bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ดำน้ำ ปลูกปะการัง นอนฟังเสียงคลื่น... 2 วัน 1 คืน ที่

calendar_month 23 มี.ค. 2017 / stylus Admin Chillpainai / visibility 307,391 / ทริปตัวอย่าง



... หากพูดถึง 'เกาะทะลุ' ...
 หลายคนอาจจะเข้าใจว่าเป็นเกาะทะลุที่อยู่ไม่ไกลจากเกาะเสม็ดในจ.ระยอง แต่ทริปนี้เราจะไปทางฝั่งตะวันตก เลยจุดที่แคบที่สุดของประเทศแล้วข้ามเรือไปที่เกาะทะลุ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

หน้าร้อนแบบนี้ใครๆ ก็อยากหนีเที่ยวไปติดเกาะกันใช่ไหมล่ะ ✨
 เราเลยจะพาไปเที่ยวเกาะแห่งหนึ่งที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ ทั้งความเขียวขจีของป่าดิบชื้นอันเป็นที่อยู่อาศัยของค้างคาวแม่ไก่ กับน้ำทะเลสีฟ้าใสเป็นประกายและหาดทรายขาวทอดยาวให้เราได้ไปเล่นน้ำ อาบแดดกัน ไม่เพียงเท่านั้นหาดทรายที่นี่ยังเป็นที่ถูกใจของเต่าทะเล ทำให้มีเต่ากระมาวางไข่ทุกปี แค่นี้ก็อยากรู้แล้วว่าจะเป็นไง รีบจัดกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันเลย

05


วันนี้ออกเดินทางแล้วนะ ตื่นเช้ากันหน่อยค่ะทุกคนนนนน.. เราเริ่มออกเดินทางตั้งแต่ 7 โมงเช้า ซื้อเสบียงอาหารกันให้พร้อมแล้วขับรถชิลๆ ไปเรื่อยๆ คนเป็นผู้โดยสารอย่างเราหลับแป๊บเดียว ตื่นมาอีกทีก็ถึงหัวหินแล้ว เหลือบไปดูนาฬิกาก็ได้เวลาอาหารกลางวันพอดีกับตอนที่มีเสียงท้องร้องแว่วมาให้ได้ยิน เราเลยแวะหาร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี มื้อแรกก็ขอเป็นอาหารทะเลเลยแล้วกันที่ 'ร้านเรือริมธาร' อยู่ในย่านเขาตะเกียบ ได้ชมวิวเขาพร้อมกับลมเย็นๆ และอยู่ริมคลองที่ชาวประมงนำเรือมาจอดกัน ถือว่าบรรยากาศดีใช้ได้เลย 


 
แล้วยิ่งพอเห็นเมนูอาหารเท่านั้นแหละ น่าทานมากกกกก! เริ่มจากอะไรก่อนดีล่ะ... เนื้อปูผัดพริกไทยดำก็น่าสนใจ เห็นหมึกนึ่งมะนาวก็เริ่มจะน้ำลายไหล แล้วยังมีปลากระพงทอดน้ำปลาที่มาพร้อมกับยำมะม่วงอีก โอ้ยย ขอทานเลยละกันนะคะ~

พออิ่มแล้วเราก็ออกเดินทางกันต่อ จะว่าไปเจ้าเกาะทะลุที่เราจะไปเยือนครั้งนี้ก็อยู่เกือบสุด จ.ประจวบฯแล้วนะ เลยไปอีกนิดเดียวก็เป็น จ.ชุมพร ใครที่คิดว่าอยู่ประจวบฯใกล้นิดเดียว อยากให้เผื่อเวลาเดินทางหน่อยก็ดีนะคะ :)
ขับตรงมาเรื่อยๆ พอถึง อ.บางสะพานก็เลี้ยวซ้าย ขับไปตามทางเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกไปยังท่าเรือค่ะ ประมาณสิบกว่ากิโลเมตร เราก็มาถึงท่าเรือเกาะทะลุ บ้านมะพร้าวรีสอร์ท นั่งรอเรือสักพักก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางไปยังเกาะทะลุโดยเรือสปีดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาทีเองค่ะ


ถึงแล้ววว เกาะทะลุ! ยังไม่ทันลงจากเรือก็ปลื้มสุดๆ กับสีของน้ำทะเล ทั้งสวยและใสจนเห็นปลาแหวกว่ายอยู่ด้านล่างเต็มไปหมด เรารีบขึ้นเรือ ไปเช็คอินที่พักจะได้มาสัมผัสความงามแบบเต็มๆ


ที่เกาะแห่งนี้เป็นอีกหนึ่ง Private Island ที่มีที่พักเพียงแห่งเดียวบนเกาะ คือ Koh Talu Island Resort โดยที่พักจะแบ่งเป็น 2 โซนคือที่พักบริเวณอ่าวใหญ่และอีกแห่งหนึ่งคือที่อ่าวมุก โดยอ่าวใหญ่ที่เราจะพักคืนนี้มีห้องพักอยู่ 2 แบบเป็น Thai Style Village บ้านทรงไทยตั้งรับลมอยู่ริมหาดและ Deluxe บ้านทรงไทยประยุกต์ตั้งอยู่บนเนินเขา ส่วนบ้านพักที่อ่าวมุกนั้นเหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนแบบส่วนตัวและอยากสัมผัสธรรมชาติแบบใกล้ชิด

และนี่คือห้องพักแบบ Thai Style Village



ส่วนนี่คือห้อง Deluxe ค่ะ 


หลังจากเก็บของและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ เราก็รีบกลับไปยังท่าเรือเพราะมีกิจกรรมน่าตื่นเต้นอรออยู่ เราเพิ่งรู้ว่ากว่า 20 ปีแล้วที่เกาะทะลุได้ทำโครงการปลูกปะการัง โดยแต่ละวันจะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมกันปลูกปะการังและดำน้ำตื้น สำรวจโลกใต้น้ำซึ่งถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดที่สมบูรณ์ที่สุดในอ่าวไทย


 
การปลูกปะการังก็ง่ายนิดเดียว ครูบอย ครูสอนดำน้ำลึกและนักอนุรักษ์และฟื้นฟูแนวปะการัง จะเป็นคนสอนเราเองค่ะ ก่อนอื่นครูบอยจะเล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปว่าสมัยก่อน ที่เกาะทะลุแห่งนี้มีปะการังเยอะมาก เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด แต่เนื่องจากการหาปลาแบบไม่ถูกวิธีของชาวประมงทำให้ปะการังตายไปเป็นจำนวนมาก

การมาเที่ยวครั้งนี้จึงเป็นอีกหนึ่งทริปที่ประทับใจ ได้ช่วยสร้างบ้านให้น้องปลา เรามาเริ่มกันที่ครูบอยจะแจกกิ่งปะการังเขากวางจากแปลงอนุบาลให้ทุกคนนำมาเสียบไว้ที่ท่อพีวีซีที่เจ้าหน้าที่จัดเตรียมเอาไว้ให้ ซึ่งปลอดภัยต่อธรรมชาติและปะการัง อีกทั้งสัตว์น้ำอื่นๆ ยังสามารถมายึดเกาะได้อย่างกลมกลืน เพื่อนๆ หายห่วงได้เลยค่ะ

พอปลูกเสร็จแล้ว แชะภาพสักหน่อย จากนั้นต้องรีบพาต้นกล้าของเหล่าปะการังที่เราช่วยกันปลูกไว้ไปวางไว้ใต้ท้องทะเล เรารีบหยิบหน้ากากดำน้ำแล้วโดดตามลงไปดูจุดวางปะการัง เห็นแล้วก็อดยิ้มในใจไม่ได้ (ยิ้มจริงๆไม่ได้นะ เดี๋ยวน้ำเข้าหน้ากาก ฮ่าๆๆ) เราเห็นว่าใกล้กันนั้นมีปะการังที่เคยปลูกไว้ เติบโตดีมาก ออกกิ่งก้านใหม่ๆ เพรียบ ขึ้นจากน้ำเลยมาถามครูบอย ก็ได้ความว่าปะการังที่เราเห็นอายุได้เพียง 4-5 ปีเท่านั้น แต่ที่เกาะทะลุแห่งนี้คลื่นลมไม่แรงและแสงแดดส่องถึง เหมาะแก่การเจริญเติบโต จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม่ปะการังที่เราเห็นถึงโตเร็ว



พอเสร็จภารกิจเราก็กลับไปอาบน้ำพักผ่อนที่ห้องก่อนตกเย็นจะออกไปล่องแพตกหมึก ใครมาพักที่เกาะทะลุ แนะนำว่าห้ามพลาดกิจกรรมนี้ เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของทริปเลยก็ว่าได้

เมื่อพร้อมแล้ว ก็รีบไปลงแพ จะมีแจกอุปกรณ์ตกหมึกให้ เป็นพลาสติกแผ่นกลมๆ พันด้วยเอ็นตกปลา ส่วนปลายจะมีเหยื่อล่อ วิธีการก็แค่หย่อนสายเอ็นลงไปจนสุด จากนั้นก็นั่งชิลๆ คอยขยับสายเอ็นเพื่อทำให้เหยื่อดูมีชีวิต เรานั่งสังเกตดูแล้วอาจจะต้องมีทริคพิเศษอะไรรึเปล่านะ? เพราะคนที่ตกได้ก็จะตกได้เรื่อยๆ 



ส่วนใครที่ตกไม่ได้เลยก็จะเปลี่ยนไปถ่ายรูปบ้าง เซลฟี่กันบ้าง เพราะบรรยากาศดีสุดๆ ยิ่งช่วงที่ฟ้าเปลี่ยนเป็นสีนะ 10! 10! 10! ไปเลยค่า~
 นอกจากนี้บนแพยังมีเตาปิ้งบาร์บีคิวไว้ให้ด้วย มีทั้งหมู ไก่ หมึก กุ้ง แถมใครตกหมึกได้ เราก็จะได้ลิ้มรสหมึกสดๆ รสชาติหวาน ทานคู่กับวาซาบิยิ่งแซ่บ!





 
เราใช้เวลาอยู่บนแพกันนานแค่ไหนก็จำไม่ได้แล้ว รู้แต่ว่าอยากจะหยุดเวลาไว้ ให้พระอาทิตย์ตกช้าๆ เพราะมันดีต่อใจเหลือเกิน 
แต่ไม่ทันไรเราก็ต้องกลับขึ้นฝั่งกันซะแล้ว ใครยังไม่อิ่มไปทานต่อกันได้ที่ห้องอาหารนะคะ วัตถุดิบหลักๆ ก็จะเป็นอาหารทะเล ไม่ว่าจะสเต็กกุ้ง หมึก และปลา ที่รสชาติเรียกได้ว่าอร่อยเหาะ นอกจากนี้ก็มีอาหารไทย อาหารฝรั่ง และอื่นๆ อีกมากมายให้เลือกทาน ส่วนเราขอปิดท้ายด้วยข้าวเหนียวมะม่วง หอม หวาน อร่อย ข้าวเหนียวก็นุ๊มนุ่มมม.. คืนนี้เลยทั้งกินอิ่มและนอนหลับสบายเลยค่ะ zZZ
 

ตื่นเช้าอย่างสดใส เริ่มด้วยการเดินย่ำทรายขาวละเอียดเลียดลงน้ำทะเลเย็นๆ รับรองได้เลยว่ากิจกรรมวันนี้ต้องถูกใจสาวๆ แน่นอน

เริ่มจากการโยคะริมชายหาด เพื่อปรับสมดุลในร่างกาย และผ่อนคลายความคิดไปการคลื่นลม เราจึงนึกขึ้นได้ว่า... นานแค่ไหนแล้วนะ ที่เราไม่ได้ออกกำลังกาย? เพราะขาและแขนตึงมาก นานๆ ทีได้มาผ่อนคลายอย่างนี้ก็ดีเหมือนกันนะ

ต่อจากโยคะเราก็มานอนห่มทราย ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น แต่จะจริงรึเปล่านั้นเราก็รู้สึกสบายตัวสุดๆ ไปเลย แล้วยิ่งพอลุกขึ้นมาจิบเครื่องดื่มสมุนไพรแล้วร่างกายหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง


เช้านี้รู้สึกว่าได้ Refresh ตัวเอง นอกจากจะรู้สึกสดชื่นแล้ว ยังเหมือนได้เติมพลัง มีแรงกลับไปปั่นงานต่อด้วย

 เราเดินเล่นไปอีกหน่อยเพราะเขาบอกว่าใกล้ๆ นี้มีบ่ออนุบาลเต่าทะเล เนื่องจากที่เกาะแห่งนี้มีธรรมชาติที่สมบูรณ์มากจนแม่เต่ามาวางไข่ที่ชายหาด ผู้บริหารรีสอร์ทจึงได้จัดตั้งมูลนิธิฟื้นฟูทรัพยากรทะเลสยามขึ้น เนื่องจากเต่าทะเลมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงต้องช่วยเขาให้รอด เลี้ยงให้โต แล้วจึงปล่อยกลับคืนสู่ทะเล เราจึงได้เห็นน้องเต่าในหลายๆ ช่วงอายุ ทั้งตัวเล็ก ตัวโต ตัวจิ๋ว บางตัวก็จะถูกเลี้ยงเอาไว้ศึกษาวงจรชีวิต โดยจะมีคณะปฏิบัติงานมาคอยตรวจสุขภาพน้องเต่าของเราอยู่เรื่อยๆ




พอหายเหนื่อยแล้วเราก็ไปล้างตัว อาบน้ำอาบท่าแล้วไปทานอาหารเช้ากันค่ะ แต่ขอเตือนนิดนึงว่าอย่าเพิ่งทานเยอะนะ เดี๋ยวจะอิ่มซะก่อน เพราะเรามีกิจกรรมทำอาหารกันด้วย เป็น Cooking Class ทำอาหารว่างจากวัตถุดิบที่หาได้บนเกาะและท้องถิ่นค่ะ
อาหารเช้าของที่นี่ก็มีทั้งอเมริกันเบรกฟาสต์ อย่างขนมปังและสารพัดเมนูไข่ เบค่อน อาหารไทยก็มีนะคะ อย่างเช่น ข้าวต้มทะเล ผัดผัก ปลาทอด เป็นต้น ส่วนชา กาแฟ น้ำผลไม้ ก็มีครบ บริการตัวเองกันได้เลยจ้า


ทานเสร็จแล้วเรามาดูกันค่ะว่ากิจกรรม Cooking Class ของเราจะทำเมนูอะไร โดยผู้ที่จะมาสอนเราก็คือแม่ครัวของที่นี่เอง คุณป้าใจดีที่มาพร้อมกับเมนูแสนอร่อยและที่สำคัญดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ เพราะจะเน้นที่ประโยชน์ของผัก 5 สี ซึ่งจะเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นไม่ได้ จะได้รับจากการรับประทานพืชผักเหล่านี้ ซึ่งเมนูแรกที่เราจะทำคือ ยำสาหร่ายพวงองุ่น! เจ้าลูกกลมๆ เขียวๆ พวงนี้ คุณป้าบอกว่าสาหร่ายพวงองุ่นนี้ทางรีสอร์ทจะเลี้ยงไว้เป็นอาหารเต่าอยู่แล้ว(เหมือนแย่งอาหารเต่ากินเลย ฮ่าๆ) ดังนั้นจะสดมาก รับประกันความกรุบ


เมนูต่อไปรับรองว่าต้องถูกใจสาวๆ สายเฮลตี้ และแน่นอนว่าต้องเป็นเมนูโปรดของใครหลายคน เพราะทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ นั่นก็คือ 'สลัดโรล' นั่นเอง แต่ที่พิเศษคือเราจะไม่พลาดของเด็ดของที่นี่ เราจึงใส่เจ้าสาหร่ายพวงองุ่นไปด้วย ช่วยเพิ่มรสชาติ ส่วนใครที่กลัวว่าไม่มีเนื้อสัตว์เลย อาจจะเลือกใส่ไส้กรอกหรือปูอัดที่ทานง่าย แล้วยิ่งถ้าได้ทานคู่กับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ อร่อยลื้มมม




เฮ้ออ.. ใจหาย ยังไม่ทันไรก็ต้องกลับแล้ว 2 วัน 1 คืนนี่ไม่พอจริงๆ สำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนบนเกาะทะลุ นี่ยังเก็บไม่ครบนะเนี่ย จริงๆ แล้วที่นี่เขามีกิจกรรมล่องเรือ ปีนเขา และกิจกรรมสนุกๆ อีกเพรียบ แต่ก็ต้องโบกมือลา บ๊ายบายจ้า แล้วจะมาใหม่แน่นอน



ก่อนกลับต้องแวะชม 'ช่องเขาทะลุ' ที่มาของชื่อเกาะ ซึ่งจะอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะ ณ บริเวณนี้จะมีกลุ่มปลาแหวกว่ายจำนวนมาก อีกทั้งยังเป็นจุดดำน้ำที่สวยงามอีกแห่งหนึ่ง แต่เสียดายที่เรามีเวลาน้อยไปหน่อย ไม่งั้นจะมีภาพใต้น้ำทะเลสวยๆ มาให้ชมแน่นอน


ถึงฝั่งแล้วเราก็รีบกระโดดขึ้นรถตู้ไปต่อกันเลย ก่อนกลับเราจะแวะไปทานอาหารเจ้าเด็ดที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านเขาสามร้อยยอด ใครจะรู้ว่าในที่พักแห่งนี้จะมีร้านอาหารเลิศรสที่บอกเลยว่าเป็น Little Gem ที่ใครมาเที่ยวแถวนี้ต้องห้ามพลาด ห้องอาหารของ 'อำไพฟาร์มรีสอร์ท' ที่จัดเต็มให้เราอิ่มหนำปิดท้ายทริปอย่างสมบูรณ์แบบด้วยกุ้งราดซอสมะขาม ใบชะครามผัดไข่ และแกงคั่วปูทะเลหน่อไม้ดอง 



ใครที่สนใจอยากไปเที่ยวเกาะทะลุ ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลยจ้า ที่ http://www.taluisland.com หรือ https://www.facebook.com/kohtaluvillage

 และถ้าใครอยากมาเที่ยวสไตล์ชิคๆ คูลๆ แบบเรา ซึ่งเรียกว่า "แพ็กเกจผู้หญิงเที่ยวเกาะ :  Happy Healthy ที่เกาะทะลุ" หรือจะเป็นแพ็กเกจท่องเที่ยวอื่นๆ สไตล์สาวๆ ของโครงการผู้หญิงเที่ยวไทย2017 สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ เบอร์โทร : 02-187-1008 หรือคลิ๊กเข้าไปดู www.traveligo.com/ผู้หญิงเที่ยวไทย2017 ตั้งแต่วันนี้ - สิงหาคม 2560

 


เรียบเรียงโดย ชิไปไหน03
 



 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close