bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

ทริปวันเดียว เที่ยวดาษดาแกลอรี่ ปราจีนบุรี

calendar_month 31 มี.ค. 2022 / stylus Admin Chillpainai / visibility 235,016 / สถานที่ยอดนิยม

 



 คำเตือน !!!! 

ทริปนี้อาจทำให้ใครที่รักดอกไม้ ธรรมชาติ ป่าเขา และ ไฟสวย
 จะนั่งไม่ติด กระสับกระส่าย อยากออกไปเที่ยวได้ 

ทริปวันเดียวเที่ยวดาษดาแกลอรี่
 ปีนี้จัดแสดงในชื่อ  "Art in Heart แค่เห็นก็เข้าใจ" 

เปิดให้ชม 5 ธ.ค. 2558 - 14 ก.พ. 2559

 


เป็นทริปวันเดียวที่คุ้มและสนุกสุดๆเลยค่ะ กับการไปดูมหกรรมดอกไม้ที่ดาษดาแกลอรี่ จังหวัดปราจีนบุรี ใกล้ๆกรุงเทพนี่เองค่ะ ใช้เวลาเดินทางแค่ 2 ชั่วโมงครึ่ง หลับๆตื่นๆ ก็ถึงละ เวลาแค่ 1 วัน จะสนุกขนาดไหน ตามไปดูกันค่ะ 

 

9.30 น : ออกจากกรุงเทพ ขึ้นรถได้สักพักก็ตามสูตรเดิม คือ หลับ!! ค่ะ  hahahaแวะปั้ม ซื้อขนมแปปนึง หลับๆตื่นๆ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงดาษดาแล้วค่ะ
 12.00 น : ถึงเวลาเที่ยงพอดี ไปถึง พร้อมๆกับกระเพาะเริ่มเรียกร้องค่ะ หิวพอดีเลยแวะไปที่ Bloom ซึ่งเป็นศูนย์อาหารของ ดาษดาค่ะ

  "ดาษดา ยินดีต้อนรับค่ะ" เท้าแตะพื้นปุ๊ป ได้ยินคำนี้เลยค่ะ พร้อมกับ น้ำดอกดาหลา น้ำดอกไม้ซิกเนเจอร์ของดาษดา เดินทางมาเหนื่อยๆ ได้ดื่มน้ำดอกไม้ ชื่นใจ หายเป็นปลิดทิ้งค่ะ (หลับอย่างเดียวเหนื่อยตรงไหน)



มาถึงเรื่องอาหารของที่นี่ มีดอกไม้เป็นส่วนประกอบค่ะ !! โอวววว เห็นแปลกๆตางี้ รสชาติอร่อยฝุดๆเลยค่ะ sad เลยเติมข้าวไปหลายจาน ใช้เวลาในการกินอาหารเที่ยงประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ไปสถานีต่อไปค่ะ





 

*สำหรับคนที่ไม่ได้พักเข้าไปชม ค่าเข้า ผู้ใหญ่ 250 บาท เด็ก 150 บาทนะคะ

 13.00 น : เพื่อเป็นการไม่เสียเวลาเรา เดินทางไปต่อกันที่โซนที่ 1 Heart of the Glasshouse ค่ะ (ที่บอกว่าเดินทางนี่ เรานั่งรถไปจริงๆค่ะ ที่ดาษดา พื้นที่กว้างขวางมาก มีพื้นที่กว่า 900 ไร่ เลยทีเดียว เดินไม่ไหว) โซนที่ 1 จะแบ่งเป็นสองการจัดแสดงค่ะ คือ Arrival Hall & Hall A ส่วนของตรงนี้จะเป็นการจัดแสงดอกไม้ใน Terrarium ขนาดใหญ่และเรือนกระจก นางเอกของโซนนี้คือ กล้วยไม้ฟาแลนนอสซิปค่ะ ใครนึกภาพ Terrarium ไม่ออก ลองนึกถึง สวนในขวดแก้วที่ขนาดไซส์ใหญ่มหึมาเลยค่ะ อีกส่วนหนึ่งคือ Art Room เป็นห้องแสดงศิลปะการจัดสวนในขวดแก้วค่ะ ผลงานนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนต์ที่โด่งดังทั้งหมด 12 เรื่อง ออกแบบและจัดโดย ครูกอล์ฟ คุณพิทักษ์ สังหาจะระ ถ่ายรูปกันเพลินเลยค่ะ
























13.30 น : โซน Haert of the season (Hall B) เราไปต่อกันที่ห้องมืดค่ะ ได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ เราไปดูดอกไม้กันที่ห้องมืดจริงๆ ค่ะ เป็นครั้งแรกนะคะ ที่ได้ดูดอกไม้ในห้องมืด จัดแสดงร่วมกับ เทคนิค Mapping (การฉายแสงลงบนดอกไม้) เป็นเรื่องราวของฤดูกาล ความรัก ดอกไม้ และยังมี Interactive garden ให้เด็กๆได้สนุกไปกับการทำท่าทาง แล้วบนจอภาพจะแสดงเป็นรูปสัตว์ได้หลายๆชนิด ในโซนนี้ ออกแบบโดย Miss Lee Hu Lih - Ying นักจัดดอกไม้ชาวไต้หวัน และคุณสันต์ ฐณพล เจตวรัญญู







 

14.00 น : ของหวานนนนน ..ร่างกายต้องการของหวาน ใกล้กับ Hall จัดแสดงมีร้านขนมชื่อ La Lalla ค่ะ มีเบเกอรี่ เครื่องดื่ม และไอศกรีมซิกเนเจอร์ ของดาษดาค่ะ






 
 14.30 น : เราไปนั่งเรือค่ะ ใช่แล้วววววว ไปนั่งเรือ ใช้เวลาประมาน 10 -15 นาที (เรือขับได้สโลวไลฟ์มากกกกก.. ) เพื่อไปเดินเล่นที่สระบัว แล้วไปศาลาเทวดา เป็นจุดชมวิว 360 องศาค่ะ (เอ้อ!! นั่งบนเรือ ใส่เสื้อชูชีพด้วยละ น้ำลึก) บริเวณตรงนั้นก็มีสวนดอกไม้จัดไว้สวยทีเดียวเลยค่ะ 










มีตุ๊กตาหมีตัวเบ้อเริ้ม ให้ไปถ่ายรูปกัน แถมยังให้ทำโปสการ์ด DIY ออกแบบเอง แล้วติดแสตมป์ส่งได้เลย !    เรียกได้ว่าเป็นจุดที่เพลินเลยค่ะ ย้อนวัย วาดรูปอยู่นานมาก karok_dance  







*มีจักรยานให้ปั่นนะคะ สำหรับใครที่อยากปั่นชมธรรมชาติ สูดอากาศ แต่เค้าไม่ไหวววว นั่งรถดีกว่า ฮิฮิ 

 16.00 น : เดินเที่ยวเล่นจนเริ่มรู้สึกหิวๆ อยากกินของหวานขึ้นมาอีกแล้ว มีร้านของหวานอีกที่นึงค่ะ เราเลยเคลื่อนที่กันไปที่ Tea House ร้านขนมน่ารักๆ อยู่ติดกับอุโมงค์หัวใจเรืองแสง นั่งกินขนมเค้ก น้ำชาดอกไม้ร้อนๆ น้ำดอกกุหลาบ (จริงๆมีน้ำดอกบัว น้ำดอกอัญชัญ และน้ำดอกกุหลาบ) ฟินสุดๆค่ะ น้ำดอกกุหลาบเนี่ย กลิ่นหอมมาก อยากเอามาอาบมากกว่า ดื่มอีกค่ะ นั่งเม้ากับชาวแก๊งเพลินๆ รอเวลาเดินชมอุโมงค์หัวใจเรืองแสง  


 






*ระหว่างนั้นใครจะไปเดินเล่นที่สวน Tiny Park สวนเพื่อนตัวน้อย ก็ได้ค่ะ อยู่ไม่ไกลกัน ภายในสวนเพื่อนตัวน้อย มี แกะ นกหลายสายพันธุ์ นกยูงไทย- อินเดีย แพะ เป็ด กระต่าย สามารถถ่ายรูปให้อาหารสัตว์ได้ (แต่เค้าไม่ได้ไป เพลินกับน้ำชาไปหน่อย) 

 18.00 น : เป็นเวลาที่อุโมงค์หัวใจเรืองแสง ไฮท์ไลท์ของที่นี่เริ่มเปิดไฟพอดีค่ะ สวยมากกกกกก .. นึกว่าตัวเองไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เป็นอุโมงค์หัวใจเรืองแสงที่ยาวที่สุดในเมืองไทยด้วยนะคะ ใช้สายไฟยาวต่อกันประมาณ 56 กิโลเมตร







18.30 น : ถึงเวลาของไฮท์ไลท์อีกอย่างของที่นี่แล้วค่ะ นั่นก็คือ ... น้ำพุเต้นระบำ (Dancing Fountain) น้ำพุและแสงไฟที่จะ เคลื่อนที่ตามจังหวะของดนตรีและอารมณ์ของเพลง มีทั้งหมด 5 เพลงค่ะ ตื่นตาตื่นใจสุดๆ อลังการงานสร้างสุดๆ ด้วยความอยากรู้เลยไปถามมา ถึงได้รู้ว่า น้ำพุเต้นระบำนี้ ออกแบบจากทีมผู้สร้างเดียวกันกับ Dubai Foundtain และ โรงแรม Bellagio เมือง Las Vegus 





วันธรรมดามีทั้งหมด 2 รอบค่ะ 18.30 น กับ 19.30 น
 วันเสาร์ - อาทิตย์ วันหยุด 18.30 น ,19.30 และ 20.00 น

 หลังดูน้ำพุเต้นระบำจบ ก็ตื่นตาตื่นใจสุดๆค่ะ แต่กำลังหมดเวลาความสนุก ต้องกลับบ้านแล้ว ยังดื่มด่ำกับดอกไม้กับธรรมชาติอยู่เลย อีกอย่างเสียดายที่ไม่ได้ไปวันเสาร์ - อาทิตย์ เพราะวันเสาร์อาทิตย์ จะมีชาวบ้านมาขายของดีเมืองปราจีน ที่ตลาดลอยน้ำ มีขับ ATV ฟาร์มทัวร์  

*มีต้นไม้ขายค่ะ สำหรับใครที่อยากได้ไปปลูกที่บ้าน 




หมดเวลาความสนุกค่ะ เดินทางกลับกรุงเทพ ออกจาก ดาษดา ประมาณ 19.30  ถึง กรุงเทพก็ประมาณ 21.45 น มาเจอรถติดที่กรุงเทพ เห้อ.. อยากไปอยู่กับธรรมชาติอีกจัง

ใครสนใจจะไปชมดอกไม้ ที่ ดาษดา แกลอรี่ ปราจีนบุรี
 ติดต่อสอบถาม
 โทร 037-239-800, 090-198-7583

www.facebook.com/dasadaflower

เวลาเปิดจำหน่ายบัตร : จ.-พฤ. 09.00 - 18.00 น. / ศ.-อา. 09.00 - 19.00 น.
 ผู้ใหญ่ 250 เด็ก 150 บาท
 ที่อยู่ : กม.7 ถ.เขาใหญ่ ต.เนินหอม อ.เมืองฯ จ.ปราจีนบุรี
 แผนที่ : > 
คลิกที่นี่ <



 ชิลไปไหน 


 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close