bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

สัมผัสประสบการณ์ดาวเต็มฟ้า กับ 7 สถานที่ดูดาวที่ดีที่สุดในโลก

calendar_month 23 พ.ย. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 52,645 / เที่ยวต่างประเทศ

ปัจจุบันนี้เราแทบไม่เห็นดาวบนท้องฟ้าในเมืองใหญ่ๆ เลย เพราะเรามีการใช้หลอดไฟมาทดแทนแสงจากธรรมชาติ ซึ่งทำให้ตามเมืองที่เราอาศัยอยู่นั้นสว่างมากเกินไปจนไม่สามารถเห็นความงดงามของทางช้างเผือกได้ แต่ทุกวันนี้คนเริ่มสนใจการท่องเที่ยวเพื่อไปดูดาวมากขึ้น ทำให้หลายสถานที่ช่วยกันส่งเสริมและอนุรักษ์ที่ที่ท้องฟ้าเปิดและสามารถดูดาวได้ในตอนกลางคืน

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้สถานที่แห่งหนึ่งเหมาะสำหรับดูดาวก็คือสถานที่แห่งนั้นต้องอยู่บนที่สูง แห้ง มืด และคนสามารถเข้าถึงได้
เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าสถานที่ที่เหมาะแก่การดูดาวมากที่สุดในโลกมีที่ไหนบ้าง

05

 

ทะเลทรายอาตากามา (ATACAMA DESERT) ประเทศชิลี

ท้องฟ้าทางตอนใต้ที่มีดวงดาวมากมายลอยอยู่บนฟ้า ทะเลทรายอาตากามาเป็นสถานที่ดูดาวที่น่าตื่นตาตื่นใจ การที่มีดาราจักรเมฆแมกเจลแลน(Magellanic Clouds) และกลุ่มดาวกางเขนใต้(Southern Cross) ยิ่งทำให้ท้องฟ้าที่นี่สวยงามขึ้นไปอีก
ทะเลทรายอาตากามายังถือเป็นหนึ่งในสถานที่ที่แห้งแล้งที่สุดในโลกและเป็นที่ที่มีหอดูดาวมากมายจนเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของนักดาราศาสตร์เลยล่ะ

ส่วนใครที่อยากมาดูดาวที่นี่ มีหลายจุดในทะเลทรายแห่งนี้ที่เหมาะแก่การดูดาว (รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.astronomictourism.com) ท้องฟ้าที่ทะเลทรายแห่งนี้ทั้งโล่งและโปร่ง อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบที่เป็นดินแดงและก้อนหิน ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่บนดาวอังคาร ส่วนในเมือง San Pedro de Atacama ทางตอนเหนือของชิลีก็เป็นอีกหนึ่งจุดดูดาวที่ดีเยี่ยม ซึ่งขับรถจากทะเลทรายไปไม่ไกลนัก

 

 

ภูเขาไฟสูงๆ ในฮาวาย

ภูเขาไฟ Mauna Kea ถือเป็นหลังคาของรัฐฮาวายและยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่คนท้องถิ่นนับถือกันด้วย ถึงแม้ว่ายอดเขา(สูงกว่าระดับน้ำทะเล 13,800 ฟุต)จะปิดไม่ให้ขึ้นชมหลังจากพระอาทิตย์ตก ด้วยสาเหตุที่ว่าระดับออกซิเจนในอากาศจะลดต่ำลงและจริงๆ แล้วเราจะเห็นดาวได้ชัดกว่าเมื่ออยู่ในจุดที่ต่ำลงมา ศูนย์ข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวของที่นี่จะอยู่ในจุดที่เหมาะแก่การดูดาว ซึ่งคือที่ความสูง 9,200 ฟุต และที่สำคัญเพื่อรองรับความต้องการจึงมีการจัดโปรแกรมทัวร์ดูดาว สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย

ที่จุดสูงสุดของปล่องภูเขาไฟ Haleakalā (10,000 ฟุต) ที่เกาะเมาอิ ก็เป็นอีกที่ที่มีนักท่องเที่ยวมาชมวิวพระอาทิตย์ตกดินและรอดูดาวแบบพาโนรามา ที่นี่จะมีชมรมดูดาวของคนท้องถิ่นที่มักจะจัดทัวร์ดูดาวอยู่เป็นประจำ และอย่าลืมว่าถ้าคุณขึ้นมาจุดที่สูงเหนือน้ำทะเล ให้เตรียมพร้อมรับมือกับความหนาวและผลกระทบอื่นๆที่มาพร้อมกับความสูง
 

 

อุทยานแห่งชาติทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา

"คุณจะเห็นอีกครึ่งหนึ่งของอุทยานได้หลังจากพระอาทิตย์ตกดิน"

ทางอุทยานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาได้จัดโปรแกรมทัวร์ชื่อว่า 'Night Skies' ซึ่งเป็นการพยายามอนุรักษ์พื้นที่สุดท้ายที่เราจะได้เฟ็นท้องฟ้าตอนกลางคืนแบบธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีแสงจากหลอดไฟใดๆ ซึ่งอุทยานเซาท์เวสต์แห่งนี้ยังเป็นที่ที่คนนิยมมาดูดาวกันด้วย

อนุสาวรีย์สถานแห่งชาติสะพานสายรุ้ง(The Natural Bridges National Monument) ณ รัฐยูทาห์ สหรัฐอเมริกาได้กลายเป็นสถานที่แรกในโลกที่ถูกกำหนดให้เป็นเขตสงวนท้องฟ้ายามราตรีในปี 2007 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 1 ล้านคนนอนค้างคืนในแกรนด์แคนยอน(Grand Canyon)เพื่อดูดาว ส่วนในอุทยานแห่งชาติโยเซมิตี(Yosemite) มักเป็นที่ที่ดาราศาสตร์รุ่นเก๋ามาตั้งกล้องเทเลสโคปที่จุดกลาเซียร์พ้อยท์(Glacier Point)กันในช่วงฤดูร้อน อีกทั้งยังมีทางเดินชมดาวที่ให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเจ้าหน้าที่อุทยาน นอกจากนี้ที่หุบเขาแห่งความตายหรือ Death Valley ก็เป็นหนึ่งในเขตสงวนท้องฟ้ายามราตรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายและใช้แสงไฟที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้เปิดให้ดูดาวตลอดทั้งปี แต่อุทยานอื่นๆ ก็มีการจัดกิจกรรมดูดาวอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นอุทยาน Acadia ทางตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงภูเขา Rainier ทางตะวันตกเฉียงเหนือ หรือจะอุทยานแห่งชาติ Yellowstone ที่รัฐ Wyoming อุทยานแห่งชาติ Badlands ที่รัฐ South Dakota หรืออุทยานแห่งชาติ Big Bend ณ รัฐ Texas
 

 

เกาะ LA PALMA หนึ่งในหมู่เกาะคานารี (CANARY ISLANDS)


ภาพถ่ายโดย TWAN/NATIONAL GEOGRAPHIC

สวรรค์แห่งการปีนเขาและดูดาวแห่งนี้ห่างจากชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของแอฟริกาไปเพียงสี่ร้อยกว่ากิโลเมตร เนื่องด้วยการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากจึงเกิดทัวร์ดูดาวที่จะพาคุณไปยังอุทยานแห่งชาติ Caldera de Taburiente ซึ่งใกล้กับหอดูดาวตั้งอยู่ระดับความสูงที่ 7,870 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่คุณจะอยู่เหนือทะเลเมฆแต่ใต้ทะเลดาว 
เกาะเพื่อนบ้านอย่างเกาะ Tenerife ก็เป็นอีกสถานที่ดูดาวที่ได้รับความนิยม เพราะตั้งอยู่ในที่สูงของอุทยานแห่งชาติ 
Teide ที่ที่มีภูเขาฟขนาดใหญ่และยังเป็นจุดที่สูงที่สุดของมหาสมุทรแอตแลนติก
 

 

ชนบทอันห่างไกลทางตะวันตกของประเทศออสเตรเลีย


ชนบทในออสเตรเลียนั้นมืดมากๆ ไม่เชื่อดูได้ผ่านภาพจากดาวเทียมแล้วคุณจะเห็นว่ามันมืดแค่ไหน ดังนั้นอุทยานแห่งชาติหลายๆแห่งทางฝั่งตะวันตกของออสเตรเลียจึงเป็นสถานที่ที่เหล่านักท่องเที่ยวที่ชอบตั้งแคมป์ดูดาวโปรดปรานกันมาก อย่างเช่นอุทยานแห่งชาติ Nambung ที่อยู่ทางตอนเหนือของเมือง Perth โดยเอกลักษณ์อยู่ตรงที่มีก้อนหิน Pinnacles rock เรียงรายอยู่เต็มไปหมด


อุทยานแห่งชาติ SAGARMATHA ประเทศเนปาล

ภาพถ่ายโดย JEFF DAI, STOCKTREK IMAGES, INC./ALAMY
สถานที่ที่หลังคาโลกสัมผัสกับท้องฟ้า นักดูดาวที่มาประเทศเนปาลมักจะมาดูดาวที่หมู่บ้านในเทือกเขาหิมาลัยแล้วไปเทรกกิ้งต่อในตอนเช้า จุดที่คนนิยมมาดูดาวมากที่สุดจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้ นอกจากที่อุทยานแห่งชาติ Sagarmatha (เป็นภาษาเนปาลแปลว่า 'หน้าผากบนท้องฟ้า') ซึ่งอยู่ใกล้ Namche Bazaar ที่ที่ดวงดาวจนปรากฏเหนือยอดเขาเอเวอร์เรสต์


จุดดูดาว ALQUEVA DARK SKY ประเทศโปรตุเกส


ภาพถ่ายโดย BABAK TAFRESHI, TWAN/NATIONAL GEOGRAPHIC
Alentejo ภูมิภาคที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศโปรตุเกส และยังเป็นที่ตั้งของเขตสงวน Starlight Reserve หนึ่งในจุดหมายการเดินทางของนักท่องเที่ยวหลังจากการท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์เป็นที่นิยมมากขึ้น





เรื่องจาก National Geographic
เรียบเรียงโดย ชิไปไหน

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close