bar_chart
0
favorite
0
shopping_cart
0
ยังไม่มีสินค้าในตะกร้า.

นอนบ้านดิน กินอยู่แบบอาข่า ใช้ชีวิตแบบเนิบช้าที่ดอยหล่อโย

calendar_month 04 ก.ย. 2018 / stylus Admin Chillpainai / visibility 55,215 / รีวิวที่เที่ยว


ใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของจริง ปักหมุด “บ้านหล่อโย” บนดอยแม่สลอง ในตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ไว้ในลิสต์กันได้เลย หมู่บ้านเล็กๆ แห่งนี้ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางสายหมอกบนยอดดอย ห่างไกลจากตัวเมืองโดยการเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 1 ชั่วโมง คุณก็จะได้มาสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอาข่าแบบดั้งเดิมกันแล้ว

13d6e99bd5aa070507383f75d9fff7627759cdad.jpg


เราขับรถขึ้นเขามาตามป้ายและจอดที่หน้า “Akha Mudhouse Maesalong” หรือ บ้านดินอาข่าดอยแม่สลอง ที่นี่เป็นเหมือนศูนย์กลางการท่องเที่ยวของชุมชน โดยเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้วัฒนธรรมชาวอาข่า มีร้านกาแฟ และที่พักโฮมสเตย์แบบบ้านดิน สำหรับคนที่อยากเข้าถึงความเป็นอยู่ของชาวอาข่าอีกด้วย

b41f0555630c3c4fa6fd13dca2c3a22cdc9adaa7.jpg

2eaf8724bd24eb5608498109ad83fb75942a74cd.jpg


พอเราไปถึง ทางที่พักก็นำน้ำชาร้อนๆ หอมๆ ออกมาต้อนรับ พร้อมกับแนะนำข้อมูลท่องเที่ยวภายในชุมชน เรานั่งฟังเรื่องราวจนทราบว่าหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และมีอาชีพหลักเป็นเกษตรกร ทำไร่ทำสวน เช่น ปลูกกาแฟอะราบิก้า ข้าวไร่ และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยพวกเขายังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายอยู่กับธรรมชาติ แม้จะมีประชากรจำนวนไม่มาก ไม่ถึง 100 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเครือญาติพี่น้องที่รู้จักกันแทบทุกบ้าน

8225df3c69fc52665a5ab23d3384b0b593bf28e5.jpg


ระหว่างนั้น เราเห็นไม้ไผ่ถ่ออันยาวๆ ผิงผนังอยู่ เลยขอลองเล่น “ไม้โถกเถก” โดยมีน้องมิ้นกับน้องหมี มัคคุเทศก์น้อยชาวอาข่าช่วยสอนอยู่ข้างๆ พอขึ้นไปแล้วทรงตัวเดินยากกว่าที่คิดนิดหน่อย…แต่สนุกตื่นเต้นแถมเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอดเลยค่ะ

8502faff4bd2ef6fe7132ba4055ee421c40bb6db.jpg


จากนั้นเราออกไปเดินเที่ยวรอบๆ ชุมชนกับเด็กๆ ระหว่างทางสังเกตเห็นว่าแม้บางบ้านจะมุงหลังคากระเบื้องแบบสมัยใหม่ แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นบ้านหลังคามุงด้วยใบจากหรือสังกะสี แม้บ้านของชาวบ้านที่นี่จะไม่ใหญ่โตหรูหรา แต่แทบไม่มีขยะเกลื่อนกลาดทิ้งให้เห็นในชุมชนเลย

2ef17f0d646ec1c376e6b608189951bc6112af61.jpg


เด็กๆ พาพวกเราไปแวะบ้านชาวบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งคุณลุงกำลังนั่งแกะข้าวโพดอยู่หน้าบ้าน น้องๆ คุยกับคุณลุงเป็นภาษาอาข่า ก่อนเอ่ยชวนเราให้ลองแกะเมล็ดข้าวโพดดู ซึ่งเมล็ดที่ได้จะเอาไปใช้เลี้ยงสัตว์อีกที เราสังเกตว่าชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุจะยังคงพูดภาษาอาข่าแบบดั้งเดิม แต่พอฟังภาษาไทยได้บ้าง ในการสนทนาต้องใช้น้องๆ มัคคุเทศก์ช่วยเป็นล่ามในการสื่อสารกัน

63b30cf65eb7f4e8ac562ff012649b8cc8349eda.jpg


ชาวบ้านที่นี่บางคนยังคงอนุรักษ์การแต่งกายชุดอาข่าแบบดั้งเดิมไว้ แต่ส่วนใหญ่ก็ใส่ชุดปกติ โดยจะใส่ชุดประจำเผ่าเฉพาะในงานประเพณีหรือการแสดงพิเศษให้นักท่องเที่ยวชมเป็นบางโอกาส

813389f64ff083b8513bc85b69f179878c1d39cb.jpg


จากนั้นเด็กๆ พาเราเดินเที่ยวสำรวจหมู่บ้านกันต่อ โดยลัดเลาะตัดไปตามสันเขา ผ่านเข้าไปยังสวนของชาวบ้าน ที่นี่มีทั้งสวนส้มโอ ต้นกาแฟ เสาวรส และยังมีลูกไม้ป่าแปลกๆ ที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนด้วย

6e753c81c1b79d4bd5f9065c1661444f594ccc0a.jpg


เด็กๆ ลองเก็บลูกไม้ป่าหน้าตาแปลกๆ มาให้เราลองชิม แม้จะรสชาติไม่คุ้นลิ้น แต่ก็เป็นการแสดงน้ำใจของพวกเขา และยังแสดงให้เห็นถึงความผูกผันระหว่างคนกับป่าที่ต่างพึ่งพิงอาศัยกันอย่างแนบแน่น

a41feb0b47625c2f0e76b7b999793633e9065d77.jpg

fa99fce361cc8e28911dcb54861fee5b744f7ad0.jpg


เราเดินสำรวจสวนป่าของชาวบ้านสักพัก เด็กๆ ก็พาตัดออกมาที่ถนนเส้นหลักในหมู่บ้าน เพื่อไปเล่นโล้ชิงช้าอาข่ากัน โดยปกติชาวอาข่าจะจัดประเพณีโล้ชิงช้า หรือที่เรียกว่า "แย้ขู่อ่าเผ่ว " ขึ้นทุกๆ ปี ในช่วงประมาณปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนซึ่งจะตรงกับช่วงที่ผลผลิตกำลังงอกงามพอดี แม้เราจะมาไม่ตรงกับช่วงที่มีงานพิธีโล้ชิงช้า แต่น้องๆ ก็สาธิตวิธีการโล้ชิงช้าให้เราดูและยังได้ทดลองเล่นอีกด้วย เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสนุกไปอีกแบบหนึ่ง

f146ba5b88957185616d8138828a8566c63084fe.jpg


ใกล้ๆ กันกับชิงช้า ยังมีมุมให้เราได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันด้วย เราเลยขอแช๊ะภาพประทับใจกับมัคคุเทศก์ตัวน้อยทั้งสองคนไว้ซะหน่อย

b094a72837e7f48b72471bd9c78ade5a3e828302.jpg


จบจากทริปเที่ยวหมู่บ้านแล้ว เรากลับมาเข้าคอร์สเรียนทำอาหารอาข่ากับชาวบ้านในที่พักกันต่อ โดยลองทำเมนูเด็ดขึ้นชื่อ อย่าง “น้ำพริกอาข่า” โดยขั้นตอนเริ่มจากนำพริก และมะเขือเทศมาย่าง จากนั้นปอกเปลือกพร้อมกับใส่หอมชูทั้งต้นลงไปตำให้ละเอียด ปรุงรสด้วยเกลืออย่างเดียว เพราะน้ำพริกอาข่าจะไม่ใส่น้ำปลา

21f49c2a7a813ea8c5ceabab2298d291ca7bcc68.jpg


เวลาชิม พี่ๆ ที่สอนเราทำอาหารบอกให้ม้วนใบหอมชูพันกับราก ใช้แทนช้อนจิ้มน้ำพริกจากครกมาลองชิมรสดู ซึ่งปกติแล้วน้ำจิ้มอาข่าจะกินพร้อมกับเครื่องจิ้ม (ลอเชาะ) ที่เป็นผักน้ำและผักพื้นบ้านอย่างพลูคาว หรือผักคาวตอง ยอดกาแฟ ผักแพวหรือผักไผ่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผักสมุนไพรพื้นบ้านที่มีสรรพคุณเป็นยาอีกด้วย

cc7d036d0cfbbf0707d87f413743b400263531cb.jpg


นอกจากนี้ ในขันโตกยังมีเมนูอาหารอาข่าอื่นๆ ให้ลิ้มลอง อาทิ ลาบหมูสมุนไพร ผัดผักยอดมะระหวาน แกงจืดฟักเขียวหรือ ฟักทองตามฤดูกาล ไข่เจียวสมุนไพรใส่ใบหอมชูและขิง ทุกเมนูเป็นอาหารพื้นบ้านที่ทำไม่ยาก และยังดีต่อสุขภาพเพราะใช้ผักพื้นบ้านปลอดสารพิษมาปรุงเป็นอาหารแบบสดใหม่ทุกวัน

1e53d318e4482136959f3e82d3ac3fe80d5ddf66.jpg


การมาเยือนหมู่บ้านหล่อโยครั้งนี้ แม้จะมีเวลาไม่มากนัก แต่เราก็ได้สัมผัสกับวิถีการกินอยู่ของชาวอาข่าแบบครบถ้วน ทั้งได้ทดลองทำเมนูที่เป็นหัวใจของอาหารอาข่า เดินเที่ยวในชุมชนพบปะพูดคุยกับชาวบ้าน ใครมาเที่ยวดอยแม่สลอง เชียงราย ลองหาโอกาสมาเที่ยวที่ชุมชนหมู่บ้านหล่อโยกันดู แล้วจะรู้ว่าความสุขของการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์หาได้ง่ายๆ ที่นี่เอง…

5405464ce48302387e12d799b2409d7fc2c81595.jpg


ที่ตั้ง : บ้านดินอาข่า (Akha Mudhouse Maesalong)  หมู่บ้านหล่อโย ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย

พิกัด GPS : 20.123005, 99.611720
ติดต่อท่องเที่ยวชุมชนได้ที่ : คุณโยฮัน- ประกาศิต เชอมือกู่ โทร. 093-258 -9994



เขียนโดย
Admin Chillpainai
Admin Chillpainai
close