bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

Hug Chiangrai ทริปที่จะทำให้คุณหลงรักเชียงรายภายใน 3 วัน!

calendar_month 03 ก.ย. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 140,813 / ทริปตัวอย่าง

 



ว่ากันว่าคนเราใช้เวลา 8 วินาทีในการตกหลุมรักใครสักคน…

แต่ถ้าหากเป็นสถานที่ จะต้องใช้เวลาสักเท่าไหร่ในการที่เราจะเกิดความรู้สึกผูกพันกับบางอย่าง 

สำหรับเรา “เชียงราย” ใช้เวลาแค่ 3 วัน ก็ทำให้เราอยากหอบกระเป๋ามาอยู่ที่นี่นานๆ ซะแล้ว เมืองอะไรไม่รู้…ทั้งน่ารัก น่ากอด มีทั้งธรรมชาติสวยๆ ศิลปะงามๆ แถมยังเต็มไปด้วยคาเฟ่และร้านอาหารอร่อยๆ ให้กินจนพุงกาง

ทริปนี้เราจะพาคุณไปเที่ยวเชียงรายแบบเนื้อๆ เน้นๆ คัดมาแล้วว่าเด็ด จบทริปแล้วรับรองจะตกหลุมรักเมืองนี้เหมือนเราแน่นอน!

18431f3bd006c97eb4dcdb0c05a496112444c43e.jpg


356543150d070416c6e357d3314e8f5d43c6c8a2.jpg


มาถึงเชียงรายถ้าไม่ได้เที่ยววัด…คงไม่ได้สัมผัสความเป็นเชียงรายครบทุกมุม ข้อมูลบอกว่าวัดในเชียงรายมีมากกว่า  1,282 วัด และเชียงรายยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งศิลปะ ที่มีศิลปินท้องถิ่นฝีมือดีอยู่จำนวนมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่วัดหลายแห่งของเชียงรายจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับคนไทยและต่างชาติ ที่ต้องการมาชมฝีมือเชิงช่างชั้นครูของ “สล่า” ชาวเชียงรายที่รังสรรค์ผลงานศิลปะแห่งศรัทธาออกมาเป็นงานพุทธศิลป์ที่น่าทึ่ง

48274eff5900c98695197504c3b1593e554094b3.jpg


หนึ่งในจำนวนนั้นคือ “วัดร่องเสือเต้น” วัดสีน้ำเงินที่ตั้งอยู่บริเวณใกล้ริมแม่น้ำกก ในตัวเมืองเชียงราย พุทธสถาปัตย์สุดประณีตงดงามแห่งนี้ เกิดจากแรงศรัทธาของ “สล่านก” ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ที่ได้หลอมรวมจุดเด่นลวดลายที่พลิ้วไหวมาจากศิลปินเอกอย่าง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เข้ากับรูปแบบผลงานของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ ผู้สร้างบ้านดำ จ.เชียงราย จนกลายมาเป็นพระอุโบสถศิลปะไทยประยุกต์ที่ใช้เฉดสีน้ำเงินฟ้าตัดกับสีทองเป็นเอกลักษณ์

f116fc96ecec8aa7bfb1628477adbd177a7e624d.jpg


มองด้านนอกว่าสวยแล้ว พอได้เข้าไปชมด้านในทำให้เราแทบอ้าปากค้างด้วยความทึ่ง…เพราะผนังด้านในพระอุโบสถจรดเพดานเต็มไปด้วยภาพงานจิตรกรรมฝีมือประณีตและละเอียดงดงาม ในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ"  พระประธานสีขาวมุกขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตร สูง 6.5 เมตร  ซึ่งภายในพระเศียรได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุให้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล

7b2f48fba5fcf41fbc1a20541f966b76d5a6619e.jpg


ด้านหลังอุโบสถประดิษฐานพระพุทธรูปปางห้ามญาติสีขาวองค์ใหญ่  ประทับยืนหันหน้าไปทางเจดีย์พระธาตุแก้วจุฬามณีห้าพระองค์ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม มุมนี้มีนักท่องเที่ยวไม่ค่อยพลุกพล่านเท่าบริเวณด้านหน้าตัววิหาร เราสามารถเดินชมความงามได้แบบไม่ต้องเร่งรีบ

1c3694ca20081518bf5c91753f49102f28f0a914.jpg


หลังจากอิ่มใจไปกับงานพุทธศิลป์ที่วัดร่องเสือเต้น เราไปเติมพลังด้วยเมนูอร่อยๆ กันที่ “Melt in Your Mouth” คาเฟ่เก๋ๆ ริมแม่น้ำกก ที่ตกแต่งในสไตล์เฟรนช์วินเทจ แค่ทางเดินปูอิฐท่ามกลางสวนน้ำพุสวยๆ ด้านหน้า ก็ชวนให้รู้สึกว่ากำลังเดินเข้าไปเยี่ยมชมบ้านสวยๆ ในชนบทของฝรั่งเศสเลยเชียวล่ะ
7211b4d0fab0ee46a7ad2fa199af8c776076986e.jpg


ภายในร้านมีที่ให้นั่งชิลหลายมุม เราเลือกนั่งที่โต๊ะในห้องกระจกจะได้มองเห็นวิวสวนสวยๆ ชัดๆ จิบกาแฟฟังเสียงฝนคลอไปด้วยเบาๆ ระหว่างรออาหาร

b930ed16d6c6eae3fc725a8f3f91d0e2636ebc9e.jpg


วันธรรมดาช่วงกลางวันแบบนี้ลูกค้าไม่ค่อยแน่นเหมือนวันเสาร์อาทิตย์ แป๊บเดียว…พนักงานก็นำอาหารมาเสิร์ฟ มื้อนี้เราขอประเดิมด้วยเมนูพื้นเมืองผสมอินเตอร์แบบฟิวชั่น จัดหนักทั้ง “ชุดกระเช้าน้ำพริกเมลท์” ชุดน้ำพริกเสิร์ฟพร้อมผักสดสำหรับคนรักสุขภาพที่ทางร้านจัดมาในกระเช้าสองชั้นเก๋ๆ ใครจะคิดว่าน้ำพริกก็สามารถพรีเซนท์ออกมาให้ดูเท่ได้แบบนี้ ยังมีเมนูพาสต้าไส้อั่ว และพิซซ่าผักโขมเบคอนอีกถาดใหญ่ แป้งพิซซ่าบางกรอบได้รสชีสและผักโขมกลมกล่อมเต็มๆ คำ

910a65756b0e82a2ce28059ac0f2c0bf8a7b25f6.jpg


สาวๆ คนไหนเป็นสายหวาน ต้องไม่พลาดเมนู “เมลท์ฟินน์ฟรุตตี้” สตรอว์เบอร์รี่ปั่นเสิร์ฟพร้อมเบอร์รี่สด ท้อปด้วยวิปครีมและไอศกรีมโยเกิร์ตแก้วโต รสชาติเปรี้ยวอมหวานของสตรอว์เบอร์รี่เข้ากันได้ดีกับไอศกรีมโยเกิร์ตหอมๆ แถมยังเป็นสูตร Fat Free ไม่ต้องกลัวอ้วน

b5ae9b72231e54517d505c2a722d71487d78002f.jpg


จากตัวเมืองเชียงราย เราขับรถไปที่ “วัดห้วยปลากั้ง” วัดนอกเมืองเชียงรายที่ตั้งอยู่บนเนินเขาในตำบลริมกก เพื่อชมรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากจะได้ตื่นตากับสิ่งปลูกสร้างที่ถวายเป็นพุทธศิลป์สุดอลังการภายในบริเวณวัดแล้ว วัดห้วยปลากั้งยังเป็นแลนด์มาร์คสำหรับช่างภาพที่ชอบถ่ายรูปอีกด้วย

8a49ee86fe4ade509bc137035b52253c267c572a.jpg


เนื่องจากตัววัดตั้งอยู่บนเนินเขา ทางวัดจึงมีบริการรถรางพาเที่ยวชมจุดต่างๆ แต่ถ้าใครอยากเดินเที่ยวสำรวจรอบๆ ด้วยตัวเองก็ทำได้ เราลองเดินขึ้นบันไดที่มีมังกรตัวใหญ่ตั้งตระหง่านขึ้นไปยังฐานรูปปั้นองค์เจ้าแม่กวนอิม ลักษณะบันไดออกแบบได้ดีไม่ชันมาก พอเรียกเหงื่อได้นิดๆ ภายในองค์เจ้าแม่กวนอิมยังมีลิฟท์ให้ขึ้นไปชมวิวจากมุมสูงได้ด้วย น่าเสียดายที่เรามาช่วงเย็นที่ลิฟท์ปิดไปแล้วเลยอดขึ้นไปชมวิวด้านบน คราวหน้ามาใหม่อีกครั้งรับรองว่าไม่พลาดแน่นอน!

92dc018771a5e4f7cfef9e0f7fe7cb4c7e2ed2f4.jpg


นอกจากรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่แล้ว ไฮไลท์ของที่นี่ยังมี “พบโชคธรรมเจดีย์” เจดีย์เก้าชั้นที่สวยงามศิลปะแบบจีนผสมล้านนา ภายในเจดีย์มีเจ้าแม่กวนอิมจำลองแกะสลักด้วยไม้จันทน์หอมทั้งองค์ โดยแต่ละชั้นจะมีพระพุทธรูปประจำชั้นประดิษฐานเรียงรายอยู่ด้วย ถัดไปใกล้ๆ กันยังเป็นที่ตั้งของพระวิหารพบโชค วิหารสีขาวล้วนที่ตระการตาตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดานที่สลักเสลาเป็นลวดลายวิจิตรงดงาม

a0c509a1ccfaff2716267f054eb5efa4211c6384.jpg


ถ้าใครไปช่วงหลัง 6 โมงเย็น แนะนำให้เดินเล่นและรอทางวัดเปิดไฟประดับตามมุมต่างๆ บอกเลยว่าบรรยากาศตอนกลางคืนที่วัดห้วยปลากั้งสวยงามมากๆ แสงไฟส่องประกายสะท้อนกับสิ่งปลูกสร้าง ทั้งเจดีย์ วิหาร และรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม เป็นภาพที่แตกต่างจากตอนกลางวัน งดงามมีเสน่ห์ไปกันคนละแบบ

d6fda572b63432daba7b9b11b1535025a2981019.jpg


หลังจากตะลอนเที่ยวในเมืองเชียงรายมาทั้งวัน เราไปเช็คอินเข้าที่พักของเราคืนนี้ที่ “เชียงรายเรียวกัง” ที่พักเล็กๆ สไตล์ญี่ปุ่นสุดน่ารัก ตั้งอยู่ในเขตอำเภอแม่ลาว ห่างจากตัวเมืองเชียงรายโดยการขับรถมาประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็จะได้มาพักผ่อนในบรรยากาศแบบ “เรียวกัง” หรือที่พักแบบโรงเตี๊ยมในสมัยเอโดะของญี่ปุ่น

449a1839a8f09ae6de8d2df75296d58c4b5080f3.jpg


ห้องพักที่นี่ออกแบบได้อบอุ่นน่าพักมากๆ มีทั้งประตูบานเลื่อนแบบโชจิที่ทำจากโครงไม้สนกรุด้วยกระดาษฟางข้าวสีขาว ห้องพักปูด้วยเสื่อตาตามิ พร้อมชุดยูกาตะให้แขกที่มาพักได้สวมใส่ภายในห้องและยังมีอ่างแช่น้ำร้อนเอาท์ดอร์ในสวนหินญี่ปุ่นด้านนอกให้เราลงไปแช่น้ำร้อนผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้อีกด้วย

fc3b3fa0a6d697fb4d43e3094737a84791cb901d.jpg

9081bb2c62ad23998d1e27e7835e3f60cf115900.jpg


18d0d246f5e8a16441aba8926d057e52a7262641.jpg


ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าที่ทางเชียงรายเรียวกังจัดมาเป็นเซ็ทแบบญี่ปุ่นแท้ๆ มีทั้งข้าวต้ม ซุปเต้าหู้สาหร่าย ปลาทอด หมูทอด ผัดผัก และข้าวปั้น พร้อมน้ำชา ขนมและผลไม้อีกชุดใหญ่ อิ่มแปล้พร้อมออกไปลุยเที่ยวเชียงรายกันต่อแล้ว!
de10a8041a32dfe3a759093316a8d8d5e4fe046b.jpg


จุดหมายแรกของวันนี้ คือสถานที่ท่องเที่ยวแลนด์มาร์คของเมืองเชียงรายอย่าง “วัดร่องขุ่น” ใครมาเชียงรายแล้วไม่ได้มาที่นี่ ถือว่ามาไม่ถึง นอกจากจะได้ทึ่งกับผลงานศิลปะของศิลปินเอกชาวเชียงรายอย่าง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ผู้ที่อุทิศตนให้แก่พระพุทธศาสนาและสร้างสรรค์ผลงานสุดประณีตออกมาเป็นพุทธบูชาแล้ว สถาปัตยกรรมทุกชิ้นภายในวัดร่องขุ่นยังสอดแทรกพุทธปรัชญาและปริศนาธรรมเอาไว้ให้ผู้ที่มาเยือนได้ค้นพบ

bc15c1a585faf44743dd6d54dca532fe0db450f8.jpg

3404696ab9d9697a480a1bc97aa3bb3d905d728a.jpg

0fea4c5485ff1525ddcebb5fe3b12892bf7ef9a8.jpg


นอกจากไฮไลท์อย่าง “พระอุโบสถขาว” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกแล้ว ทุกครั้งที่มาเยือนวัดร่องขุ่น เราจะได้ตื่นตากับสิ่งปลูกสร้างใหม่ๆ อย่างครั้งนี้เราก็ได้มาชมความยิ่งใหญ่ของหอพระพิฆเนศที่เพิ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ได้ไม่นาน อลังการกับสะพานแขวนสีทองที่ทอดยาวไปยังตัวหอพระพิฆเนศที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ โดยมีองค์พระพิฆเนศขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ท่ามกลางประติมากรรมลวดลายปูนปั้นอันอ่อนช้อย

6e41c4c37ae74afc1d105ec9b7ea60e6ff5e6645.jpg


หลังจากชมศิลปะสวยๆ ที่วัดร่องขุ่นกันจนเต็มอิ่ม เราขับรถมุ่งหน้าไปเที่ยวกันต่อที่ “สิงห์ปาร์ค” อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของเชียงราย สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแนวธรรมชาติอย่างฟาร์มเกษตร ก่อนเข้าไปเที่ยวในฟาร์มเราก็ไม่พลาดไปเซลฟี่กับเจ้าสิงห์ทองตัวยักษ์สัญลักษณ์ของที่นี่บริเวณด้านหน้าทางเข้าเป็นที่ระลึกกันซะหน่อย

f38d0cbb9b1c53351b5f5c27cf01bd1348d25179.jpg


นอกจากจะได้นั่งรถรางเที่ยวชมฟาร์มเกษตรเนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ ภายในมีทั้งไร่ชา สตรอว์เบอร์รี่ พุทรา มัลเบอร์รี่ ฯลฯ ปลูกหมุนเวียนกันไปตามฤดูกาล หากมาช่วงฤดูฝนแบบนี้ที่ผลไม้และดอกไม้ยังไม่ออกดอกออกผล ลองไปผจญภัยโหนซิปไลน์จากบนหอสูงกระตุ้นอะดรีนารีนกันซะหน่อย สนุกแถมยังได้ชมวิวทะเลสาบจากมุมสูงแบบนี้อีกด้วย

3982b26c3c9e68faec4056b04fe8c5f6b19148a6.jpg

b9ad5d6e0b861cf1faa03a49bd555182d4068280.jpg

a7736d90190c83596b7e0f443ef68ac78aa3989a.jpg


มื้อเที่ยงเราขับรถเข้าไปในตัวเมืองเชียงราย เพื่อไปทานมื้อกลางวันกันที่ร้าน “ผามไส้อั่ว” ร้านอาหารเหนือสไตล์ฟิวชั่นสุดเก๋ ที่ทำให้การทานอาหารพื้นเมืองดูไม่จำเจอีกต่อไป เริ่มตั้งแต่สไตล์การออกแบบตกแต่งร้านที่ดูร่วมสมัยแต่ยังรักษาความเป็นล้านนาไว้ ไปจนถึงเมนูอาหารเหนือที่มีให้เลือกลิ้มลองหลากหลายเหมือนฝีมือแม่ทำให้กินที่บ้าน

450d984bb4084d257876567faaf9de125a0d6562.jpg


สำหรับการตกแต่งภายในร้านได้กลิ่นอายความเป็นพื้นเมือง บนผนังมีกวักข้าว หรือ “กัวะข้าว” ภาชนะที่คนภาคเหนือใช้คนข้าวเหนียวที่นึ่งสุกใหม่ๆ ทำจากไม้สักแท้ ซึ่งเจ้าของร้านสะสมและนำมาใช้ตกแต่งภายในร้าน ช่วยเสริมเสน่ห์ให้ผนังปูนเปลือยสไตล์ลอฟท์ดิบๆ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

fde47661f1281082e2882e22ed59e2b75278e3a9.jpg


เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ มาแล้วต้องไม่พลาดสั่ง อาทิ ผัดกะเพราไส้อั่วที่ทางร้านพลิกแพลงสูตรผัดกะเพรา นำเอาไส้อั่วมาเป็นวัตถุดิบหลัก ส่วนใครชอบกินอาหารเหนือต้องลองเมนูนี้ “ล้านนาผาม” ออร์เดิร์ฟเมืองที่รวมของกินพื้นเมืองเหนือ ทั้งแคบหมู น้ำพริกอ่อง ไส้อั่ว และแกงฮังเล เสิร์ฟพร้อมผักสดชุดใหญ่ ตบท้ายด้วยซาลาเปาหลากหลายไส้ มีให้เลือกทั้งไส้อั่ว, แกงฮังเล ฯลฯ ซาลาเปาที่นี่ลูกใหญ่ ไส้แน่นเว่อร์ กินเข้าไปแค่ลูกเดียวก็อิ่มตื้อจนแทบลุกไม่ขึ้นกันเลยทีเดียว

ec7b9437bae3f949641459b72b618f256082ddeb.jpg


อิ่มแล้วตอนบ่ายขอเปลี่ยนชุด ไปตะลุยเที่ยวไร่ชากันต่อที่ “ไร่ชาฉุยฟง” ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกชาอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ฟินกับไร่ชาที่มีขนาดเนื้อที่กว่า 1,200 ไร่ นอกจากนี้ ยังมีคาเฟ่เก๋ๆ ให้เราได้นั่งจิบชาชมวิว โดยเฉพาะชาเขียวและเบเกอรี่ที่นี่ขึ้นชื่อมาก แนะนำสั่งชาเขียวมัตฉะมาทานคู่กับเครปชาเขียว แค่ตักเข้าปากคำแรกก็ฟินนนน…สุดๆ

f65c1fe7cfe6b93e07324f0cf20f98a0cf0699e6.jpg

5d830e9eeb71b133769ce17087af42bec54eb564.jpg

d990026193fbd2cc0583bd1163bb4e9810d81240.jpg


ถ้ายังไม่จุใจ ขับรถทะลุขึ้นไปเที่ยว “ไร่ชา 101 บนดอยแม่สลองกันต่อ ลองแปลงร่างเป็นชาวเขา เก็บใบชากันซะหน่อย ที่นี่เค้ามีตะกร้าเก็บชาให้เช่าเป็นพร็อบไว้ถ่ายรูปในราคา 20 บาท เหมาะจะมาเดินเล่น ถ่ายรูปท่ามกลางวิวไร่ชาที่ลดหลั่นไปตามแนวเขาบนเนื้อที่รวมทั้งหมดกว่า 350 ไร่ ซึ่งหากใครมาเที่ยววันธรรมดาแบบเรา เหมือนแทบจะเหมาทั้งไร่ชาเป็นของเราคนเดียว เพราะแทบไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ให้เห็นเลย

cbdc11d04709ecad9d71009f794b94f0c2110135.jpg

3aa1fccd00fb9c2bd057dd64d94c96538005f1d4.jpg


เดินเล่นถ่ายรูปในไร่ชาจนจุใจแล้วไปนั่งพักจิบชาหอมๆ แล้วไปเลือกซื้อใบชากลับไปฝากคนที่บ้าน ที่ไร่ชา 101 มีร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ชาหลากหลายให้เลือกซื้อ ใครเป็นนักดื่มชามือใหม่แนะนำ ชาอู่หลงเบอร์ 12 ที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ จิบง่าย หรือจะขยับไปลองชิมชาอู่หลงเบอร์ 17 หรือชาอู่หลงก้านอ่อนที่ทางไร่ได้คัดสรรยอดใบชาชั้นดีจนกลายมาเป็นชารสชาติกลมกล่อม ส่วนใครเป็นคอชาตัวจริง ก็มี “ตุ้งติ่ง” (ชาอูหลงเบอร์ 19) ชาที่ผ่านกระบวนการหมักและอบแบบพิเศษ ทำให้ได้รสชาติชาที่เข้มข้น แต่ยังคงความหวานชุ่มคอ นอกจากนี้ ยังมีชาหอมหมื่นลี้, ชาอู่หลงน้ำค้าง, ชาเขียวอู่หลงมัทฉะ พร้อมชุดอุปกรณ์ชงชา ฯลฯ ให้เลือกช้อปเป็นของฝากกลับบ้านอีกหลายแบบ

a49e1a975c53c91b412e96a0ed45c47dd6f30c44.jpg

a1175de40030e78356707474ea927bf70bce6cdc.jpg


ด้านบนยังเปิดเป็นที่พักบรรยากาศดี ชื่อว่า 101 Tea Green View Resort ที่พักสไตล์ลอฟท์ท่ามกลางบรรยากาศของไร่ชาที่โอบล้อม สามารถมองเห็นวิวไร่ชาจากระเบียงห้องได้เลยแบบนี้ เราเลยตัดสินใจพักที่นี่เพื่อซึมซับบรรยากาศกันสักคืน

9b2b6a4af3cd9b6c4695906dc5866b67ea703266.jpg

d50eb0eb00121b8fa764311558947ea2ceba4635.jpg


เราทานอาหารมื้อเย็นที่ร้านอาหารภายในรีสอร์ท จัดหนักกับเมนูสุกี้ยูนนาน ที่มีทั้งเต้าหู้ ไข่ไก่ เห็ด และผักสดอีกหลากหลายให้ลวกในหม้อสุกี้ตรงกลาง และยังมีเนื้อแดง เบคอนให้ได้นั่งปิ้งหมูบนกระทะไป พร้อมซดน้ำซุปสุกี้ร้อนๆ ท่ามกลางอากาศดีๆ มองเห็นวิวภูเขาสวยๆไปด้วยแบบนี้ บอกเลยว่าฟินนนน…

c98cf7c7aac4ea52abfa934111d44cd1e53389c8.jpg


acb6bc5c0060c4cd577906e094b03af8447431f8.jpg


วันสุดท้าย เราเช็คเอาท์จากรีสอร์ทตอนสายๆ แล้วขับรถไปเที่ยวที่ “บ้านหล่อโย” หมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่บนดอยท่ามกลางหุบเขาในตำบลแม่สลองนอก และอยู่ไม่ไกลจากดอยแม่สลอง ที่นี่เป็นชุมชนชาวไทยเชื้อสายอาข่าที่ปัจจุบันชาวบ้านในชุมชนได้ช่วยกันพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับใครที่สนใจอยากไปเรียนรู้วิถีชีวิตชาวอาข่าที่นี่ โดยมีทั้งที่พักบ้านดินแบบโฮมสเตย์ให้ค้างคืนได้ด้วย ถ้าหากไม่ได้มาพักก็สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ อย่างเดินเที่ยวรอบๆ ชุมชน, ปักผ้า, ทำกำไลข้อมือ, เล่นไม้โยกเยก, โล้ชิงช้าอาข่า ฯลฯ ร่วมกับเด็กๆ ชาวอาข่าที่เป็นมัคคุเทศน์น้อยในชุมชน

7edb85c04732d2724dd0eaf8e6c18ae90078cd14.jpg

dec7ba186bed8b7b2efc15bb4274a4373263989c.jpg


นอกจากจะได้จิบชาและฟินกับวิวสวยๆ ในที่พักของบ้านดินชาวอาข่าแล้ว เรายังได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นี่ผ่านการทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน อย่างการเรียนทำอาหารอาข่า ซึ่งจะมีชาวบ้านในชุมชนมาคอยสอนและให้คำแนะนำในการลงมือทำทุกขั้นตอน ทั้งสนุกและได้ภูมิใจกับอาหารอร่อยๆ ฝีมือของเราเองอีกด้วย

a5790fa3fe3e84d9e6821895fac425463d16c1fb.jpg

5b105a894bc1213b7ee54a3f712af3f2c0af7df8.jpg


หลังจากอิ่มอร่อยและสนุกสนานไปกับการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมในชุมชน น่าเสียดายที่ทริปนี้เราต้องถึงเวลาอำลาเชียงรายกันซะแล้ว เวลาสั้นๆ แค่ 3 วันในเชียงราย…ยังทำให้เราตกหลุมรักได้ขนาดนี้ แล้วคุณล่ะ…พร้อมจะออกมาค้นหาเสน่ห์ของเมืองนี้ด้วยตัวเองแล้วหรือยัง?

1acf65f0dac846e98eed8ec7c0eba6c3f2689397.jpg





 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai