bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เช็คอินที่เที่ยวสุดฟินหัวหิน-ปราณบุรี 2 วัน 1 คืน

calendar_month 01 เม.ย. 2019 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 83,893 / ทริปตัวอย่าง



เช็คอินที่เที่ยวสุดฟินหัวหิน-ปราณบุรี 2 วัน 1 คืน

พอร้อนทีไรทำไมต้องไปทะเล? เพราะเราว่าทะเลนั้นมีความพิเศษบางอย่างที่ทำให้วันที่แสนร้อนมันดูสดใสขึ้น แค่ได้สลัดชุดพนักงานออฟฟิศมาใส่บิกินี่ตัวจิ๋ว เดินชิลรับลมทะเลริมชายหาด ได้ทอดสายตามองท้องทะเลสีฟ้า แทนการนั่งจิ้มมือถืออยู่บนรถไฟฟ้า ได้ถอดรองเท้าสัมผัสกับเม็ดทราย แทนการใส่ส้นสูงเดินห้างสรรพสินค้า ก็เป็นความสุขของหน้าร้อนที่เราโหยหา ทริปนี้เราจะพาเพื่อนๆ ที่โหยหาท้องทะเลเดินทางไปยังหัวหิน ปราณบุรี สองเมือง สองสไตล์ริมทะเลประจวบคีรีขันธ์ ที่มีที่เที่ยว ที่กิน น่าไปเช็คอินมากมาย มีเวลา 2 วัน 1 คืนก็สามารถสัมผัสทะเลสวยๆ ได้ จะสนุกแค่ไหนมาออกเดินทางตามเราไปกันเลยค่ะ 



56023e99ae4e1196a11b6b9dfd30328d35d6921c.jpg


DAY 1 

ก่อนออกเดินทางก็ต้องเช็คกระเป๋ากันก่อนว่าเตรียมของพร้อมไหม หมวก แว่นกันแดด บิกินี่ เสื้อสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น กล้อง มือถือพร้อม! และที่ขาดไม่ได้ก็ต้องผลิตภัณฑ์กันแดดนั่นก็คือ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ที่เราเลือกใช้ตัวนี้เพราะไม่มีส่วนประกอบของ Parabens และ Oxybenzone ซึ่งเป็นสารที่ทำให้ปะการังฟอกขาว เราจะไปรับพลังจากทะเลก็อย่าไปทำร้ายทะเลที่เรารักกันเลยนะคะ แค่การเลือกผลิตภันฑ์กันแดดก็สามารถช่วยรักษาทะเลได้แล้วล่ะค่ะ งานนี้พกไปทั้งแบบโลชั่นและแบบสเปรย์ พร้อมท้าแดดได้อย่างมั่นใจ จะร้อนแค่ไหนก็ไม่หวั่น

Banana Boat Simply Protect Sport SPF50


นั่งชิลทานอาหารอร่อยริมทะเล

ที่ 1d+ Day Artist

ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ แต่เช้าตรู่ปักหมุดที่แรกไว้ว่า 1d+ Day Artist ร้านคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลริมทะเลที่เราเป็นแฟนประจำของร้านนี้มาตั้งแต่ร้านเก่าซึ่งอยู่ตรงซอยหัวหิน 101  พอรู้ว่าเขาได้ทำเลใหม่ในซอยหัวหิน 105 ก่อนถึงวนอุทยานปราณบุรี และไฮไลท์ของร้านใหม่นี้คืออยู่ติดทะเลอีกด้วย เราเลยรีบปักหมุดที่นี่ไว้ที่แรก จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพระราม 2 มุ่งหน้าสู่ถนนเพชรเกษม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงก็มาถึงร้านแล้วล่ะค่ะ เห็นบรรยากาศแทบจะกรี๊ดเลยเพราะมันฮิปสเตอร์โดนใจสุดๆ 

1d+ Day Artist

ว่าร้านเก่าฮิปโดนใจแล้ว พอเจอร้านใหม่เขาไปรีบให้หนุ่มข้างกายเอากล้องมาแชะภาพรัวๆ ตัวร้านทำจากตู้คอนเทนเนอร์สีดำ ใครกลัวร้อนก็สามารถไปนั่งชิลในร้านได้ ภายในร้านไม่มีเครื่องปรับอากาศ แต่ไม่ร้อนเลยค่ะ เพราะมีลมทะเลเย็นๆ พัดมาทักทายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการไม่มีเครื่องปรับอากาศหรือกระจกกั้นเราว่ามันทำให้เราได้สัมผัสกับท้องทะเลอย่างใกล้ชิด ได้เห็นท้องทะเลสีครามผ่านสองตาเราแบบนี้ช่วยให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายเป็นปลิดทิ้งกันเลย

1d+ Day Artist

แต่แดดช่วงเกือบเที่ยงแบบนี้ร้อนแรงดีจริงๆ เราเลยรีบหยิบ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ มาทาก่อนออกแดด เนื้อครีมบางเบาซึมซับเร็วมากๆ ค่ะ ทาเสร็จแล้วก็พร้อมไปถ่ายรูปสวยๆ กับมุมต่างๆ ของร้านกันแล้ว

1d+ Day Artist

ตัวร้านจัดพื้นที่ถ่ายรูปและมีโต๊ะอาหารดีไซน์เก๋ให้เราเลือกมากมายเลยล่ะค่ะ ยิ่งในยามเย็นบรรยากาศสวยงามโรแมนติกมากๆ แนะนำว่าใครที่กลัวร้อนควรมาตอนเช้าก่อนเที่ยง ซึ่งร้านจะเปิดประมาณ 10 โมงเช้าค่ะ และอีกช่วงเวลาคือประมาณ 4 โมง หรือ 5 โมงเย็น และนั่งยาวจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ไปจนถึงค่ำคืนกันได้เลย แต่วันนี้เรามีผู้ช่วยดูแลผิวที่ดี ร้อนแค่ไหนก็ไม่กลัว

1d+ Day Artist

ถ่ายรูปกันจนได้ภาพที่ถูกใจแล้วก็ถึงเวลาทานอาหารเที่ยง ด้วยความหิวเราจัดการสั่งเมนูอาหารมาเต็มโต๊ะเลยค่ะ ขอบอกว่าเมนูอาหารของที่นี่รสชาติจัดจ้านทุกจาน ใครที่คิดว่าร้านคาเฟ่แบบนี้อาหารคงจะรสชาติธรรมดาขอบอกว่าคิดผิด ทั้ง ข้าวลาบทอด ซึ่งร้านทั่วไปเราอาจจะเคยกินลาบก้อนแข็งๆ แต่ของร้านนี้ด้านนอกกรอบแต่พอกัดเข้าไปด้านในนุ่มมากๆ รสชาติจัดจ้านโดนใจกินกับข้าวสวยร้อนๆ ที่ทางร้านเสิร์ฟมาให้เป็นรูปสามเหลี่ยมเหมือนข้าวปั้นยิ่งฟิน พร้อมกับผักแนมทั้งผักสลัด แตงกวา เรียกได้ว่าจานนี้มีความเป็นลูกครึ่งทั้งไทย ฝรั่ง และญี่ปุ่นผสมกันในจานเดียว ต่อกันด้วยข้าวไข่ข้นต้มยำทะเล ข้าวไข่ข้นที่มาในเครื่องต้มยำจัดจ้านสไตล์ไทย และกุ้งตัวโตๆ ท็อปด้านบนด้วยไข่กุ้ง เครื่องต้มยำรสจัดเวลาทานกับข้าวและไข่มันจะพอดีกันมากๆ ค่ะ ใครยังรู้สึกว่าความซี๊ดซ๊าดที่ให้ยังไม่สะใจ สามารถราดน้ำซอสต้มยำที่ทางร้านให้มาเพิ่มได้ ต่อกันด้วย สปาเก็ตตี้ขี้เมาทะเล ใส่กุ้งตัวโต และปลาหมึกตัวใหญ่ รสชาติถึงใจไม่มีออมมือ ปิดท้ายด้วยทอดมันกุ้งที่ใส่กุ้งมาให้เป็นตัวเลยล่ะค่ะ ได้กินเนื้อกุ้งแบบเต็มคำ 

ส่วนเครื่องดื่มเราสั่ง Summer Beach ที่ใช้ไซรัป เสาวรสแท้ สับปะรด และผลไม้เขตร้อน ช่วยคลายร้อนได้ดีเลยล่ะค่ะ ต่อด้วย Blue Beach น้ำสีฟ้าสดใส ที่ทำให้นึกถึงท้องทะเลกันเลย

1d+ Day Artist

ที่ตั้ง : ร้าน 1d+Day Artist หัวหินซอย 105 ก่อนถึงวนอุทยานปราณบุรี
โทรศัพท์ : 087 656 9995
เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00-22.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/aAW5skoLas82

แผนที่ร้าน 1d+Day Artist 


เช็คอินที่ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน

(Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin)


หลังจากทานอาหารเที่ยงกันแล้วก็ขับรถไปเช็คอินที่พัก ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน (Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin) ที่พักที่ตั้งอยู่ภายใน สวนน้ำวานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล ข้อดีของการพักที่นี่คือเราสามารถเข้าสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ได้ฟรี ทั้งวันที่เช็คอินและเช็คเอาท์เลยล่ะค่ะ 

ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน (Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin)

ห้องนอนของเราคืนนี้ตั้งอยู่บนชั้นที่ 19 เปิดประตูออกไปจะพบกับวิวทะเลที่สวยงาม พร้อมกับรางรถไฟที่มีรถไฟกระฉึกกระฉักวิ่งผ่าน ความสนุกของเราคือพอได้ยินรถไฟมาทีไร จะต้องรีบวิ่งไปแชะภาพกันทุกครั้ง เราว่าเป็นบรรยากาศสุดคลาสสิคของหัวหินที่ทำให้นึกถึงเมืองตากอากาศสุดฮอตในอดีต

ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน (Holiday Inn Resort Vana Nava Hua Hin)


ที่ตั้ง : ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน เลขที่ 129/129 ถนนเพชรเกษม อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์

ราคา : เริ่มต้น 3,500 บาท

โทรศัพท์ : 032-809-999

GPS : https://goo.gl/maps/VGx3nyNuy4N2


แผนที่ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน


เล่นน้ำสุดมันส์ที่สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน

(Vana Nava Water Jungle)


หลังจากเช็คอินเข้าที่พักแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมตัวไปเล่นสวนน้ำกันเลยค่ะ อากาศร้อนๆ แบบนี้พร้อมจะไปชุ่มฉ่ำให้หายร้อนกันแล้ว โดยจากโรงแรมจะมีทางเข้าสู่สวนน้ำได้เลย 

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

ก่อนจะไปเล่นน้ำก็มาช้อปพร็อพเก๋ๆ สำหรับเล่นน้ำกันก่อนค่ะ อ๊ะ ที่นี่เขามี Banana Boat จำหน่ายด้วยนะคะทั้งแบบโลชั่นและแบบสเปรย์ให้เลือกมากมาย ใครที่ไม่ได้เตรียมผลิตภัณฑ์กันแดดมาก็สามารถมาซื้อได้ที่นี่เลย

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

ส่วนเราไม่ต้องซื้อเพิ่มเพราะพกมาถึง 2 แบบ ก่อนออกจะไปเล่นน้ำก็ขอฉีดสเปรย์ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ กันก่อนเลย สเปรย์เนื้อบางเบา เย็นสดชื่น ซึมซับสู่ผิวได้เร็ว ป้องกันรังสี UVA/UVB กันน้ำเเละเหงื่อได้ดี 

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

เมื่อผิวพร้อมก็ไปสัมผัสความมันส์กับเครื่องเล่นต่างๆ ของสวนน้ำกันเลยค่ะ งานนี้เราขอเริ่มจากเครื่องเล่นระดับเด็กน้อยอย่าง เรนฟอร์เทรส™ ที่รวม 7 สไลด์เข้าไว้ด้วยกันในเครื่องเล่นเดียว ความสนุกของโซนนี้คือเจ้าถังน้ำยักษ์ที่พอถึงเวลาก็จะเทน้ำในถังสาดลงมา ช่วยคลายร้อนในวันที่อุณหภูมิแตะไปถึง 33 องศาเซลเซียสได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ เปียกสะใจมากๆ 

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

ไต่ระดับความเสียวมาจนถึงฟรีฟอลล์ เครื่องเล่นที่เราขอยกให้ว่าบีบหัวใจสุดๆ โดยเครื่องเล่นนี้จะเป็นสไลเดอร์แนวดิ่งที่เกือบจะตั้งฉากกับพื้นโลก ลงมาด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง มันส์สะใจฟรีฟอลสมชื่อเลยล่ะค่ะ หลับตาแป๊บเดียวก็ลงสู่พื้นแล้ว

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

ไม่เพียงเครื่องเล่นสุดมันส์ที่นี่ยังมีโซนร้านอาหาร ร้านกาแฟ โซนร้านขายของฝากที่เราสามารถใช้เวลาที่นี่ได้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันเย็นกันได้เลย 

สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน (Vana Nava Water Jungle)

ที่ตั้ง : สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน เลขที่ 129/99 หนองแก หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น.
ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ 1,200 บาท / เด็ก 800 บาท
โทรศัพท์ : 032-909-606

GPS : https://goo.gl/maps/xh4HSLkhqTU2

แผนที่ สวนน้ำวานา นาวา หัวหิน


Vana Nava Sky Bar

แลนด์มาร์คของหัวหินวิวหลักล้าน

เล่นน้ำกันจนตัวเปื่อยเราก็กลับมาอาบน้ำพักผ่อนภายในห้องพัก เพื่อเตรียมตัวไปดินเนอร์สุดโรแมนติกที่ Vana Nava Sky Bar จุดเช็คอินแห่งใหม่ของหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 27 ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน ใครที่ไม่ใช้ลูกค้าโรงแรมก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้เลยค่ะ เพราะเปิดให้คนทั่วไปได้มาทานอาหารพร้อมชมวิวหลักล้านด้วยนะ

Vana Nava Sky Bar

เราออกจากห้องพักแล้วกดลิฟต์ขึ้นไปยังชั้น 27 พอลิฟต์เปิดก็ถึงตัวห้องอาหารซึ่งจะแบ่งเป็นสองฝั่งค่ะคือฝั่งที่เป็นส่วนบาร์ และส่วน Dinning จะเลือกนั่งตรงโซนไหนก็ได้ แต่ถ้าเลือกนั่งด้านนอกบริเวณ Vana Nava Sky Bar จะต้องมียอดใช้จ่ายคนละ 300 บาทขึ้นไป และแนะนำว่าควรโทรมาจองโต๊ะก่อน เพราะเป็นโซนสุดฮอตที่จะเต็มเร็วมากๆ ส่วนใครที่อยากนั่งทานอาหารด้านในก็สามารถมาชมวิวด้านนอกได้โดยไม่มียอดใช้จ่ายขั้นต่ำ จะสั่งน้ำแก้วเดียวนั่งด้านในแล้วเดินมาชมวิวฟินๆ ด้านนอกได้เลย

ไฮไลท์ของที่นี่คือระเบียงพื้นกระจกใสสูง 110 เมตร กว้าง 60 ตารางเมตร มองเห็นสวนน้ำวานา นาวา หัวหิน ที่อยู่ใต้พื้นเราเลยค่ะ คุณแฟนงานนี้นางกลัวความสูงเลยได้แค่ยืนถ่ายรูปให้เราอยู่ด้านนอก ส่วนเราเริงร่ามีความสุขกับวิวสวยๆ ของที่นี่มากๆ ขอยกให้เป็นจุดชมวิวหลักล้านกันไปเลยเพราะสามารถมองเห็นวิวเมืองหัวหิน และวิวทะเลของหัวหิน และที่นี่ยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกที่กำลังลับเหลี่ยมเขาตรงท้องฟ้าด้านทิศตะวันตกได้อย่างสวยงาม 

Vana Nava Sky Bar

มื้อนี้คุณแฟนบอกว่ากินกรุบกริบจิบเครื่องดื่มชมวิวไปก่อน เพราะเดี๋ยวจะมีมื้อหนักรออยู่ยามค่ำคืน เราเลยสั่งเมนูทานเล่นอย่าง Hearty on Wood ที่ประกอบไปด้วยชีส ทั้ง Manchego Cheese , Goat Cheese, Camembert  และ Gorgonzola เสิร์ฟมาพร้อม แฮม เนื้อ  เปปเปอโรนีซาลามี่  ถั่ว ผลไม้แห้ง ใครเป็นสายชีสแนะนำเลยค่ะ อีกเมนูที่เราสั่งมาคือ Aperitif Tapas ทาปาสสุดอร่อยทานเล่นคู่กับเครื่องดื่มค็อกเทลเย็นๆ สีสวยช่วยทำให้ค่ำคืนนี้นั้นเต็มไปด้วยประสบการณ์สุดประทับใจมากๆ ค่ะ 

Vana Nava Sky Bar

Vana Nava Sky Bar

ที่ตั้ง : Vana Nava Sky Bar ชั้น 27 โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท วานา นาวา หัวหิน เลขที่ 129/129 ถนนเพชรเกษม อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : วันจันทร์ - วันพฤหัสบดี เวลา 17.00 - 24.00 น./ วันศุกร์ - วันเสาร์ เวลา 17.00 - 01.00 น./ วันอาทิตย์ เวลา 10.00 - 24.00 น.
โทรศัพท์ : 032-809-999


ทานซีฟู้ดสุดอร่อยที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน

มาหัวหินเมืองชายทะเลแบบนี้ก็ห้ามพลาดกับการทานซีฟู้ดสุดอร่อย คืนนี้หลังจากดินเนอร์สุดโรแมนติกเราก็ปักหมุดจัดหนักอาหารอร่อยกันต่อที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ที่มีให้เดินกันทุกวันตั้งแต่ 5 โมงเย็นไปจนถึงเที่ยงคืนกันเลยค่ะ มีทั้ง ร้านอาหารซีฟู้ดให้เลือกทานมากมาย ของดัง ของอร่อยของหัวหินอย่าง ร้านกะปิหวานแม่สาลี่ ร้านไอศกรีมเจ๊นิ ร้านข้าวเหนียวมะม่วง ร้านโรตี ก็มีให้เลือกกินมากมาย 

ตลาดโต้รุ่งหัวหิน

จุดหมายของเราในวันนี้คือร้านครัวลุงจ่าร้านซีฟู้ดเจ้าประจำที่เรามาหัวหินทีไรก็ต้องมาแวะร้านนี้ค่ะ ซึ่งร้านนี้ฮอตฮิตมากๆ ขนาดวันธรรมดายังมีคนมาต่อคิวมากมายเลยล่ะค่ะ

ครัวลุงจ่าร้านซีฟู้ด

สิ่งที่ทำให้ร้านนี้ฮอตฮิตนั่นก็คือรสชาติอร่อยทุกจาน และราคาที่ไม่แพงด้วยค่ะ สั่งมาเต็มโต๊ะ ไม่ว่าจะเป็นต้มยำโป๊ะแตก หอยเชลล์อบเนย ปูม้าผัดผงกะหรี่ กุ้งแม่น้ำเนื้อแน่นๆ กระเฉดผัดหมูกรอบ และไข่เจียวทั้งหมดนี้ราคาไม่ถึงพัน กินกันอิ่มแปล้ฟินมากๆ ร้านนี้เปิดทุกวันตั้งแต่ 16.30 น. ไปจนถึง 22.30 น. 

ครัวลุงจ่าร้านซีฟู้ด

ที่ตั้ง : ตลาดโต้รุ่งหัวหิน ซอยเดชานุชิต หรือซอยหัวหิน 72  อำเภอหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 17.00 - 24.00 น.

GPS : https://goo.gl/maps/mLb4ZwLELZv 

แผนที่ตลาดโต้รุ่งหัวหิน


DAY 2

ถ่ายรูปฮิปๆ ที่วนอุทยานปราณบุรี

ทานอาหารเช้าจากที่พักแล้วเช็คเอาท์เพื่อเดินทางไปยังปราณบุรีค่ะ เช้านี้เราจะไปเดินชิลศึกษาธรรมชาติกันที่วนอุทยานปราณบุรี จากที่พักใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีเท่านั้นค่ะ จุดเด่นของที่นี่คือติดหาดปราณคีรีที่เต็มไปด้วยต้นสน และมีทางเดินศึกษาธรรมชาติโดยทำเป็นสะพานไม้ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ให้เดินชมธรรมชาติในป่าชายเลน

ซึ่งที่นี่ในอดีตเคยเป็นป่าเสื่อมโทรม ต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถได้มีพระราชดำริให้มีการฟื้นฟู สภาพป่าและรักษาพื้นที่ป่าไม้บริเวณปากน้ำปราณบุรี จากนั้นกรมป่าไม้สนองพระราชดำริจัดตั้งโครงการพัฒนาป่าไม้ปากน้ำปราณบุรีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ภาคเอกชนและภาครัฐได้มาช่วยการปลูกป่าฟื้นฟูให้ที่นี่เป็นป่าชายเลนที่มีความอุดมสมบูรณ์

วนอุทยานปราณบุรี

เช้าๆ แบบนี้ก็อย่าไว้ใจแดดดเมืองไทยกันนะคะ ก่อนจะออกไปเดินชมธรรมชาติก็ขอฉีดสเปรย์ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ กันก่อน จะได้เผยผิวอย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวผิวเสีย

วนอุทยานปราณบุรี

พร้อมแล้วก็ไปเดินถ่ายรูปฮิปๆ กันเลยค่ะ บรรยากาศของที่นี่สวยแปลกตามากๆ เหมือนหลุดเข้ามาในป่าดึกดำบรรพ์ เราชอบมุมนี้มากๆ ค่ะซึ่งเต็มไปด้วยต้นโกงกางสูงโปร่ง ที่มีรากขนาดใหญ่โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดิน บริเวณเดินเลนก็เต็มไปด้วยเหล่าปูปลาและสัตว์ต่างๆ มากมาย 

วนอุทยานปราณบุรี

เดินมาไม่นานก็เจอมุมทุ่งโปรงทอง เคยไปแต่ทุ่งโปรงทองที่ระยอง เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าปราณบุรีก็มีทุ่งโปรงทองด้วย ทุ่งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นโปรง พร้อมกันนั้นยังมีหอชมวิวให้ขึ้นไปชมความสวยงามจากมุมสูง

วนอุทยานปราณบุรี

ที่ตั้ง : วนอุทยานปราณบุรี หมู่ที่ 1 ตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 8.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 061-464-4951
GPS : https://goo.gl/maps/qKSLQ46Psiz


ชมวิวจากมุมสูงที่เขาแดง

เดินชิลๆ ชมวิวป่าชายเลนกันแล้ว คุณแฟนก็บอกเราว่าอันนี้แค่ออเดิร์ฟนะ เพราะจะพาไปเจอของจริงกันที่เขาแดง ซึ่งตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จากวนอุทยานปราณบุรีใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยเราปักหมุด GPS ไว้ว่าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดเพื่อที่จะมาซื้อตั๋วเข้าอุทยานฯ กันก่อนค่ะ ค่าตั๋ว 40 บาทเท่านั้น ซึ่งสามารถเข้าชมที่เที่ยวต่างๆ ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ได้ทุกที่เลยค่ะ ทั้ง จุดชมวิวเขาแดง เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน ถ้ำพระยานคร หาดสามพระยา ถ้ำแก้ว ถ้ำไทร ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว และหาดแหลมศาลา แต่วันนี้เนื่องจากเวลาน้อยเลยขอเลือกชมเขาแดงที่เดียวละกัน

พอซื้อตั๋วเสร็จก็ขับย้อนมาตรงป้ายจุดชมวิวเขาแดง สามารถขับรถไปจอดตรงป้อมยามได้ จากนั้นก็ต้องพึ่งสองขาของตัวเองแล้วล่ะค่ะ โดยจากตีนเขาจะต้องเดินขึ้นไปเป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร ทางช่วงแรกค่อนข้างราบเรียบแล้วค่อยเพิ่มเลเวลความโหด โดยทางขึ้นจะเป็นหินตลอดทางเลยค่ะ เดินไปก็ต้องพักขาจิบน้ำไปด้วย แนะนำว่าควรใส่รองเท้าผ้าใบมานะคะ เพราะหินที่นี่ค่อนข้างคมอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้

เขาแดง

ช่วงสุดท้ายนี่ระดับความโหดให้โล่ไปเลยค่ะ ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน แต่พอขึ้นมาพบกับวิวฟินๆ แบบนี้ หายเหนื่อยเลยค่ะ จากจุดชมวิวเราสามารถชมชายทะเลปราณบุรี และแนวภูเขาหินปูนได้แบบ 360 องศา มีลมทะเลพัดมาเหมือนเป็นรางวัลสำหรับการพยายามในครั้งนี้ 

เขาแดง

ไม่ต้องถามว่าแดดร้อนไหมบอกเลยว่าร้อนมากๆ เพราะบนจุดชมวิวไม่มีต้นไม้ให้ไปหลบร้อนได้เลย สิ่งที่ช่วยเราได้ตอนนี้ก็คือ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ที่นำมาทาซ้ำอีกสักครั้งเพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจในการท้าทายแดดที่ใกล้ช่วงเที่ยงวันแบบนี้

เขาแดง

เราใช้เวลาในการเดินขึ้นประมาณ 30 นาที รวมๆ แล้วไปกลับประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ  ถ้าถามว่าเหนื่อยไหม บอกเลยว่าเหนื่อยมาก แต่รับรองว่าสิ่งที่ได้รับมันคุ้มค่ากับเหงื่อที่เสียไปแน่นอน และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสียดายที่เรามาตอนสายเลยไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น แต่รับรองว่าคราวหน้าต้องไม่พลาดแน่นอนค่ะ

เขาแดง

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : 032-821568

GPS : https://goo.gl/maps/MdT8vWzj59U2

แผนที่จุดชมวิวเขาแดง


ล่องเรือชมธรรมชาติคลองเขาแดง

ลงจากเขาแดงปุ๊บคุณแฟนก็ชวนไปล่องเรือคลองเขาแดงต่อทันทีเลยค่ะ โดยจุดลงเรือจะอยู่บริเวณวัดเขาแดง ให้บริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึง 5 โมงเย็น ค่าเรือ 500 บาท นั่งได้ 6 คน ใช้เวลาในการล่องประมาณ 1 ชั่วโมง 

คลองเขาแดง

คลองเขาแดง

วิวสองข้างทางขนาบไปด้วยภูเขาหินปูนน้อยใหญ่สลับไปมา ทำให้เรานึกถึงกุ้ยหลินประเทศจีนเลยล่ะค่ะ สองฝั่งคลองมีต้นแสม ต้นโกงกางปกคลุม พร้อมกับมีน้องลิงที่กำลังลงมาหาอาหาร คุณลุงคนขับเรือชี้ให้เราดูปลาตีน โอ๊ย เพิ่งเห็นตัวจริงเป็นครั้งแรก หน้าตาน่าเอ็นดูมากๆ หัวโตๆ มีตาสองข้างด้านหน้าเคลื่อนไหวบนพื้นดินได้รวดเร็วพอๆ กับว่ายในน้ำเลยล่ะค่ะ สัตว์ต่างๆ และพืชพันธุ์ของที่นี่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศน์ที่เราต้องช่วยรักษาให้คงอยู่ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน

คลองเขาแดง

คุณลองบอกเราว่าอยากให้ลองกลับมาล่องเรือที่นี่อีกครั้งในตอนเย็น เพราะเป็นช่วงที่พระอาทิตย์กำลังตกดินสวยงามมากๆ เราเลยบอกคุณลุงว่าคราวหน้าถ้าได้มาที่นี่อีกจะต้องมาชมพระอาทิตย์ตกดินที่ได้ให้ได้แน่นอน

คลองเขาแดง

ที่ตั้ง : จุดล่องคลองเขาแดง ตั้งอยู่ภายในวัดเขาแดง ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี ประจวบคีรีขันธ์
ค่าบริการ : ค่าเรือ 500 บาท/ลำ นั่งได้ 6 คน โดยจะต้องชำระค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดก่อนนะคะ  ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท /ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
เปิดบริการ : 8.00 - 17.00 น.
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ : 032-821568
GPS : https://goo.gl/maps/bhjWwx4zvok

แผนที่คลองเขาแดง



จิบกาแฟริมทะเลที่ Eureka Beach Cafe หัวหิน

ล่องเรือเสร็จท้องก็เริ่มร้อง คุณแฟนเลยพามาแวะทานอาหารอร่อยกันที่ Eureka Beach Cafe หัวหิน ร้านนี้เป็นร้านคาเฟ่ชื่อดังจากกรุงเทพฯ ที่มีเมนูไฮไลท์อย่างกาแฟไข่เค็ม พอรู้ว่าเขามาเปิดที่หัวหินเราเลยตรงดิ่งไปที่ร้านทันที ตัวร้านจะอยู่ริมทะเลปราณบุรีใกล้กับวนอุทยานปราณบุรี 

Eureka Beach Cafe หัวหิน

ถ้าคนที่เคยไปร้านยูเรก้าในกรุงเทพฯ คงจะจำบรรยากาศร้านกาแฟเล็กๆ เปิดประตูเข้าไปเจอเครื่อง Tab Nitro Coffee เรียงรายอยู่ในร้าน ซึ่งสำหรับ Eureka Beach Cafe หัวหิน ยังคงมีเครื่อง Tab Nitro Coffee บริเวณเคาน์เตอร์บาร์ แต่สิ่งที่ต่างกันนั่นก็คือวิวที่เราไม่สามารถหาวิวแบบนี้ได้ในกรุงเทพฯ ภาพสนามหญ้าสีเขียวริมทะเล พร้อมกับมี โต๊ะแบบเตี้ย เบาะที่นั่ง เก้าอี้ชายหาดให้เอนตัวรับลมเย็นริมทะเล ส่วนใครกลัวร้อนสามารถเลือกนั่งในห้องแอร์ด้านใน ซึ่งแบ่งพื้นที่ครึ่งหนึ่งใน Sales Gallery ของ Bella Costa ตกแต่งได้น่ารักน่านั่ง มีกระจกใสที่สามารถชมวิวทะเลด้านนอกได้ นอกจากนี้ยังมีเต็นท์สีขาวริมทะเลที่เราสามารถมาจองพร้อมทานอาหารชุดปาร์ตี้ในราคา 4,200 บาท สำหรับ 4 - 6 ท่าน

Eureka Beach Cafe หัวหิน

ส่วนเราเลือกโต๊ะริมทะเล แต่บ่ายๆ แบบนี้แดดที่นี่ก็ยังคงแรงอยู่ดี เลยต้องหยิบ Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ แบบครีมขึ้นมาทาก่อนออกไปนั่งชิลรับลมทะเล 

Eureka Beach Cafe หัวหิน

เมนูที่เราสั่งมาทานในวันนี้จัดหนักสั่งมาเต็มโต๊ะกันไปเลย เพราะทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์มาตั้งแต่เช้า ท้องมันเลยร้องรัวๆ เป็นกลองเลยล่ะค่ะ  เริ่มต้นด้วยอาหารทานเล่นอย่างปลาหมึกทอดซอสไข่เค็ม ซึ่งเป็นหมึกชุบแป้งทอด (คารามารี) สไตล์อิตาเลียน ความพิเศษคือซอสไข่เค็มดิปกับหมึกอร่อยมากๆ สปาเก็ตตี้ต้มยำทะเลแห้ง ที่ใส่เครื่องทะเลให้ไม่ยั้งทั้งกุ้งแชบ๊วยตัวโต หมึก ปรุงรสชาติต้มยำไทยๆ จี๊ดจ๊าดโดนใจ และไก่บ้านอบหนังกรอบหมักสมุนไพรไทยและเทศ เคลือบซอสพิริพิริและซอสพริกศรีราชาเสิร์ฟคู่กับมะเขือม่วงทอดกรอบ ตัวไก่อบมาเนื้อนุ่มอร่อยมากๆ ค่ะ 

ส่วนเครื่องดื่มเขายกเมนูจากกรุงเทพฯ เอามาไว้ทุกตัวเลยค่ะ โดยเมนูเครื่องดื่มจะแบ่งเป็น เมนูกาแฟ เมนูชา เมนูรีเฟรชเมนท์ที่ดื่มแล้วสดชื่น และเมนูกาแฟไนโตรซึ่งเป็นเมนูไฮไลท์ของร้าน เปิดเมนูมาแล้วอยากชิมทุกแก้วเลยอ้อนคุณแฟนขอสั่งมาชิมหลายๆ แก้ว เริ่มจากไข่เค็มลาเต้ซิกเนเจอร์ที่ทำให้หลายคนรู้จักร้านนี้ ตัวกาแฟจากเครื่อง Tab Nitro Coffee รสนุ่มไฮไลท์คือซอสคาราเมลไข่เค็มที่ทางร้านทำเองได้เท็กซ์เจอร์ไข่เค็ม หอม มัน ลงตัวมากๆ   ต่อด้วย Sakura Yuzu Lemonade เครื่องดื่มหน้าตาหว๊าน หวาน ข้างล่างเป็นเยลลี่ที่ทำจากน้ำส้มยูสุ รสเปรี้ยว หวาน หอม ทานแล้วสดชื่นมากๆ ค่ะ อีกตัวที่สั่งมาก็คือ Green Friendly Lemonade ซึ่งเป็นเครื่องดี่มที่เหมาะสั่งมาทานกับอาหารเพราะตัดเลี่ยนได้ดี ส่วนผสมประกอบไปด้วยกรีนแอ๊ปเปิ้ล แตงกวา ตะไคร้ เลโมเนดโซดา ตกแต่งด้วยแก้วมังกรสีชมพู ส่วนคุณแฟนสั่ง Hojicha ข้าวแต๋น ที่หอมชาเขียวคั่ว ด้านล่างเป็นพุดดิ้งรสชาติหวานมันเหมือนซอสคาราเมลที่ราดข้าวแต๋น โรยหน้าด้วยข้าวแต๋น และราดด้วยซอสคาราเมลที่ทางร้านทำเอง เมนูนี้แอบชิมของคุณแฟน โอ๊ย อร่อยโดนใจสายชาเขียวมากๆ เมนูสุดท้ายคือ Nitro Cold Brew รสนุ่ม หวานนิดๆ ใครรักกาแฟห้ามพลาดเมนูนี้เด็ดขาด

Eureka Beach Cafe หัวหิน

และนอกจากจะเป็นร้านคาเฟาแล้วทางร้านยังมีแพลนทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของคนที่ชอบกิจกรรมทางน้ำ โดยจะมีเรือคายัค เรือใบ วินด์เซิร์ฟ และ Jet Surf ให้บริการ และที่นี่ยังสามารถพาสัตว์เลี้ยงมานั่งเล่นได้ด้วยนะคะ แต่จะสงวนพื้นที่เฉพาะบริเวณโซนด้านนอกเท่านั้น

Eureka Beach Cafe หัวหิน

ที่ตั้ง : ร้าน Eureka Beach Cafe หัวหิน ข้างโครงการ Bella Costa ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
เปิดบริการ : ทุกวันเวลา 10.00 - 19.00 น.
โทรศัพท์ : 092-449-9895
GPS : 
https://goo.gl/maps/BSfC6jw6DU32

แผนที่ร้าน Eureka Beach Cafe หัวหิน


ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด)


ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ เราขับรถมารอชมพระอาทิตย์ตกที่ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด) ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด ที่นี่เป็นสถานที่ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะบรรยากาศยามเย็นสวยงามมากๆ 

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด)

บึงน้ำกว้างใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นธูปฤๅษีและบัวสีชมพู ถูกขนาบด้วยภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีสะพานไม้ทอดตัวไปในบึงน้ำให้เราได้เดินเล่นชมธรรมชาติ เราว่าที่นี่มาตอนไหนก็สวย ถ้าคุณมาตอนเช้าจะได้พบกับดอกบัวสีชมพูที่กำลังเบ่งบานต้องกับแสงพระอาทิตย์ยามเช้า มีเรือของชาวบ้านให้บริการชมบึงบัว ส่วนในยามเย็นแสงสีทองของพระอาทิตย์จะทอแสงแต่งแต้มให้เหล่าบรรดาต้นธูปฤๅษีเป็นสีเหลืองทอง ท้องฟ้าค่อยๆ เปลี่ยนจากสีฟ้า เป็นสีชมพู สีส้ม ไล่สีกันไปตามความเข้มของแสงราวกับจิตรกรกำลังบรรจงแต่งแต้มผืนผ้าใบที่กลายเป็นท้องฟ้ากว้างใหญ่

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด)

เราเฝ้ารอจนพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า แล้วโบกมือลาหัวหิน ปราณบุรีกลับสู่กรุงเทพฯ 

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติบึงบัว(บึงบัวสามร้อยยอด)

อัตราค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ชาวไทย : ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
ชาวต่างชาติ : ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

โทรศัพท์ : 032-821568
ที่ทำการอุทยานฯ เปิดประมาณ 8.00-16.00 น.
GPS : https://goo.gl/maps/SQ498HQgnrF2


ทริปหัวหิน-ปราณบุรี 2 วัน 1 คืน นี้เป็นทริปที่สนุกครบรสมากๆ ค่ะ ทั้งขึ้นเขา เล่นสวนน้ำ ชมวิวหัวหินที่สวยระดับหลักล้าน นั่งชิลในคาเฟ่ริมทะเล แค่ 2 วัน 1 คืนเราก็สามารถสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจแบบนี้ได้ และที่สำคัญที่เลิฟสุดๆ กลับบ้านไปคราวนี้ไม่มีใครทักเรื่องสีผิวเลยล่ะค่ะ เพราะเราได้ตัวช่วย Banana Boat Simply Protect Sport SPF50+ ที่ปกป้องผิวของเราตลอดทริป ใครที่อยากมาสัมผัสทะเลสวยๆ ใกล้ๆ ก็นำทริปนี้ของเราไปใช้ได้เลยค่ะ อากาศร้อนก็ไม่ต้องกลัวออกไปท้าลมร้อนกันดีกว่า





เขียนโดย
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
close