bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

One Day Trip : ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วันเดียวแบบไม่งง

calendar_month 05 พ.ย. 2021 / stylus Admin Chillpainai / visibility 3,152,704 / ทริปตัวอย่าง

เต่าตาหวาน 
 
 

 

เคยมีคำถามแหล่านี้ไหมครับ 

ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา... แล้ววัดไหนก่อน วัดไหนหลัง?  หิวๆ แวะกินร้านอะไร? นี่เราขับรถวกไปวนมารึเปล่า?  แล้ววันนี้จะทันครบ 9 วัดไหมเนี่ย คุณพระช่วย?!!

 

ถ้าคุณมีคำถามเหล่านี้คาใจ "เต่าตาหวาน" จะพาไปเดินสาย ไหว้พระ 9 วัดที่อยุธยา ทำบุญ เสริมสิริมงคล ให้อิ่มเอมใจ  แบบไม่ต้องงกันอีกต่อไป ปักหมุดฟันธงชัดๆ กันไปเลย  ใครเดินทางมาจากทิศไหน ไกลเท่าไหร่ ลองคำนวนเวลา กันดูนะครับ ควรมาถึงอยุธยาไม่เกิน 9 โมงเช้าจะดีที่สุด  ป่ะ เริ่มกันเลย


1. วัดใหญ่ชัยมงคล

9:00 น.    มาถึงวัดใหญ่ชัยมงคล
 ปัดหมุดจุดแรกกันที่วัดใหญ่ฯ อยู่นอกเกาะเมือง หาง่าย ใกล้สุด ควรแวะเป็นจุดแรก หากขับรถเข้ามาจากถนนสายเอเชีย เจอวงเวียนวัดสามปลื้มที่มีเจดีย์อยู่ตรงกลาง ให้เลี้ยวมาทางซ้ายครับ ประมาณ 900 เมตรก็จะถึงวัดใหญ่ชัยมงคลอยู่ทางซ้ายมือ ไหว้พระพุทธชัยมงคลในพระอุโบสถ ไหว้พระนอนที่วิหารพระพุทธไสยาสน์ ขึ้นไปไหว้พระรอบๆ พระเจดีย์ชัยมงคล ปิดท้ายด้วยการสักการะศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช 


 

เสร็จสรรพด้วยเวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมง ถ้าเริ่มหิวถือว่าเป็นลางดี เพราะมาวัดใหญ่ฯ ทั้งที ต้องลอง “ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีก” หน้าวัดใหญ่ฯ ไม่ต้องขับรถไปไหน เดินข้ามถนนมาทานมื้อเช้ากันเลย รวมเวลาที่อยู่ตรงนี้ 1 ชั่วโมง

 

2. วัดพนัญเชิงวรวิหาร

10:00 น.   เดินทางสู่วัดพนัญเชิงวรวิหาร
 ใกล้กันแค่ 1.5 กิโลเมตร ออกจากวัดใหญ่ชัยมงคลเลี้ยวซ้ายขับรถลึกเข้ามาตามถนนเดิม (ถ้าได้ข้ามทางรถไฟแปลว่ามาถูกทางแล้ว) แล้วเราก็จะพบเป้าหมายที่ 2 ของเรา วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยู่ทางขวามือ ป้ายใหญ่ชัดเจน ไหว้พระพุทธไตรรัตนนายกหรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อโต รับพรจากพระสงฆ์ รับสายสิญจน์ รับการพรมน้ำมนต์ ไหว้ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก และให้อาหารปลาบริเวณท่าน้ำเป็นการทำทาน



 

3. วิหารพระมงคลบพิตร

10:30 น.   เดินทางสู่วิหารพระมงคลบพิตร
 ห่างจากวัดพนัญเชิงวรวิหารประมาณ 6 กิโลเมตร โดยย้อนกลับไปทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม คราวนี้เจอวงเวียนให้เลี้ยวซ้าย ข้ามสะพานปรีดี-ธำรง (ข้ามแม่น้ำป่าสัก) ตรงไปจนสุดทางเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา เจอวงเวียนเล็กๆ ให้ตรงไป จะเห็นวิหารพระมงคลบพิตรอยู่ซ้ายมือ อยู่ติดกับพระราชวังโบราณ วิหารพระมงคลบพิตรนี้สันนิษฐานกันว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เราเริ่มด้วยนมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตร ต่อด้วยเข้าไปเดินชมพระราชวังโบราณก็ได้ แล้วไปเดินตลาดบริเวณหน้าวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งมีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสาน เครื่องหวาย มีด ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ มีอะไรเยอะแบบนี้ ให้เวลา 1 ชั่วโมงเลย


 

4. วัดแม่นางปลื้ม

11:30 น.   เดินทางสู่วัดแม่นางปลื้ม
 ห่างจากจุดนี้ราวๆ 2.5 กิโลเมตร ขับรถต่อไปตามทางเดิมที่เข้ามา (ไม่ต้องย้อนกลับ) เลี้ยวคดโค้งไปตามทางจนเจอสี่แยกที่มีเกาะกลางเป็นรูปสามเหลี่ยม ให้เลี้ยวซ้าย ตรงไปผ่านอีก 2 สี่แยก ข้ามสะพานข้ามคลองเล็กๆ แล้วเลี้ยวขวา ขับไปอีกนิดก็จะเจอวัดแม่นางปลื้มอยู่ขวามือ วัดแม่นางปลื้มเคยเป็นที่ตั้งค่ายของพม่า จึงเป็นวัดหนึ่งที่ไม่ถูกทำลาย ปัจจุบันยังมีเนินค่ายปรากฏอยู่ และยังมีโบรานสถานต่างๆ เหลือให้ชมหลายจุด มาที่นี่ต้องนมัสการหลวงพ่อขาว พระประทานอันสวยงาม แล้วเดินชมวัดกันไปสักพัก


 เสร็จแล้วเตรียมตัวออกเดินทางไปทานมื้อเที่ยงกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็ก ขับรถกลับมาตามทางเดิม (ข้ามสะพานข้ามคลอง ผ่าน 2 สี่แยก) ข้ามสี่แยกที่ 2 แล้วให้รีบชิดซ้าย ร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็กจะอยู่ริมถนนเลย มีทั้งเนื้อ หมู สด เปื่อย เอ็น น้ำตก ส่วนเส้นที่ว่ากันว่าเด็ดที่สุด คือเส้นหมี่

 

 

 

 

 

 



 

5. วัดธรรมมิกราช

12:30 น.   มาถึงวัดธรรมมิกราช
 จากหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวลุงเล็ก ให้ยูเทิร์นรถกลับไปทางเดิม ผ่าน 2 สี่แยกเหมือนเดิม แต่ตรงสี่แยกที่ 2 ให้เลี้ยวซ้าย ขับไปอีกแค่ 750 เมตร ก็ถึงวัดธรรมมิกราช อยู่ซ้ายมือ (มื้อเที่ยงอาจทำให้ตารางเวลาของคุณคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่ยังไงก็อยากให้มาถึงวัดธรรมมิกราชไม่เกินเที่ยงครึ่งครับ) วัดธรรมมิกราชเป็นวัดหลวงเก่าแก่ที่พระมหากษัตริย์เสด็จมาฟังธรรมกันประจำในวันพระ และเป็นสถานที่สอบเปรียญธรรมสำหรับพระสงฆ์ในสมัยโบราณ ปัจจุบันยังเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่


 

 

6. วัดหน้าพระเมรุ

13:00 น.   เดินทางสู่วัดหน้าพระเมรุ
 ออกจากวัดธรรมมิกราช เลี้ยวซ้ายไปตามถนนไม่เกิน 300 เมตรจะเห็นสะพานข้ามคลองอยู่ขวามือ ข้ามสะพานนั้นกันเลย ขับไปแค่นี๊ดเดียวเลี้ยวซ้ายก็ถึงวัดหน้าพระเมรุแล้ว อยู่ขวามือ วัดนี้เป็นวัดโบราณวัดเดียวในอยุธยาที่ยังคงสภาพสถาปัตยกรรมแบบอยุธยาที่สมบูรณ์มากที่สุด เนื่องจากเป็นวัดที่พม่าเคยใช้ตั้งกองบัญชาการรบ จึงไม่ได้ถูกพม่าเผาทำลาย นมัสการพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ พระประธานในอุโบสถซึ่งสร้างปลายสมัยอยุธยา เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหล่อสำริดมีความงดงามมาก  

 

7. วัดเชิงท่า

13:30 น.   เดินทางสู่วัดเชิงท่า
 ออกจากวัดหน้าพระเมรุ เลี้ยวขวาไปอีกหน่อยก็ถึงวัดเชิงท่าอยู่ซ้ายมือ ห่างกันแค่ 300 เมตรเอง วัดเชิงท่าเป็นวัดที่มีพระภิกษุสงฆ์จำพรรษาอยู่นะครับ เข้าไปไหว้พระประธานในพระอุโบสถ แล้วสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จากนั้นก็เดินชมโบราณสถานต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น ปรางค์ประธาน  มุขปรางค์ วิหาร เจดีย์ราย ศาลาการเปรียญ ฯ สักครึ่งชั่วโมงก็น่าจะพอ



 

8. วัดท่าการ้อง

14:00 น.   เดินทางสู่วัดท่าการ้อง
 ออกจากวัดเชิงท่าขับลึกต่อไปตามถนนเดิม (ออกจากวัดเลี้ยวซ้าย) ตรงมาประมาณ 160 เมตรจะเจอถนนใหญ่หน่อย เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนนั้น ขับมาประมาณ 250 เมตรจะเจอสามแยกประตูชัย เลี้ยวขวาสู่ถนนอู่ทอง ขับมาเรื่อยๆ เลียบแม่น้ำมาอีกประมาณ 1.6 กิโลเมตรจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวขวาขึ้นสะพานกษัตราธิราช(ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ลงสะพานไป 150 เมตรเจอสี่แยกหัวแหลม ให้เลี้ยวขวาเข้าซอย ขับเลียบคลองส่งน้ำไป (เราจะผ่านวัดกษัตราธิราชก่อนแต่ยังไม่แวะนะครับ) ขับเข้าไปประมาณ 800 เมตรจะเจอโค้งซ้าย พอหมดช่วงโค้งปั๊บให้สังเกตขวามือให้ดีจะมีซอยทางเข้าวัดท่าการ้อง มีป้ายบอก ขับเข้าไปอีก 250 เมตรก็ถึงแล้ว วัดท่าการ้องนี้ทันสมัย ไฮเทค แปลกกว่าวัดอื่นๆ จนเรียกได้ว่าเป็นเอนเตอร์เม้นท์คอมเพล็กซ์ด้านศาสนา ทั้งตุ๊กตาปูนปั้น หุ่นคน หุ่นสัตว์ บางตัวมีกลไกลแมคานิคขยับได้ และเครื่องทำบุญเสี่ยงทายออโตเมติกต่างๆ และที่เด็ดสุดคือห้องน้ำติดแอร์ ด้าน หลังของวัดท่าการ้องได้จัดให้เป็นตลาดน้ำ ขายพวกของกินหลากหลายชนิด ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ ข้าวผัด ของกินเล่น ราคาของกินที่นี่ราคาก็ไม่แพง วัดนี้ให้เวลาไปเต็มๆ 1 ชั่วโมงเลย

 

 

9. วัดกษัตราธิราชวรวิหาร

15:00 น.   เดินทางสู่วัดกษัตราธิราชวรวิหาร
 มาถึงวัดที่ 9 ของเรากันแล้ว ออกจากวัดท่าการ้องขับรถย้อนกลับมาทางเดิม(จำได้ไหมครับเราขับผ่านวัดกษัตราธิราชวรวิหารไปก่อนแล้วตะกี้นี้) วัดกษัตราธิราชวรวิหารเป็นพระอารามหลวงเก่าสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งนอกเกาะเมืองทางด้านทิศตะวันตก และด้วยทำเลนี้เองพม่าจึงได้ยกทัพมาตั้งที่วัดและใช้เป็นที่ตั้งปืนใหญ่เพื่อใช้ยิงข้ามแม่น้ำเข้ามาในพระนคร แวะมาไหว้พระและให้อาหารปลากันได้ พร้อมชมวิวพระเจดีย์ศรีสุริโยทัยที่อยู่ฝั่งเกาะเมือง 

 



 
ครบ 9 วัดแล้วเย้! เวลาที่เหลือ ขอชวนไปเที่ยวกันบ้าง

 

 

15:30 น.   เดินทางสู่ตลาดน้ำอโยธยา

 

จากวัดกษัตราธิราชไปสู่ตลาดน้ำอโยธยาจะมีระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากวัดขับกลับไปถนนใหญ่ เลี้ยวซ้ายข้ามสะพานเดิม(สะพานกษัตราธิราช) พอลงสะพานเจอสี่แยกเดิมให้เลี้ยวขวา ขับโค้งไปตามถนน (จะเจอถนนซ้ายมือที่มีคลอง ไม่ต้องเลี้ยวนะครับ) ขับไปจนผ่านหน้าโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แล้วจะเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงไปอีก 700 เมตรเจอสามแยกให้เลี้ยวขวา คราวนี้ขับตรงยาวมาจนข้ามสะพานปรีดี-ธำรง(ข้ามแม่น้ำป่าสัก) จนมาเจอวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้มอีกครั้ง คราวนี้เลี้ยวซ้าย ขับไป 1 กิโลเมตรก็จะเห็นตลาดน้ำอโยธยาทางขวามือ

 

ตลาดน้ำอโยธยาเป็นตลาดขายสินค้าล้อมรอบไปด้วยน้ำในรูปแบบของตลาดน้ำ มีร้านค้าหลากหลาย ทั้งร้านขายอาหารคาวหวาน อาหารทะเล เรือขายอาหาร ขนม ของฝาก ร้านขายสินค้า OTOP ร้านนวดเพื่อสุขภาพ มีบริการล่องเรือชมบรรยากาศรอบๆ ตลาดน้ำ มีกิจกรรมให้อาหารปลาคาร์ฟ ป้อนนมแพะ ป้อนอาหารแกะ ชมควายไทย ถ่ายรูปคู่กับเสือ วาดภาพเหมือน และตรงด้านหน้าจะเป็นปางช้างสามารถป้อนอาหารช้างได้ 


 

ให้เวลากับการเดินเที่ยวไปเลย 1 ชั่วโมงครึ่ง แต่อย่าพึ่งกินอะไรจนอิ่มนะครับ เพราะเดี๋ยวเราจะไปดินเนอร์ริมแม่น้ำเจ้าพระยากัน อ้อ..และถ้าจะซื้อของฝากซื้อกันที่นี่เลยนะครับ ใช้เวลาที่นี่กัน 1 ชั่วโมงครึ่งไปเลย 

  

17:00 น. เดินทางสู่ร้านอาหารไทรทองริเวอร์
 ถึงเวลาอาหารเย็นกันแล้ว ขับรถออกจากตลาดน้ำฯ มาทางวงเวียนเจดีย์วัดสามปลื้ม เลี้ยวขวาป๊าบ ขึ้นสะพานปรีดี-ธำรง ลงสะพานไปประมาณ 1 กิโลเมตรจะเจอสี่แยก ให้เลี้ยวซ้าย (ก่อนหน้าแยกนี้จะมีสี่แยกที่เป็นคลองลอดผ่าน ยังไม่ใช่นะครับ แยกที่เราจะเลี้ยว สังเกตขวามือจะมีปั๊มน้ำมัน) เลี้ยวซ้ายเข้ามา 270 เมตรก็จะเจอสามแยก เลี้ยวขวาไปนิดเดียวก็จะเจอร้านอาหารไทรทองริเวอร์อยู่ซ้ายมือ มีต้นไทรใหญ่กลางร้าน ร้านนี้เป็นร้านริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศดี กว้างขวาง โล่งสบาย ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ก็พามาทานได้ เหมาะกับการมากินปิดท้ายทริป อาหารที่นี่จะเป็นอาหารไทย และถ้าจะให้สมกับมาอยุธยาก็ต้องสั่งเมนูพวกปลาน้ำจืดและกุ้งแม่น้ำ ชอบปรุงแบบไหนก็สั่งกันมาเลย อ้อ..ถ้าจะให้ชิลควรโทรจองโต๊ะ Open Air ริมแม่น้ำครับ 035-241-449  

 

ทริปนี้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ และอิ่มท้องครับ  เสร็จแล้วก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ  แล้วพบกันใหม่ในทริปหน้า สวัสดีครับ

 

 

 

เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close