bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

รีวิว เดอะพรอมานาด อัพเดตร้านใหม่ ช้อป กิน เที่ยว ที่เดียวครบ!!

calendar_month 24 พ.ย. 2015 / stylus Admin Chillpainai / visibility 129,020 / รีวิวที่เที่ยว

แว่วๆ มาว่าตอนนี้ใครๆ ก็ไปเช็คอินที่เดอะพรอมานาด รามอินทรา เพราะล่าสุดเขาเพิ่งเปิดโฉมใหม่!!
วันนี้หลังเลิกงานสาวสีส้มเลยแวะไปอัพเดตร้านน่านั่งในพรอมานาด รามอินทรา มาฝากเพื่อนๆ
ใครที่อยากได้พื้นที่ช้อปปิ้งและสังสรรค์หลังเลิกงานเพิ่มตามสาวสีส้มไปอัพเดตกันเลย...

 
เดอะ พรอมานาด รามอินทรา เป็นไลฟ์สไตล์มอลล์สุดชิค ตั้งอยู่ติดกับศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ด้านนอกตกแต่งด้วยสีพาสเทลหวานๆ รูปทรงอาคารเป็นแบบยุโรปย้อนยุคที่ผสมผสานความเป็นแบบตะวันตก ทำให้บริเวณด้านหน้าของศูนย์การค้าเป็นอีกหนึ่งจุดที่สาวๆ ต้องถูกใจกับการเซฟฟี่โดยมีฉากหลังเก๋ๆ สไล์ยุโรปแบบนี้แน่นอนค่ะ
 

พอเข้ามาด้านในก็จะพบความหรูหราแบบย้อนยุค ที่ถูกเนรมิตรพื้นที่ให้เหมือนกับว่ากำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ในลอนดอนหรือปารีสในอดีตยังไงยังงั้น และแลนด์มาร์คอีกจุดถ่ายรูปของที่นี่คือบริเวณลานน้ำพุ ซึ่งบริเวณนี้จะเปิดเพลงบรรเลงประกอบการเต้นระบำน้ำพุ มีมุมที่นั่งชิลๆ สำหรับนักช้อปที่ต้องการพักเหนื่อยๆ ชมระบำน้ำพุ และฟังเพลงเพลินๆ รับรองหายเหนื่อยแน่นอน...
 
  

ส่วนชั้น 2 นั้นจะเป็นโซนของร้านอาหารที่มีให้เลือกมากมายทั้ง อาหารจีน อาหารเม็กซิกัน อาหารไทย อาหารอีสาน และอาหารญี่ปุ่น ซึ่งมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นยากินิขุ, ชาบูตง ราเมน, Marugame Seimen, แม่หลุยส์, บ้านหญิง, MK Restaurant, Subway และร้านอื่นๆ อีกเพียบ
 

 
และในส่วนของชั้นที่ 3 จะเป็นชั้นที่สาวสีส้มจะมาอัพเดตความอร่อยกับร้านอาหารเปิดใหม่ จะมีร้านไหนโดนใจเพื่อนๆ ตามสามสีส้มไปชิมและชมกันเลยค่ะ
 
 

โดยร้านแรกที่สาวสีส้มขอแวะเช็คอินเป็นร้านแรกนั้นคือร้านทัคคาลบี้ (Dak Galbi) ร้านอาหารเกาหลีสัญชาติไทย ซึ่งเพื่อนๆ อาจจะคุ้นชื่อร้านนี้เป็นอย่างดี เพราะว่าร้านนี้เปิดเป็นสาขาที่ 8 แล้วค่ะ ใครยังไม่มีโอกาสได้แวะไปชิม มาที่นี้ได้เลยค่ะสาขาเดอะพรอมานาด เพราะสาขานี้ได้เน้นการตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นผสมผสานสไตล์วินเทจ ให้สาวๆ ที่ชอบการเซฟฟี่ได้มีมุมถ่ายภาพกันมากขึ้น


ในส่วนของอาหารที่ก็ยังคงคอนเซ็ป "ผัดร้อน อร่อยฮ็อต" ให้ได้อิ่มอร่อยไปกับเมนูอาหาร และสนุกไปกับการคุ๊กกิ้งเมนูตรงหน้าอย่าง ชุดซีฟู้ดผัดซอสคาลบี้ที่จะเสิร์ฟมาในกะทะใบโต ประกอบไปด้วย ไก่ ปลาหมึก หอยแมงภู่นิวซีแลนด์ เห็ดเข็มทอง ต็อกโบกิ กะหล่ำปลี ข้าวญี่ปุ่น และเส้นราเมงซารี่ หรือถ้าใครอยากจะเพิ่มท้อปปิ้งพิเศษๆ ก็สามารถสั่งเพิ่มได้แบบไม่มีจำกัด


หลังจากน้องๆ นำอาหารมาวางบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงช่วงเวลาแห่งความสนุกๆ นั่นคือการผัดอาหารคลุกเคล้าให้เข้ากัน โดยจะมีน้องพนักงานเป็นคนมาผัดอาหารให้ ใครที่กลัวว่าจะผัดไม่อร่อยหรือกลัวไหม้ สามารถบอกน้องพนักงานได้เลยค่ะ


สำหรับการผัดอาหารจะใช้เวลาประมาณ 7 นาที คลุกเคล้าจนได้ที่ น้องพนักงานจะแบ่งอาหารในกะทะเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกจะผัดรวมกับเส้นราเมงซารี่และอีกส่วนหนึ่งจะผัดกับข้าวญี่ปุ่น ซึ่งคาลบี้ชุดนี้สามารถรับประทานได้ 3 - 4 คนเลยค่ะ

  

และนอกจากชุดคาลบี้แล้ว ยังมีอาหารอีกหลายเมนูให้เราได้สั่งกันไม่ว่าจะเป็น เกี๊ยวซ่าไส้หมูกิมจิ, เครันมาริ (ไข่เจียวไส้ชีส), ทัคคัลยอง (ไก่ทอดกรอบราดชีสซอส) และซุปกิมจิสันคอหมูชามโต


  

ทานคู่น้ำเครื่องดื่มชื่นใจที่มีให้เลือกมากมาย โดยวันนี้สาวสีส้มขอเลือกเป็นชานมกล้วย และนมสตอรเบอรี่ค่ะ และปิดท้ายด้วยเมนูขนมหวานเบาๆ อย่างบิงชูและไอศกรีมถั่วแดง

  

เดินถัดมาไม่ไกลก็มีร้านอาหารญี่ปุ่น บรรยากาศสบายๆ สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ อย่างร้าน ฮินายะ (Hinaya) โดยร้านนี้มีเจ้าของชาวญี่ปุ่น ที่ตั้งใจนำเมนูอร่อยๆ จากญี่ปุ่นมาเสิร์ฟให้คนไทยได้รับประทานกัน


ภายในร้านตกแต่งอย่างเรียบง่าย มีมุมที่นั่งที่เน้นให้ความเป็นส่วนตัว ส่วนผนังอีกด้านจะมีชื่อร้านเป็นภาษาญี่ปุ่นประดับไว้ตรงกลาง โดยความหมายของฮินายะนั้นแปลว่ารังหรือบ้านของลูกเจี๊ยบ


เมนูแนะนำของร้านนี้จึงหนีไม่พ้นเมนูไก่ เช่น สะโพกไก่ทอดทารุทารุซอส และ หม้อไฟไก่มิซึทากิ ที่ใช้เวลาเคี้ยวน้ำซุปนานถึง 6 ชั่วโมง และในส่วนของเนื้อไก่ก็หมักด้วยเครื่องเทศสูตรเด็ดของทางร้านนานอีก 4 ชั่วโมง ก่อนจะเป็นอาหารรสเลิศที่นำมาเสิร์ฟลูกค้า

 

หากใครอยากทานแซลมอน ร้านนี้ก็มีให้เลือกหลายเมนู เช่น ชุดแซลม่อนอโวคาโด และ แซลมอนอโวคาโดสลัด
  

หากกลัวไม่อิ่ม หรืออยากทานข้าวกับหม้อไฟไก่ร้อนๆ ก็มีข้าวผัดปลาจาโกะ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับไข่ต้มราดซอสญี่ปุ่นที่น่ารับประทานสุดๆ ใครที่ชอบรับประทานอาหารญี่ปุ่นร้านฮินายะ เป็นอีกร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเมนูอาหารให้เลือกอย่างหลากหลาย รับรองว่าแต่ละเมนูเด็ดและอร่อยถูกปากแน่นอน



หากยังไม่หน่ำใจ!! สาวสีส้มก็มีอีกหนึ่งร้านมาแนะนำ ถัดจากร้านฮินายะไปเพียงไม่กี่ก้าว จะเห็นร้านดีไซน์เก๋ๆ สีสันร้อนแรงนั่นคือร้าน ทูดาริ (Tudari) ร้านอาหารเกาหลี สูตรต้นตำหรับสไตล์เกาหลีแท้ๆ ที่ไม่ต้องบินไกลไปทานถึงเกาหลี



สำหรับการตกแต่งภายในร้านจะเป็นแบบโมเดิร์นที่ผสมผสานกับสไตล์เกาหลีประยุกต์ได้อย่างลงตัว มีพื้นที่กว้างขวาง ให้ลูกค้าสามารถเลือกที่นั่งได้ตามชอบ ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัวเดินลึกเข้าไปหน่อยก็มีทั้งที่นั่งทั้งสำหรับกลุ่มใหญ่และกลุ่มเล็ก
 

ส่วนของเมนูอาหารก็ยังคงความอร่อยสูตรต้นตำหรับสไตล์เกาหลี มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน โดยเมนูที่สาวสีส้มเลือกวันนี้เป็น ชินดังดงต๊อกปกกิพรีเมี่ยม ซึ่งเหมาะสำหรับ 3 - 4 คน อาหารในกะทะใบโตจะประกอบด้วยแป้งต็อกปกกิ ชินราเมียน เนื้อหมู แฮม ลูกชิ้นปลาพรีเมียม และผักเครื่องเคียงต่างๆ
 

สำหรับวิธีเพิ่มความอร่อยในการคลุกเคล้า ทางร้านแนะนำให้ราดน้ำซุปบนซอสชินดังดงด้านบนเส้นชินราเมียน หรือให้ผลิกเส้นชินราเมียนด้านที่มีซอสลงในน้ำซุปเพื่อให้ตัวซอสกระจ่ายทั่วกะทะ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 8 - 10 นาที ก็จะได้อร่อยกับหม้อไฟสไตล์เกาหลีแล้วค่ะ
 


และนอกจากชินดังดงต๊อกปกกิแล้ว ยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกแบบจัดเต็มอีกหลากหลายเมนู สำหรับเมนูอาหารแนะนำก็มี สตูว์โอเด้งและปู, ข้าวผัดทูดาริลาวา, ต๊อกปกกิซีฟู้ดอบชีส และสลัดผลไม้
 
  

และนอกจากนี้ภายในชั้น 3 ชั้นมีอาหารเปิดใหม่ให้บริการอีกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านบอนชอน ชิกเก้น(Bonchon Chicken) ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลีที่กุมหัวใจชาวไทยหลายต่อหลายคน โดยร้านนี้เน้นการตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ตัวร้านเป็นแบบเปิดโล่ง เพื่อให้รู้สึกสบายๆ และยังมีที่นั่งให้เลือกหลากหลายมุมอีกด้วย
 


นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารสไตล์อีสาน เวียดนามอย่างลาวญวน ซึ่งเป็นแบรนด์ไทยที่การันตีความแซ่บด้วยจำนวนลูกค้าจากสาขาแรกที่ล้นจนต้องมาขยายสาขาที่ 2 กันที่นี้กับพื้นที่ภายในร้านที่กว้างขวางขึ้นและสไตล์การตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ชวนให้หลายๆ คนอยากแวะมาแซ่บกับบรรยากาศร้านนี้
 
  

และไม่ได้เอาใจเฉพาะคนรักเมนูแซ่บๆ ที่นี่ยังเอาใจคนรักปลาดิบและอาหารญี่ปุ่นอีกด้วย กับร้านโกฮัง (Gohan) ที่มาพร้อมกับเมนูอาหารญี่ปุ่นสุดพรีเมี่ยม ใครที่ชอบทานปลาดิบถ้าได้แวะมาร้านนี้สักครั้ง รับรองว่าคุณต้องมาอีกเป็นครั้งที่สองและสามแน่นอน!! เพราะแต่ละเมนูที่นี้พูดเลยว่า “สุโก้ย”
 
  

สำหรับใครที่กำลังมองหาพื้นที่สังสรรค์ยามเย็นหลังเลิกงานหรือในวันช่วงวันหยุด สาวสีส้มขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ
เดอะ พรอมานาด รามอินทรา รับรองว่าคุณจะได้ฟินกับบรรยากาศสวยๆ เหมือนได้ออกไปท่องเที่ยวในเมืองแถบยุโรปยังไงยังงั้น แถมยังได้อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารที่มีให้เลือกมากมายโดยเฉพาะชั้น 3 กับโซนใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นาน และยังมีอีกหลายร้านเด็ดๆ ที่รอให้คุณได้แวะไปเช็คอิน!!

 

ที่ตั้ง : 587,589, 589/7-9 ถนนรามอินทรา แขวง/เขตคันนายาว กรุงเทพฯ (ถนนรามอินทรา กม.10 ติดกับศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์)
เว็บไซต์ : The Promenade


Story by : สาวสีส้ม
เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai