bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

เช็คอินก่อนใคร!! “Eathai” อาณาจักรอาหารไทยสุดชิค โฉมใหม่ @เซ็นทรัล เอ็มบาสซี

calendar_month 21 ก.ค. 2016 / stylus Admin Chillpainai / visibility 35,781 / รีวิวที่กิน

ใครที่ชอบการกินอาหารไทยเป็นชีวิตจิตใจ ห้ามพลาดสกู๊ปนี้เป็นอันขาดเลยค่ะ เพราะชิลไปไหนจะพาไปเช็คอินกันที่ “Eathai” ศูนย์รวมอาหารไทยอร่อยขึ้นชื่อที่หลากหลายและครบครันที่สุด ใหญ่ที่สุดในเวลานี้ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ซึ่งได้ปรับโฉมพร้อมขยายพื้นที่เพิ่มขึ้น โดยเปิดตัวโซนใหม่ รวมเป็น 13 โซน ตอบโจทย์ทั้งขาช้อป ขาชิมแบบครบในที่เดียว



หลังจากสร้างปรากฏการณ์ในการเป็นอาณาจักรอาหารไทยขึ้นห้างที่เก๋ ชิค แถมยังรวบรวมร้านเด็ดชื่อดังจากทุกภูมิภาคมาไว้ครบครันในที่เดียวแล้ว ในตอนนี้ Eathai ได้ปรับลุคใหม่อีกครั้ง โดยมาพร้อมกับการตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย ที่มีสีสันและความสนุกสนานภายใต้คอนเซ็ปต์ “ทิง นอง นอย” แค่ฟังชื่อก็ไม่ธรรมดาแล้ว จะอลังการและเต็มไปด้วยของกินละลานตาขนาดไหน ตามไปดูรีวิวกันเลยค่ะ


เราเริ่มออกสตาร์ทกันโดยมุ่งหน้าไปที่ชั้น LG พอลงบันไดเลื่อนมาปุ๊บ ก็พบกับโซนใหม่อย่าง “อีทไทยคาเฟ่” (Eathai Café) คาเฟ่เก๋ๆ ในคอนเซ็ปต์ All day dining ที่เสิร์ฟเมนูอาหารเช้า ของกินเล่น อาหารจานเดียวทั่วไป ฯลฯ เอาใจคนมีเวลาน้อยด้วยอาหารจานด่วนหลากหลายเมนู เหมาะสำหรับใครที่มองหามื้อง่ายๆ ในบรรยากาศชิคๆ เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนเมือง แต่ยังมีกลิ่นอายความเป็นไทยร่วมสมัยที่มีเสน่ห์แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไป 





จากนั้นเราก็เข้าไปโซนด้านในกันต่อ ระหว่างทางจะเห็นกิมมิคเก๋ๆ ที่นำมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นรถตุ๊กตุ๊ก หรือผนังที่ประดับด้วยฝาหม้อดินเผา สื่อถึงความเป็นอยู่และวิถีแบบไทยๆ ได้อย่างเก๋ไก๋ทีเดียวค่ะ


โซนถัดมาคือ โซนมุมอร่อย  (Moom Aroi) ที่คัดสรรอาหารเจ้าอร่อยจากทุกสารทิศมารวมไว้ที่นี่ โดยแต่ละร้านจะหมุนเวียนสับเปลี่ยนทุกสองสัปดาห์ อย่างเช่นวันที่เราไปรีวิว เป็นคิวของร้าน Jok's Kitchen ร้านเด็ดชื่อดังจากย่านเยาวราช ที่ยกความอร่อยระดับตำนานมาให้เราได้ชิมกันถึงที่ ทั้งเมนูปลาหิมะเจี๋ยน อกเป็ดรมควัน เผือกหิมะ ฯลฯ โดยไม่ต้องฝ่ารถติด หรือไปรอคิวที่ร้านอีกต่อไป (ปล.แอบกระซิบว่าร้านนี้เค้าไม่ได้ดังเฉพาะในเมืองไทย แต่ยังได้รางวัล Top Chefs Choose จากการโหวต 101 Best Place To Eat Around The World จากนิตยสาร Newsweek อีกด้วยนะคะ)


มาต่อกันที่โซนสตรีทฟู้ด  (Street Food) ที่รวบรวมสุดยอดร้านอร่อย ทั้งเมนูจานเดียว และของกินเล่นสไตล์สตรีทฟู้ด อาทิ หมูสะเต๊ะ หอยทอดชาวเล ก๋วยเตี๋ยวกั้งบ้านเพ ร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังจากระยอง ข้าวมันไก่ประตูน้ำ เย็นตาโฟนายอ้วนเสาชิงช้า ฯลฯ มารวมไว้ในบรรยากาศสไตล์ร้านรถเข็นที่เป็นกันเอง แต่ละร้านต้ม ผัด นึ่ง ทอด ปรุงให้เห็นกันสดๆ ได้อารมณ์สตรีทฟู้ด ที่มีสีสันคึกคักสนุกสนานไม่แพ้ไปกินที่ร้านต้นตำรับเลยล่ะค่ะ

  


ใกล้ๆ กับโซนสตรีทฟู้ด ยังมี "อิษยา คุกกิ้ง สตูดิโอ" (Issaya Cooking Studio ) สตูดิโอสอนทำอาหาร โดย “เชฟเอียน กิตติชัย” หรือ พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย และทีมงาน โดยมีทั้งคลาสสอนทำเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม อาหารไทยเมนูง่ายๆ, อาหารนานาชาติ, เพสทรี (Pastry) รวมไปถึงคลาส Mixology Class ตลอดจนคลาสทำอาหารสำหรับเด็กอีกด้วย ใครสนใจเรียนทำอาหารลองแวะมาได้เลยค่ะ


ส่วนถ้าหากใครอยากลิ้มรสอาหารไทยแต่ละท้องถิ่น เชิญมาเช็คอินกันได้ที่ "โซนครัว 4 ภาค” (Krua 4 Pak) ที่รวบรวมร้านอาหารชื่อดังครอบคลุมทุกเมนูเด็ดทั้งสี่ภาคของประเทศไทย
 
 

ไม่ว่าจะเป็นอาหารเหนืออย่างข้าวซอย น้ำเงี้ยว ฯลฯ ที่ครัวสะบันงา


อาหารใต้รสเด็ดถึงเครื่อง รวมทั้งครัวอาหารฮาลาล โดย Makan Halal 


รัวอีสาน โดย Esan Kitchen (อีสาน คิทเช่น) จัดเต็มกับเมนูสุดแซ่บ ทั้งส้มตำ ไก่ย่าง ลาบ น้ำตก ฯลฯ แซ่บอีหลีถูกใจใครที่ชอบอาหารอีสาน


แม้กระทั่งอาหารมังสวิรัติ ที่ครัว 4 ภาคก็มีพร้อมเสิร์ฟที่ร้านคุณเชิญ ถูกใจคนที่กินมังสวิรัติหรือไม่อยากทานเนื้อสัตว์แน่นอนค่ะ


อาหารทะเลสดใหม่ที่ร้าน The Cape by Laem Cha-Roen Seafood (แหลมเจริญซีฟู้ด) ก็ส่งตรงจากทะเลมาพร้อมเสิร์ฟ ปรุงสดๆ ขึ้นโต๊ะทุกวัน

  

มาแล้วห้ามพลาดลิ้มรสอาหารไทยดั้งเดิมที่ "ครัวชาววัง" ต้นตำรับอาหารชาววัง สูตรหม่อมหลวงเนื่อง นิลรัตน์ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายสำรับ ทั้งเมนูน้ำพริก เครื่องจิ้ม แกงและกับข้าวไทยโบราณที่หาทานได้ยาก เช่น แกงรัญจวน, พระรามลงสรง, สะเต๊ะลือ ฯลฯ น่าทานทุกเมนูเลยค่ะ


ส่วนโซนนี้รับรองว่าถูกใจคนที่ชอบทำอาหาร กับโซน "โกรเซอรี่ 4 ภาค" (Grocery 4 Pak) ซึ่งเป็นโซนใหม่ที่มาในคอนเซ็ปต์ร้านขายของชำแบบคลาสสิค มีสินค้าให้เลือกสรรอย่างครบครัน ทั้งผลิตภัณฑ์อาหารแห้ง เครื่องปรุง, เครื่องแกง, เครื่องเทศพร้อมปรุง สำหรับอาหารทั้งสี่ภาคเลยค่ะ


อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เป็นโซนใหม่ของ Eathai คือ "โซนลิตเติลไชน่าทาวน์" ซึ่งมีร้านอาหารไทย-จีนชื่อดังอย่าง “แสนยอด" ที่ส่งตรงความอร่อยจากเยาวราชพร้อมเมนูใหม่ อาทิ ราดหน้าปลาเต้าซี่ หมี่ซั่ว ข้าวผัดเสฉวน ราดหน้าคะน้าฮ่องกง ข้าวหน้าเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบ ข้าวขาหมู ฯลฯ นอกจากเมนูอร่อยๆ แล้ว จุดเด่นของลิตเติ้ลไชน่าทาวน์ยังอยู่ที่ดีไซน์การตกแต่ง ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากป้ายไฟย่านเยาวราช จึงได้บรรยากาศเหมือนยกเยาวราชมาไว้ที่นี่เลยจริงๆค่ะ



  

เสร็จจากมื้อหนักกับเมนูของคาวไปแล้ว เราก็มาต่อด้วยของหวานล้างปากกันที่ "โซนบ้านขนมไทย" ที่รวบรวมขนมไทยรสชาติดั้งเดิมไว้หลากหลาย ทั้งขนมน้ำกะทิ ของเชื่อมอย่างกล้วยเชื่อม มันเชื่อม และข้าวเหนียวหน้าต่างๆ อิ่มหนำสำราญกันเลยทีเดียวค่ะ

 

หรือถ้าหากใครชอบกินเมนูหวานเย็นจำพวกน้ำแข็งไสต่างๆ ต้องลองแวะมาที่ "โซนหวานเย็น" ที่จัดเต็มกับเมนูขนมหวานเย็นๆ ทั้งเมนูไอศกรีมและของหวานคลายร้อน แนะนำไอติมกะทิมะพร้าวอ่อนที่เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว อร่อยชื่นใจจริงๆ เลยค่ะ



นอกจากนี้ หากใครติดใจอาหารไทยอร่อยๆ Eathai ยังมีบริการ Grab & Go สั่งกลับบ้านเพื่อให้คุณได้อร่อยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมสารพัดเมนูให้เลือกในแพ็กเกจแสนเก๋อีกด้วย

อีกส่วนหนึ่งของ Eathai โฉมใหม่ที่เราประทับใจ คือการมีโซนที่นั่งสำหรับรับประทานอาหารที่มีให้เลือกหลากหลายโซนมากๆ แถมยังตกแต่งได้อย่างเก๋ไก๋ ทั้งการเพ้นท์ผนังเป็นภาพวาดเก๋ๆ แบบนี้ นั่งกินไปเพลินๆ แถมยังได้มุมถ่ายรูปเก๋ๆ อีกด้วยค่ะ




เดินย่อยอาหารสักพัก เราก็สะดุดตาเข้ากับเจ้าหุ่นไล่กาที่อยู่ในโซน "อีท ไทย ไรซ์" (Eat Thai Rice) อีกหนึ่งโซนใหม่ที่รวบรวมข้าวสารไว้มากถึง 23 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถิ่น OTOP จากทุกภาค อาทิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ข้าวกล้องหอมนิล ข้าวลืมผัว ฯลฯ ใครชอบทานข้าวแบบออร์แกนิกส์ลองมาเลือกซื้อกลับบ้านกันได้เลยค่ะ



นอกจากจะมีร้านอาหารอร่อยๆ มากมายให้เราเลือกทานกันแล้ว หากใครอยากซื้อของสดกลับไปทำอาหารเองที่บ้าน ที่นี่ก็ยังมี “ตลาดอีทไทย” (Talad Eathai) ที่รวบรวมผลิตภัณฑ์อาหารทั้งของแห้ง ของสด และของใช้ในครัวเรือน เช่น ผลไม้สดทั้งนำเข้าและท้องถิ่น, สลัดบาร์, ผักออร์แกนิก, เนื้อสัตว์ เครื่องปรุงต่างๆ อาทิ น้ำตาลปี๊บเพชรบุรี,ซอสพริกศรีราชา,หมี่โคราช ฯลฯ  รวมถึงของฝากของที่ระลึกแบบไทยๆ ก็มีให้เลือกหลากหลาย ได้ช้อปกันจุใจไปเลยค่ะ


ส่วนใครชอบทำอาหาร พลาดไม่ได้กับโซน "ไทยคุกบุ๊ก & ซูวีเนียร์สโตร์" (Thai Cookbook & Souvenir Store) ร้านจำหน่ายตำราอาหารไทย หนังสือทำอาหาร และของที่ระลึกจาก Eathai เช่น ถุงผ้า จาน ปิ่นโต โปสการ์ด ฯลฯ มีหนังสือที่น่าสนใจให้เลือกชมเลือกอ่านเพียบเลยค่ะ



ปิดท้ายกันที่ “เวชพงศ์โอสถ” ร้านขายยาชื่อดังย่านเยาวราช ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสมุนไพร, ยาสมุนไพรไทย และสมุนไพรจีนแผนโบราณ ที่ได้รับการเชื่อถือมายาวนานกว่า 100 ปี ก็มาเปิดสาขาที่ Eathai ด้วยเช่นกัน ภายในร้านโดดเด่นด้วยตู้ยาโบราณสไตล์คลาสสิค พร้อมยังมีเภสัชกรที่เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและแนะนำสำหรับใครที่สนใจ เรียกว่า Eathai รวมทั้งอาหารคาวหวานและยาแผนโบราณมาไว้ให้บริการแบบครบวงจรจริงๆ ค่ะ


เป็นยังไงบ้างคะ กับ Eathai โฉมใหม่ สมกับเป็นอาณาจักรอาหารไทยสุดชิค ที่ครบเครื่องที่สุดในเวลานี้จริงๆ นอกจากยกขบวนความอร่อยมาเสิร์ฟแล้ว ยังมีกิจกรรม “Eathai Expansion” ฉลองโฉมใหม่ Eathai  ที่เตรียมโปรโมชั่นและความบันเทิงหลากหลายมาสร้างสีสัน อาทิ สาธิตการร้อยมาลัยในทุกวันจันทร์-ศุกร์, เพลิดเพลินกับเพลงไทยร่วมสมัย พิเศษ ชมการแสดงจำอวดหน้าม่าน ( 24 ก.ค. 59 เวลา 13:00-14:00 น.), การแสดงรัศมีอีสาน (30 ก.ค. 59 เวลา 12:00-14:30 น.), Sadub Sound System (7 ส.ค. 59 เวลา 13:00-14:00 น.), การแสดงผีตาโขน ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ (23, 24 ก.ค./ 30, 31 ก.ค./ 6 ส.ค. 59) รอบแรก 11:30-14:00 น. รอบที่สอง 17:00-20:00 น. ฯลฯ โดยกิจกรรมจะมีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 7 สิงหาคมนี้

ใครมองหาแหล่งรวมอาหารไทยอร่อยๆ ขึ้นชื่อ ไว้พาครอบครัวและคนใกล้ชิดไปอิ่มอร่อย แถมได้มีกิจกรรมเดินเล่น เดินช้อป ชิม ชิลแบบนี้ ลองแวะมาที่ Eathai ชั้น LG ที่เซ็นทรัล เอมบาสซี สัมผัสกับเสน่ห์อาหารไทยในบรรยากาศร่วมสมัยกันได้ทุกวันเลยค่ะ



เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close