Tora Yakiniku พรีเมียมบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง ซีฟู้ด แอนด์คาเฟ่ อิ่มคุ้ม อร่อยครบ จบในที่เดียว!

calendar_month 19 ก.ย. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 5,361 / รีวิวที่กิน

#ทีมรักพี่เสียดายน้อง #มากองรวมกันตรงนี้ !!

หลายครั้งที่สายกินอย่างพวกเราประสบปัญหาตัดใจไม่ไหว ทิ้งเธอไม่ลงสักที แบบว่าซูชิก็ดี ซีฟู้ดก็โดน หรือปิ้งย่างก็อยากกิน แล้วไหนจะต้องไปต่อของหวานอีกใช่มั้ยครับถึงจะครบแบบฟูลคอร์ส แต่ถ้าจะให้เข้าร้านนี้ไปต่อร้านนู้นเลยก็คงไม่ไหว แน่ล่ะ...นี่คนนะไม่ใช่หลุมดำ จะได้มีสักสิบกระเพาะ ! แล้วจะต้องคิดให้ปวดหัวไปทำไมล่ะครับ ในเมื่อเราสามารถทานทุกอย่างได้พร้อมกันในมื้อเดียว แถมยังเลือกอร่อยได้มากถึง 3 ราคาด้วยกันอี๊กกก เด็ดขนาดนี้ก็อย่ารอช้า ตามผมไปฟินกับ Tora Yakiniku ร้านนี้เลยครับ…Tora มีความหมายสุดเท่แปลว่า “เสือ” ในภาษาญี่ปุ่นครับ โดยจุดเริ่มต้นของร้านนั้น อัพเกรดต่อยอดมาจากร้านคุณเสือ หมูกะทะ กิจการเดิมของทางครอบครัวที่จับมาแปลงโฉม ปิ๊งปั๊งเป็นไอเดีย สำหรับคนที่อยากเอนจอยอีทติ้งไปกับเมนูอาหารอันหลากหลาย จนกลายเป็น Tora ร้าน บุฟเฟ่ต์ยากินิคุสุดพรีเมียม ย่านจอมทองแห่งนี้ในที่สุด

ภายในร้านตกแต่งด้วยบรรยากาศสบายๆ เน้นความเป็นโมเดิร์น โปร่ง โล่ง ดูเป็นอิสระ ให้ทุกคนสามารถเพลิดเพลินไปกับเมนูแสนอร่อยได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ทิ้งคอนเซปต์ความเท่สมความเป็นเสือ กับการคุมโทนด้วยโครงเหล็กสีดำที่ถูกนำมาใช้ตัดกับสีขาวสะอาดตาของหินอ่อนได้อย่างสวยงามลงตัว

โดยราคามีให้เลือกอร่อยได้ทั้งแบบ Standard Buffet 599 บาท , Premium Buffet 799 บาท ไปจนถึงระดับพรีเมียมสุดๆ อย่าง Grand Buffet ราคา 1,299 บาท ซึ่งในแต่ละราคาก็จะมีการแบ่งเซ็ตอาหารให้เลือกตามหมวดหมู่อีกที

แน่นอนว่าทุกราคานั้นยังครอบคลุมถึงหมวดเครื่องดื่ม และของหวานเอาไว้เรียบร้อย ให้เราสามารถฟินไปกับอาหารสารพัดเมนูมากเกือบ 100 อย่างได้ไม่จำกัดนานถึง 2 ชั่วโมงเต็ม ชนิดที่ว่าไม่อิ่มห้ามหยุด จนกว่าจะพุงกางกันไปข้างนึง ! ซึ่งทาง Tora ยังมีการรีเมนูทุกๆ 18 เดือน เพื่อปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ให้ไม่ซ้ำซาก จำเจ สร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้าอีกด้วยครับ

แต่ที่ผมประทับใจมากๆ คือ การที่ทางร้านมุ่งมั่นใส่ใจในรายละเอียด พิถีพิถันในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกวัตถุดิบที่เน้นความสดใหม่ นำเข้าจากทั่วโลกเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดจากแต่ละแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นบรรดาเนื้อ อาหารทะเลส่งตรงจากภาคใต้ ขนมและเครื่องดื่มแบบโฮมเมดก็ล้วนแล้วแต่ทำเสิร์ฟจากห้องครัวแบบจานต่อจานตามออเดอร์ จึงมั่นใจได้เลยว่าเราจะได้ทานอาหารที่อร่อย คุ้มค่าคุ้มราคาอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ สำหรับใครที่ไม่สะดวกทานบุฟเฟ่ต์หรือปิ้งย่าง แต่อยากทานของหวานอื่นๆ ทาง Tora ยังรู้ใจเปิดเป็นคาเฟ่ให้เราสามารถสั่งแยกเป็นเมนู A La Carte มาทานได้ต่างหากเช่นกันครับ

เห็นแค่รูปก็ยั่วน้ำลายสุดๆ เจ้ากระเพาะไม่รักดีก็เหมือนรู้หน้าที่ส่งเสียงประท้วงอย่างไว งั้นอย่ารอช้าจัดไปชุดใหญ่ไฟกระพริบ ประเดิมด้วยสารพัดเมนูเนื้อ เริ่มตั้งแต่ Tora Super Steak เนื้อมลทีคเสิร์ฟในดีไซน์สี่เหลี่ยมลูกเต๋า แบ่งตัดเป็นคำๆ คัดพิเศษจากออสเตรเลีย นุ่มจนแทบละลายในปาก Wagyu Geta Karubi เนื้อวากิวออสเตรเลีย ช่วงบริเวณร่องซี่โครงคัดแบบพิถีพิถัน แทรกด้วยมันพอประมาณ นุ่มกำลังดี Waguy Roast อีกหนึ่งเนื้อวากิวโรสชิ้นใหญ่ ลวดลายสวยงาม ราดด้วยน้ำซอสสำหรับย่าง ยิ่งทานคู่กับน้ำจิ้ม ยิ่งชวนฟินอย่าบอกใคร Australian Rack Lamb ซี่โครงแกะออสเตรเลียเนื้อแน่น ติดกระดูกเกรดพรีเมียมเน้นๆ สำหรับคนรักเนื้อ

มาต่อกันที่ Seafood Set สำหรับคนรักอาหารทะเล กับเซ็ตซีฟู้ดขนาด 3 ชั้น อัดแน่นไปด้วยบรรดากุ้งก้ามกราม หอยไม้ไผ่ หอยหวาน ปลาหมึก หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปูม้า แซลมอนนอร์เวย์ กุ้งขาวแกะ และพิเศษสุดๆ ที่แนะนำว่าต้องลองอย่างหอยนางรมเกาหลีตัวใหญ่เท่าฝ่ามือ อร่อย สด รสชาติหวานจนเหมือนยกทะเลมาไว้ที่ร้านให้เราทานกันเลยล่ะครับ !

ส่วนสายเจแปนเลิฟเว่อร์ ทาง Tora ก็มีบรรดาเมนูซูชิ ซาชิมิไว้คอยเอาใจ ให้เลือกทานอย่างละลานตา เรียกได้ว่าชิ้นใหญ่เต็มปากเต็มคำ โดยเฉพาะกับซาชิมิแซลมอน สีส้มสดใส ทานคู่กับโชยุและวาซาบิ ละมุนลิ้นชวนฟินสุดๆ อย่าบอกใคร เรียกว่าใจละลายหลงรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะครับ

หนักกับเมนูแน่นๆ ไปเยอะแล้ว มาพักเบรคหาอะไรใส่ท้องกันกับของว่างทานเล่นกันบ้าง วันนี้ผมลองสั่งเป็นวาฟเฟิลกรอบ เมนูขายดีของร้านมาลองทาน ส่วนอีกสองอย่างเลือกเป็นสเต็กหมูคุโรบุตะพริกไทยดำ และแซลมอนแซ่บครับ ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง ทั้งแซ่บและเด็ดสมชื่ออย่างที่เค้าว่าไว้กันจริงๆ

อ๊ะๆ อย่าเพิ่งยกธงขาวยอมแพ้กันนะครับ เพราะกินคาว ไม่กินหวาน ถือว่าไม่ครบสูตร ! ขนาดตอนแรกผมที่ว่าอิ่มแล้วยังต้องเปลี่ยนใจเว้นที่ว่างไว้รอการเติมเต็ม ก็เหล่าของหวานที่ร้าน Tora เองนั้นช่างน่าโดนไปซะหมดจริงๆ แถมยังเป็นเมนูโฮมเมด ทำเองหมดทุกเมนูซะด้วย ไม่ว่าจะเป็น Hokkaido Cheese Cake ชีสเค้กสุดละมุนแบบต้นตำรับจากญี่ปุ่นมากถึง 3 ก้อน Chocolate Lava เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมลูกโต ที่หั่นออกมาแล้ว ลาวาร้อนๆจะไหลเยิ้ม แค่คิดภาพตามยังน้ำลายไหล แน่นอนว่าต้องห้ามพลาด Chocolate Kakigori , Homemade Waffle วาฟเฟิลโฮมเมดแป้งนุ่มนิ่ม และ Strawberry Parfait ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีพาเฟต์ถ้วยใหญ่ โรยครัมเบิลกรุบกรอบด้วยนะครับ

ปิดท้ายกันด้วยเมนูเครื่องดื่มสีสันสดใส เผื่อใครที่คอแห้งด้วย Sprite Chinese Plum สไปรท์บ๊วยสีขาว รสชาติซาบซ่า Blue Paradise Soda สีฟ้าสดใส ชื่นใจสุดๆ และ Strawberry Bubblegum Soda สตรอว์เบอร์รีโซดา รสชาติหวานอมเปรี้ยว ถูกใจสาวๆ

ใครอยากทานบุฟเฟ่ต์หลากหลายเมนู ตั้งแต่ปิ้งย่าง ซีฟู้ด ไปจนถึงของหวาน และอาหารญี่ปุ่น ชนิดที่อร่อยคุ้ม ครบ จบในที่เดียวแบบผม แนะนำร้าน Tora Yakiniku เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน และสำหรับลูกค้าที่ใช้แอปพลิเคชัน FWD MAX เพียงโชว์แอปพลิเคชันที่ร้าน รับไปเลยส่วนลดอาหารและเครื่องดื่ม 10% เฉพาะบุฟเฟ่ต์แบบ Grand 1,299 บาท ชมรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่ >> www.chillpainai.com/fwdmaxprivilege/

สมัครรับสิทธิพิเศษ FWD MAX ได้ง่ายๆ

iOS: https://goo.gl/c1PwMq

Android: https://goo.gl/RVJ6Kl