแวะขึ้นไปเที่ยวพักผ่อนบนชายหาด เล่นน้ำ ถ่ายรูปกับน้ำทะเลใสๆ และหาดทรายขาวๆ บนเกาะกระดานกันต่อ แม้จะมีนักท่องเที่ยวคึกคัก แต่ก็มีมุมชิลๆ ให้ถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ

64efb0134b29cc4714eb8abf0b0ea9780d828413.jpg

 

จุดที่ 2 คือ เกาะแหวน เกาะเล็กๆ ที่เป็นจุดดำน้ำไฮไลท์ เพราะมีทั้งกัลปังหาแส้ม้า, ปะการังพัด รวมทั้งปะการังอ่อนหลากสีสันมากถึง 7 สี จึงเป็นจุดที่นักดำน้ำ Scuba นิยมมาดำน้ำที่นี่ แต่น่าเสียดายที่วันที่เราไปนั้นกระแสน้ำแรงและน้ำค่อนข้างขุ่น ทัศนวิสัยใต้น้ำเลยไม่ค่อยเคลียร์เท่าไหร่ แต่ก็ยังโชคดีที่ได้เห็นปะการังสวยๆ ที่ยังคงสมบูรณ์มากๆ เลยค่ะ

869ddccd3392ac2202dbdd0e51a08b698667d86f.jpg

129ff2b6100278f83eee218daf852c34d44478a9.jpg

984afa592f783177f647c9c59d555b5abc9b7a91.jpg

 

ปิดท้ายที่ไฮไลท์ของทริปเที่ยวทะเลตรัง ที่ “ถ้ำมรกต” ที่เที่ยวอันซีนแห่งเมืองตรังที่ทุกคนต้องหาโอกาสมาสัมผัสความมหัศจรรย์สักครั้งในชีวิต ด้วยการต่อแถวทำท่าปั่นจักรยานในน้ำเข้าไปในถ้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็ไม่ต้องกลัว เพราะมีเสื้อชูชีพให้สวมทุกคนเพื่อความปลอดภัย

ac1a4bc63b10f7f2a42fd3dd8ce733d0c6228de5.jpg

 

ไฮไลท์ภายในถ้ำ คือตรงบริเวณปากถ้ำเราจะมองเห็นแสงอาทิตย์สะท้อนผิวของน้ำทะเลไปยังผนังถ้ำจนเป็นสีเขียวมรกตสมชื่อ สวยงามน่าประทับใจมากๆ

36ce7f0ae173c7cfa9af5f2e02fac467b90ce420.jpg

 

สำหรับระยะทางที่เราต้องว่ายน้ำจากปากถ้ำจนถึงตัวถ้ำด้านในนั้นยาวประมาณ 80 เมตร พอเข้าไปด้านในสุดของถ้ำจะเป็นหาดทรายรูปพระจันทร์เสี้ยว ลักษณะด้านบนเหมือนปากปล่องภูเขาไฟ สามารถเงยหน้ามองเห็นท้องฟ้าได้ ซึ่งบริเวณด้านในถ้ำมีเนื้อที่กว้างถึงกว่า 1 ไร่ ว่ากันว่าสมัยก่อนเป็นสถานที่เก็บซ่อนสมบัติของโจรสลัดที่มักมาตั้งแคมป์กันที่นี่ แต่ทุกวันนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของจังหวัดตรัง เรียกว่าถ้าไม่ได้มาถ้ำมรกตแล้วเหมือนมาไม่ถึงตรังกันเลยทีเดียว

e87b0f88269742b4bfed3be3fefc53b96017bc71.jpg

 

และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 จุดเช็คอินเที่ยวตรังที่เราเอามาฝาก บอกเลยว่าเสน่ห์ครบเครื่องจริงๆ ทั้งทะเลสวยใสปิ๊ง วิวภูเขาสวยอลังการ และย่านเมืองเก่าที่มีเสน่ห์ ใครคิดจะมาเที่ยวตรัง อยากเก็บความสนุกให้ครบแบบนี้ ลองหาโอกาสมาเที่ยวสักครั้ง แล้วจะรู้ว่าเมืองตรังมีเสน่ห์ไม่เป็นรองใครจริงๆ

 

 

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai