bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

One Place, Two Perspectives เปิดมุมใหม่ฮ่องกงที่คุณอาจไม่เคยรู้ว่ามีแบบนี้ด้วย

calendar_month 19 ธ.ค. 2018 / stylus นางสาวฮานะ ชิลไปไหน / visibility 8,464 / สถานที่ยอดนิยม


ถ้าพูดถึงฮ่องกง คุณนึกถึงอะไรคะ??

 เมืองแห่งการช้อปปิ้ง ตึกสูงดีไซน์แปลกตา เทคโนโลยีที่ทันสมัย....

ทุกอย่างที่กล่าวมาต่างเป็นภาพจำของฮ่องกงแทบทั้งสิ้น แต่คุณอาจจะไม่เคยรู้ว่าพื้นที่ 3 ใน 4 ของฮ่องกงนั้นยังเป็นพื้นที่ชนบทมีที่เที่ยวทางธรรมชาติมากมาย ที่สวยงามตระการตาและยังสามารถเดินทางได้ง่าย บางสถานที่คุณอาจจะได้เห็นภาพความสวยงามของตึกสูงตัดกับพื้นที่ทางธรรมชาติขนาดใหญ่ใจกลางเมือง หรือบางครั้งถ้าคุณเบื่อป่าคอนกรีตอยากปีนเขาก็สามารถสัมผัสประสบการณ์ปีนเขาได้จากหลังบ้านเลย นี่แล่ะค่ะ สิ่งที่ทำให้ฮ่องกงแตกต่างจากสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ในโลก

แล้ววันนี้เราจะพาคุณไปสัมผัส ฮ่องกงในมุมมองใหม่ "หนึ่งสถานที่ สองมุมต่าง One Place, Two Perspectives" ที่ทางการท่องเที่ยวฮ่องกงร่วมกับเนชั่นแนล จีโอกราฟิก นิตยสารและช่องรายการโทรทัศน์คุณภาพระดับโลก เปิดตัวแคมเปญ “Great Outdoors” ครบรอบ 10 ปี เผยโฉมทิวทัศน์สุดงดงามอลังการ 13 แห่งของมหานครฮ่องกง ในรูปแบบคู่มือไกด์บุ๊ค Your Guide to Hiking & Cycling in Hong Kong แนะนำเส้นทางท่องเที่ยวเดินเขาและปั่นจักรยานในฮ่องกง พร้อมโฟโต้แกลลอรี่รวมภาพถ่ายสวย ๆ จากช่างภาพชื่อดังของเนชั่นแนล จีโอกราฟิก และกูรูผู้เชี่ยวชาญทางธรรมชาติ ซึ่งวันนี้ชิลไปไหนขอเสนอ 3 เส้นทางสัมผัสธรรมชาติของฮ่องกงที่เราเชื่อว่าคุณอาจจะไม่เคยรู้ว่ามีแบบนี้ในฮ่องกงด้วย ตามไปชมกันเลยค่ะ


หมู่บ้านโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าอันอุดมสมบูรณ์

ถ้าคุณอยากถอดปลั๊กจากชีวิตอันวุ่นวาย (unplug and unwind) ไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามพร้อมกับเรียนรู้วัฒนธรรมอันเก่าแก่ เราขอแนะนำเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติ Plover Cove Country Park การเดินทางก็ไม่ยากค่ะสามารถนั่ง MTR ไปลงสถานี Tai Po Market แล้วนั่งรถมินิบัสสีเขียวสาย 20R ไปลงสถานี Wu Kau Tang โดยใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเท่านั้น

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

เส้นทางเดินป่าครั้งนี้เราจะเริ่มต้นที่ Wu Kau Tang หมู่บ้านของชาวจีนแคะที่ยังคงอนุรักษ์หลังคากระเบื้องอันเป็นเอกลักษณ์ ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาและขุนเขา รอบๆ หมู่บ้านมีป่าไผ่ขึ้นอยู่มากมายโดยป่าไผ่เหล่านี้ทำหน้าที่เป็นแนวป้องกันทางธรรมชาติ และชาวจีนแคะยังใช้ไผ่เหล่านี้ในการก่อสร้าง เป็นเชื้อเพลิง และป้องกันการกัดเซาะจากหน้าดินอีกด้วยค่ะ

เดินชมหมู่บ้านกันแล้วเราก็จะเริ่มเดินป่าศึกษาธรรมชาติโดยใช้เส้นทางโบราณ Miu Sam Ancient Trail ไปยัง Sam A Wan พื้นที่ป่าชายเลนที่คุณจะได้พบปูและปลาตีน จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง Sam A Tsuen Pier ซึ่งเป็นที่ท่าเรือที่สามารถชมวิว Double Haven หรือ Yan Chau Tong ซึ่งตั้งอยู่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของ Plover Cove Country Park ได้อย่างสวยงาม

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

และจุดสิ้นสุดของเส้นทางสายนี้คือหมู่บ้านโบราณ Lai Chi Wo หมู่บ้านโบราณของชาวจีนแคะซึ่งสร้างมาประมาณ 400 กว่าปี อยู่ในความดูแลขอ Hong Kong UNESCO Global Geopark ที่ยังคงรักษาความเก่าแก่ของสถาปัตยกรรมเอาไว้ จุดเด่นคือประตูทางเข้าหมู่บ้านที่สร้างตามหลักฮวงจุ้ย และยังมีต้นไม้โบราณอายุนับร้อยปีนั่นก็คือต้นเมเปิ้ลที่ตรงกลางเป็นรูซึ่งยังสามารถยืนต้นมาได้จนถึงปัจจุบัน และต้นการบูรห้านิ้วซึ่งเป็นต้นการบูรที่มี 5 กิ่ง แต่หนึ่งในห้ากิ่งโดนตัดออกไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

เส้นทางเดินที่เราแนะนำนี้ใช้ระยะทางประมาณ 8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 5.5 ชั่วโมง แต่เป็นเส้นทางเดินที่ไม่ยาก เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัยเพราะเป็นเส้นทางลงเขาซะส่วนใหญ่ ส่วนขากลับแนะนำนั่งเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือ Lai Chi Wo ไปยัง Ma Liu Shui โดยจะเป็นสถานีเรือเฟอร์รี่ที่ใกล้กับ MTR สถานี University โดยเรือเฟอร์รี่จะมีให้บริการแค่วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ของฮ่องกงเท่านั้น และมีรอบเดียวคือตอน 15.30 น. ค่ะ ใครจะกลับโดยเรือเฟอร์รี่ก็ต้องวางแผนการเดินทางดีๆ ซึ่งถ้าไม่เลือกกลับโดยเรือเฟอร์รี่คุณสามารถเลือกเดินกลับเส้นทางเดิม หรือกลับเส้นทางตรงข้ามระยะทางจะใกล้กว่าประมาณ 4.5 กิโลเมตร แต่เส้นทางนี้จะมีน้องหมาจรจัดอยู่เยอะค่ะ ดังนั้นต้องเดินอย่างระมัดระวังกันนะคะ


ภูมิประเทศที่แปลกตาจนต้องร้องว่ามีแบบนี้ที่ฮ่องกงด้วยเหรอ!!

หลายครั้งที่เรานำภาพนี้ให้คนอื่นได้ชม ทุกคนที่ได้ชมต่างไม่มีใครที่สามารถทายถูกได้เลยว่าที่นี่คือที่ไหน ภาพภูเขาหินรูปร่างแปลกตารังสรรค์ด้วยปรากฏการณ์ของธรรมชาติกลายเป็นแท่งหินรูป 6 เหลี่ยม รูปนี้อยู่ในฮ่องกงเองค่ะ ซึ่งที่นี่คือเส้นทางทางเดินเขาที่ชื่อว่า MacLehose หนึ่งในเส้นทาง 20 แห่งทั่วโลกที่ National Geographic ยกให้เป็นทางเดินเขาในฝัน

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

จุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเขา MacLehose เริ่มต้นที่ High Island Reservoir East Dam การเดินทางนั่งรถ MTR ไปลงสถานี Diamond Hill ออกทางออกที่ 2 แล้วนั่งรถบัสสาย 92 ไปยังเมือง Sai Kung จากนั้นต่อรถแท็กซี่มายัง East Dam ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ซึ่ง High Island Reservoir East Dam แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1970 แม้จะเป็นเขื่อนที่มนุษย์สร้างขึ้นแต่ก็ผสมผสานความงดงามของโครงสร้างทางธรณีวิทยารอบๆ ได้อย่างลงตัวซึ่งที่นี่เป็นจุดเริ่มต้นในการเดินชมธรรมชาติของ Hong Kong UNESCO Global Geopark

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

จาก High Island Reservoir East Dam เดินไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติคุณก็จะพบกับความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่น่าตื่นตากับ Hexagonal Rock Columns ซึ่งเป็น แท่งหินภูเขาไฟหกเหลี่ยมสูง 100 เมตรที่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ กับ High Island Reservoir East Dam และเป็นจุดชมวิวท้องทะเลได้อย่างสวยงาม ซึ่งที่นี่มีจุดไฮไลท์ที่ห้ามพลาดนั่นก็คือ โพรงหินชายฝั่งขนาดใหญ่ และ Po Pin Chau (Po Pin เป็นภาษากวางตุ้งแปลว่าแตกออกหรือแยกออก) เหมาะกับการมาถ่ายรูปสวยๆ อัพลงในโซเชียล รับรองว่าใครที่ได้มาเห็นภาพนี้ของคุณจะทายไม่ถูกเลยว่าสถานที่แห่งนี้อยู่ในฮ่องกงนั่นเอง

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Matthieu Paley

เดินไปตามเส้นทางประมาณ 2 กิโลเมตรคุณก็จะพบกับ Long Ke หาดทรายสีขาวน้ำทะเลสีฟ้าใสจนแทบไม่เชื่อสายตาว่าที่นี่คือฮ่องกง แนะนำจุดชมวิวจากมุมสูงที่ Sai Wan Shan ซึ่งอาจจะต้องปีนเขาขึ้นไปอีกประมาณ 314 เมตร แต่บอกเลยว่าเป็นจุดชมวิวที่ทำให้เราร้องว้าวมากๆ มาถึงตรงนี้ใครที่เหนื่อยแล้วสามารถหยุดที่จุดนี้แล้วไปนั่งรถมินิมัส NR29 ที่ Sai Wan Pavilion กลับตัวเมือง Sai Kung ได้ค่ะ แต่ถ้ากำลังวังชายังไหวแนะนำเดินต่อไปถึงจุดสุดท้ายที่  Pak Tam Au จะผ่านหมู่บ้าน Chek Keng ที่เก่าแก่กว่า 200 ปี ซ่อนตัวอยู่บนปากน้ำอันเงียบสงบ 

สำหรับระยะทางจาก High Island Reservoir East Dam  มายังจุดสุดท้าย  Pak Tam Au ใช้ระยะทางประมาณ 17.5 กิโลเมตร รวมเวลาประมาณ 7 ชั่วโมง แต่ถ้าเลือกเดินครึ่งทางจาก High Island Reservoir East Dam ไปถึง Sai Wan Pavilion ใช้ระยะทางประมาณ 7.5 กิโลเมตร รวมเวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมงเท่านั้น

เส้นทางนี้เป็นเส้นทางค่อนข้างยากโดยมีจุดสูงสุดที่ต้องปีนเขาไปประมาณ 300 กว่าเมตร ดังนั้นจึงเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรณีวิทยา ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า จึงควรเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและร่างกายให้พร้อมสำหรับการปีนเขา


เดินเขา TAI MO SHAN ยอดเขาที่สูงที่สุดฮ่องกงชมวิวแบบ One Place, Two Perspectives

ถ้าคุณอยากสัมผัสฮ่องกงในมุมมอง One Place, Two Perspectives เราขอแนะนำเส้นทางเดินเขา TAI MO SHAN ยอดเขาที่สูงที่สุดในฮ่องกงที่คุณสามารถสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติ สายหมอก ดอกไม้ แต่ก็ยังสามารถชม City View ของฮ่องกงได้แบบพาโนราม่า

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

จุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินเขา TAI MO SHAN สามารถนั่ง MTR ไปลงสถานี Tsuen Wan ออกทางออก A แล้วเดินไปยังป้ายจอดรถประจำทางซึ่งอยู่บนถนน Tai Ho Road North แล้วนั่งรถประจำทางสาย 51 ไปลงสถานี The Country Park จากนั้นแนะนำว่าก่อนจะเข้าไปยัง The Country Park ลองเดินมาชมซากุระสวยๆ ที่ The Country Park ซึ่งที่นี่นำต้นซากุระมาจากไต้หวัน โดยซากุระจะบานประมาณเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนมีนาคม อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระที่ดีที่สุดในฮ่องกงอีกด้วยค่ะ

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

เมื่อชมซากุระกันแล้วก็มาออกเดินทางไปยังยอดเขา TAI MO SHAN ผ่าน Tai Mo Shan Country Park Visitor Centre ซึ่งเส้นทางจะเป็นถนนลาดยางทางที่ไม่ลาดชันมากแวะเยี่ยมชมศูนย์ให้บริการนักท่องเที่ยวที่เขาจะจัดแสดงนิทรรศการที่ให้ความรู้เรื่องภูเขา TAI MO SHAN รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศในปัจจุบัน

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

จากนั้นเดินต่อไปตามเส้นทาง Tai Mo Shan Road ประมาณ 1.5 กิโลเมตรคุณก็จะถึงจุดชมวิว Tai Mo Shan ซึ่งถ้าโชคดีวันที่คุณไปอากาศปลอดโปร่งก็จะได้เห็นวิวทิวทัศน์ทั้งภูเขาที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และความทันสมัยของเมืองฮ่องกงที่เต็มไปด้วยตึกสูงมากมาย และถ้าคุณมาที่นี่ช่วงฤดูใบไม้ร่วงคุณจะสามารถมองเห็นดอกหญ้าแสนสวยและต้นแมดเดอร์ที่ส่งกลิ่นหอมซึ่งขึ้นอยู่ตามเนินเขา

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng

จุดสิ้นสุดในเส้นทางนี้อยู่ที่ Weather Radar Station สถานีเรดาร์ตรวจอากาศทรงกลมสีขาวที่ตั้งอยู่บนยอดเขา Tai Mo Shan สถานีแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สูงที่สุดในฮ่องกงเช่นกันด้วยความสูง 950 เมตร ในวันที่อากาศดีเราสามารถชมวิวสวยๆ ของฮ่องกงทั้งภูเขา ทะเล สะพาน ตึกสูงได้แบบพาโนราม่าเลยล่ะค่ะ ซึ่งรอบๆ สถานีปกคลุมไปด้วยดอกหญ้ายิ่งในช่วงที่พระอาทิตย์ใกล้ตกแสงของพระอาทิตย์โลมไล้ดอกหญ้าเหล่านี้ให้กลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองสวยงามและประทับใจมากๆ

ส่วนการเดินทางกลับสามารถเดินกลับมายังจุดเดิมคือ The Country Park แล้วนั่งรถประจำทางสาย 51 กลับมายัง MTR สถานี Tsuen Wan ได้ค่ะ โดยเส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่ไม่ยากระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร(เที่ยวเดียว) ใช้ระยะเวลาเดินประมาณ 2 ชั่วโมง ทางไม่ค่อยลาดชันแต่เป็นสโลปขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นเส้นทางที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย

เส้นทางที่เรานำมาให้ชมนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งใน 13 สถานที่ที่ทางการท่องเที่ยวฮ่องกงร่วมกับเนชั่นแนล จีโอกราฟิกคัดเลือกมาให้นักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสความสวยงามของฮ่องกงในมุมมองที่แตกต่างได้ออกเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวสุดประทับใจแบบนี้ด้วยตัวเองโดยคุณสามารถ รับ “ไกด์บุ๊คแนะนำเส้นทางเดินเขาและปั่นจักรยานในฮ่องกง” (Your Guide to Hiking & Cycling in Hong Kong) ได้แล้วตั้งแต่วันนี้ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวฮ่องกงทั่วเมือง หรือสามารถดาวน์โหลดไกด์บุ๊คฉบับอีบุ๊คได้ที่  http://www.discoverhongkong.com/eng/plan-your-trip/travel-kit/guides.jsp#outdoors


เส้นทาง DRAGON’S BACK

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng


เส้นทาง NGONG PING

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Tugo Cheng


เส้นทาง SHING MUN COUNTRY PARK

เที่ยวฮ่องกง

Photo credit: Matthieu Paley


แคมเปญในครั้งนี้ไม่ได้เพียงทำให้เรารู้จักที่เที่ยวใหม่ๆ ของฮ่องกงเท่านั้น แต่ยังทำให้เรารู้ว่าธรรมชาติกับมนุษย์นั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ เพียงแค่เราช่วยกันรักษา ดูแล และไม่เบียดเบียนทำลาย ธรรมชาติที่สวยงามเหล่านี้ก็จะยังคงอยู่คู่กับโลกของเราได้อย่างยั่งยืน



เขียนโดย
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน
นางสาวฮานะ ชิลไปไหน